“พล.ต.อ.ประชา” อ้างการปรองดองแค่เป็นเรื่องเริ่มต้น ยันยังไม่ถึงขั้นว่าด้วยการล้างคดี ซัดฝั่งตรงข้ามแผ่นเสียงตกร่อง พูดไม่จบทำเพื่อคนคนเดียว ยันไม่มีใครคิดทำเพื่อใคร ชี้ปรองดองเป็นเรื่องของประเทศชาติ
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล ออกมาระบุว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่เสร็จอาจจะมีการเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองว่า เรื่องนี้ไม่ทราบ ต้องเรียนถามท่าน แต่ยังไม่ได้มีการเตรียมการอะไร เรื่องนี้เราต้องดูยุทธศาสตร์ว่าเราจะเดินอย่างไร รวมถึงบรรยากาศและความเหมาะสมหลายๆ อย่างประกอบกัน จะไปตั้งใจทำอย่างนั้นอย่างนี้คงยังไม่ชัดเจนถึงตรงนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของรัฐบาลจะแสดงให้ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยเพราะเห็นว่าทำเพื่อคนคนเดียวให้หมดไปได้อย่างไร พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า เราก็พยายามพูด และทำความเข้าใจกันว่าเป็นเรื่องของประชาธิปไตย เป็นเรื่องของส่วนรวม เป็นเรื่องของประชาชน เป็นเรื่องของประเทศชาติ คงไม่มีใครคิดทำเพื่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดเพื่อคนคนเดียวเพราะนี่เป็นเรื่องของประเทศชาติ
ผู้สื่อข่าวแย้งว่า แต่ประเด็นนี้อีกฝ่ายก็พยายามจับขึ้นมาพูดตลอดเวลา พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า อันนั้นก็พูดตลอดมาเป็นแผ่นเสียงตกร่อง ซึ่งต้องมีการทำความเข้าใจกัน เมื่อถามอีกว่า ตัวเองก็ตกร่องเหมือนกัน เพราะไม่มีการพูดให้จะแจ้ง พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า เรื่องปรองดองเป็นเรื่องที่ดี เพราะคนเราไม่ทะเลาะกันได้เป็นเรื่องดีที่สุด ทะเลาะกันแล้วก็เลิกกันได้ เหมือนสามีภรรยา จะทะเลาะกันทั้งปีทั้งชาติตลอดชีวิตคงเป็นไปไม่ได้ มีเช้าบ้าง เย็นบ้าง วันนี้ พรุ่งนี้ ก็ต้องมีโอกาสที่จะคุยกันได้ เรื่องปรองดองนี้ก็เหมือนกัน ถ้าเราทำความเข้าใจร่วมกัน หันหน้าเข้าหากันซักนิด ฟังกันนิดฟังกันหน่อย ตนว่าโอกาสเป็นไปได้มันก็มี ทะเลาะกันมันไม่มีความสุข
ส่วนการปรองดองโดยไม่มีการล้างคดีได้หรือไม่นั้น พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า เรายังไม่ได้พูดถึงตรงนั้น ตอนแรกเรามาพูดกันก่อนว่าจะปรองดองกันได้ไหม จะปรองดองกันอย่างไร ค่อยๆ เป็นขั้นตอนไป อันไหนที่เราคิดว่ายังไม่เหมาะสมเราก็พูดกันได้ว่ามันไม่เหมาะสมอย่างไร แต่ในหลักการมันต้องเริ่มกันก่อนว่าเราต้องพร้อมที่จะปรองดองกัน ส่วนอันไหนได้หรือไม่ได้ก็ว่ากันไปทีละเรื่องทีละประเด็น ตนคิดอย่างนั้นเพราะหลักความจริงต้องเป็นอย่างนั้น
ส่วนที่รัฐมนตรีบางคนบอกว่าปรองดองเท่ากับนิรโทษกรรม ไม่มีนิรโทษกรรมปรองดองไม่ได้นั้น พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า ตนไม่อยากให้มองถึงขั้นนั้น เราต้องมองกันก่อนว่าเราพร้อมจะปรองดองกันหรือไม่ ยุทธศาสตร์ปรองดองอยู่ตรงไหน เป้าหมายอยู่ตรงไหน เอาตรงนี้ก่อน ถ้าเราทำความเข้าใจตรงนี้มันก็จะเดินได้ คือ ถ้ายังไม่ตั้งไข่เลยก็ยังเดินไม่ได้ ต้องตั้งไข่ก่อนถึงจะเดินได้ พอเดินไปสะดุดตรงนี้เราจะไปอย่างไร เราจะว่าอย่างไรตรงจุดนี้ เราก็ต้องทำความเข้าใจกันทีละจุดทีละตอน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ลงทุนจ้างสถาบันพระปกเกล้าทำวิจัย ยังใช้ได้หรือไม่ พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า โดยภาควิชาการสถาบันพระปกเกล้าก็เป็นส่วนหนึ่งที่เราต้องยอมรับ ถ้าเราจะมองว่ายอมรับได้หรือไม่ได้ ตนคิดว่าความเป็นสถาบันก็น่าจะยอมรับได้
