อำมาตย์ ที่รัก "ป๋าครับ พาผมกลับบ้านด้วย"

ปีนี้ สงกรานต์ที่เทเวศร์ มาล่ากว่าทุกปีถึงสิบวัน เพราะไม่มีใครป้อนโปรแกรม ใส่หัวนายกฯ นกแก้ว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึง ไม่รู้หน้าที่ มัวแต่พาลูกชายไปแอ่วเหนือ เล่นน้ำที่เชียงใหม่ จนพี่ชาย ต้องออกปากเตือนแรงๆว่า เป็นนายกฯมาได้ 7-8 เดือนแล้ว พี่ยังกลับบ้านไม่ได้สักที ตอนที่หนีศาลไป ก็อ้างว่า จะไปดูโอลิมปิกส์ที่ปักกิ่ง นีอีก 2 เดือน จะแข่งกันอีกแล้ว ไม่เห็นใจพี่บ้างหรือ กลับจากจีนแล้ว รีบไปหาป๋านะ แล้วไปบอกไอ้ตู่ ไอ้เต้น หมอเหวงกับเมียมันด้วยว่า เลิกเพ้อเจ้อเรื่อง 15 ล้านเสียงได้แล้ว มันจบไปแล้ว ได้รับการตอบแทนกันไปทุกคนแล้ว ไม่ใช่หรือ มีเสียงเดียวเท่านั้น ที่จะพาพี่กลับบ้านได้

พิธีกรรม ที่นายกฯนกแก้ว จะพารองนายกรัฐมนตรี เข้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ รดดำน้ำหัว ขอพรจาก พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เนื่องในวันสงกรานต์ ในวันพรุ่งนี้ เป็นประเพณีที่ดีงาม ที่คนที่อยู่ในตำแหน่งผู้นำประเทศ แม้จะเป็นแค่หุ่นเชิด หุ่นโชว์ จะแสดงความกตัญญู รุ้คุณ ต่อ ผู้หลัก ผู้ใหญ่ของบ้านเมืองอย่าง ป๋าเปรม

ที่จริงแล้ว ถ้าจะทำกันอย่างเงียบๆ แบบ “ ว. 5 โฟร์ซีซันส์ “ รู้กันภายในไม่กีคน ไม่ต้องตีปี๊ป ประชาสัมพันธ์ล่วงหน้านานๆ ให้นักข่าวไปรู้กัน ใน วันที่เข้าบ้านสี่เสาแล้ว ก็ทำได้ แต่การที่ต้องสร้างข่าว กันใหญ่โต ก็เพราะต้องการใช้ประเพณีไทยอันดีงามนี้ เป็นเครื่องมือในทางการเมือง ทั้งสร้างภาพผลงานแบบฉาบฉวย ให้กับ นายกฯนกแก้ว และเพื่อสร้างภาพให้สังคมเห็นว่า “ ทักษิณ” ยอมถอยให้แล้ว เป็นฝ่ายยื่นมือไปให้ป๋าเปรม เพื่อสร้างความปรองดอง

เล่นไพ่ทุกใบ เดินเกมทุกด้าน เพื่อให้ตัวเองได้กลับประเทศ โดยไม่ต้องรับโทษ และได้เงิน46,000 ล้านบาทคืน ก็ขนาด หลอกให้คนเสื้อแดงมาตาย กลางเมือง เพื่อโค่นรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อสงกรานต์ ปี 2553 ก็ทำได้ลงคอมาแล้ว จะไปสนใจอะไรกับเสียงค่อนแคะว่า ทรยศต่อคนเสื้อแดง หันไปเกี้ยเซียะกับอำมาตย์ ประเดี๋ยว พวกมติชน ก็เขียนแก้ให้เอง

สามปีที่แล้ว นช. ทักษิณ วิดิโอลิงค์ มาในที่ชุมนุมของคนเสื้อแดง ที้ล้อมทำเนียบรัฐบาลอยู่ เมื่อคืนวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2552 ว่า พลเอกเปรม คือ“ ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ”

“ ปรากฏว่า มีองค์มนตรีบางท่าน ได้บอกกับสื่อ โดยแอบอ้างว่า พระเจ้าอยู่หัว ไม่เอาผมแล้ว ให้สื่อตี ม็อบก็เลยกลายเป็นม็อบมีเส้น เอเอสทีวี ที่ได้รับการคุ้มครองจากศาลปกครอง จนเกิดการปฏิวัติ ให้ออกอากาศล้มล้างรัฐบาล พูดโกหกมาโดยตลอดเวลา รัฐบาลก็ทำอะไรไม่ได้ ผมก็พูดความจริง แต่ยังไม่กล้าพูดเต็มที่

ขอบอกตรงนี้ว่า ถูกผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญแทรกแซง ทำให้ข้าราชการเริ่มเกียร์ว่าง เพราะผู้มีบารมีฯสามารถสั่งการได้ และข้าราชการก็ยอมฟัง คำว่า ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญก็เป็นคำที่ฮือฮามาก นายสนธิ ไปกล่าวหาว่าผมหมายถึง “พระเจ้าอยู่หัว ” ไม่ใช่ผม ผมมิบังอาจ แต่ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ หมายถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ แต่ผมไม่ได้พูดในวันนั้น มีคนของท่านโทรมาบอกชัด หลังจากนั้น ท่านแต่งเครื่องแบบเดินสายด่าผม และพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ไปด้วยนั่นคือคู่หู

ทั้งนี้องคมนตรี เป็นที่ปรึกษาของพระมหากษัตริย์ จึงมีหน้าที่ให้คำปรึกษาต่อพระมหากษัตริย์ แต่ที่พูดถึงไม่ใช่ฐานะองคมนตรี เรื่องนี้ต้องระวังคำพูด เพราะการที่องคมนตรีเข้ามาเกี่ยวข้องการเมือง เป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่ง ทำให้คนเข้าใจว่า พระเจ้าอยู่หัวมาเกี่ยวข้องการเมือง ท่านสถิตย์อยู่ในที่สูง ขอให้ทุกคนที่อยู่รอบข่างพระองค์อย่างยุ่งการเมือง เพราะทำให้พระเจ้าอยู่หัวเสื่อมเสียไปด้วย …”

ทักษิณ ยังให้สัมภาษณ์ นายทอม เพลต ผู้สื่อข่าวชาวอเมริกัน มื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2553 ซึ่งเรียบเรียงออกมาเป็นหนังสือชื่อ Conversation with Thaksin พาดพิงถึงพลเอกเปรมว่า

"ท่านเป็นคนที่มีอำนาจสูงสุดในคณะองคมนตรี ท่านมีอิทธิพลต่อนายกรัฐมนตรี "คุณทำอย่างนี้ คุณต้องไม่ทำอย่างนั้น" และเขาสามารถบอกผู้บัญชาการกองทัพบก และกองทัพอากาศ ว่า "คุณควรทำอย่างนั้น คุณไม่ควรทำอย่างนี้"

ในช่วงรัฐบาลของผม ก่อนที่ผมจะถูกขับไล่ ท่านซึ่งอายุกว่า 80 ปี ใส่เครื่องแบบทหารเยี่ยมโรงเรียนทหารทุกแห่ง และกล่าวปาฐกถา ในปาฐกถาครั้งหนึ่ง ท่านเปรียบเปรยว่า "สถาบันทหารไทยเป็นเหมือนม้า ม้าไม่ต้องฟังเสียงของจ็อกกี้" ท่านกำลังให้สัญญาณต่อทหารว่า อย่าฟังนายกรัฐมนตรี"

ในสงครามไพร่โค่นอำมาตย์ เมื่อสงกรานต์สองปีก่อน ซึ่งเขียนบทโดยทีมงานมวลชนของทักษิณ และสร้างขึ้นจากเลือดเนื้อ ชีวิตของคนเสื้อแดง -ทหาร -ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซากอาคารที่ถูกเพลิงไหม้ พลเอกเปรม ถูกวางบทบาทให้เป็นหัวหน้าอำมาตย์ โดยมีนายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ฯลฯ เป็นหัวหน้าไพร่ ที่นำทัพคนเสื้อแดงเข้าต่อสู้กับระบอบอมาตยธิปไตย

สงกรานต์ปีนี้ นช. ทักษิณ ฝากความปรารถนาดี ข้ามโขงจากนครเวียงจันทน์ มายัง ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญว่า

"จริงๆ แล้ว ป๋าเปรมเป็นผู้ใหญ่ที่ผมเคารพรักท่าน ตอนที่อยู่ไปกราบเคารพท่านเป็นประจำ ปีนี้ท่านอายุมากแต่ยังท่านแข็งแรง ยังอิจฉา ถ้าผมอายุน้อยกว่าท่านหน่อย จะแข็งแรงเท่าท่านหรือไม่ สุขภาพดีมาก ก็ฝากกราบความปรารถดีให้ท่านสุขภาพท่านดีต่อไป เพราะสุขภาพท่านดีมาก ทั้งสุขภาพกายและจิต เป็นการรักษาสุขภาพที่เราน่าเอาอย่าง”

ในขณะที่ น้องสาว การันตีเองว่า พลเอกเปรม ไม่เคยยุ่งเกียวกับการเมือง

แปดเดือนของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ภาพที่ปรากฎดูเหมือน นช. ทักษิณ จะกุมอำนาจทุกภาคส่วนได้อย่างเบ็ดเสร็จ แม้จะยังไม่สามารถแทรกแซงกองทัพได้อย่างที่ต้องการ แต่ผู้นำเหล่าทัพ โดยเฉพาะพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ก็มีท่าทีชัดเจนว่า ยอมรับในอำนาจของฝ่ายการเมือง ตราบใดที่ไม่แตะต้องสถาบัน และยุ่งเกียวกับผลประโยชน์ของกองทัพ ในขณะที่กระบวนการฟอกความผิดให้ นช. ทักษิณ ก็เดินหน้าอย่างเต็มตัว โยนก้อนหินถามทางไปทุกทิศทาง ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การผลักดัน พรบ. นิรโทษกรรม โดยอ้างเสียงข้างมาก ในสภาฯ ฝ่ายที่ต่อต้านก็อยู้ในสภาพอ่อนล้า กระจัดกระจาย รวมกันไม่ติด

ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ทำไมต้องพลิกลิ้น กลืนน้ำลายลงคอ ส่งตัวแทนคลานเข่าเข้าไป คารวะมหาอำมาตย์ ที่ตัวเองกล่าวหาว่า เป็นศัตรูกับระบอบประชาธิปไตย หรือว่า ความยิ่งใหญ่ที่เห็น เป็นเพียงภาพลวงตา ที่แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่มั่นใจว่า เป็นของจริงหรือไม่