รองนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย ยอมรับความพ่ายแพ้เลือกตั้งซ่อมปทุมฯ ไม่ต้องจัดทัพใหม่ มั่นใจเลือกตั้งเมื่อไหร่ก็เป็นรัฐบาลเมื่อนั้น ชี้ฐานเสียงใหญ่อยู่เหนือ-อีสาน โวยุทธศาสตร์ปราบยาเดินหมากถูกเป้า รับตำแหน่งไม่ถึงขวบ ล้างบางยาเสพติดไปแล้วกว่า 45 ล้านเม็ด
วันนี้ (23 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี ที่พรรคเพื่อไทยแพ้การเลือกตั้งซ่อมเขต 5 ที่ จ.ปทุมธานี ว่า ต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชน เมื่อแพ้ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ ตนมองว่าเมื่อชนะได้ก็แพ้ได้ ยอมรับความพ่ายแพ้ ต้องเอาข้อเท็จจริงในเหตุการณ์มาทบทวนปรับปรุงแก้ไขในโอกาสต่อไป ส่วนแพ้การเลือกตั้งที่ปทุมธานีมีผลต่อภาพรวมหรือไม่นั้น ตนเห็นว่าตลาดของพรรคเพื่อไทยอยู่อีสานกับเหนือ รอบนี้อีสาน 104 ปาร์ตี้ลิสต์ไม่เกี่ยว รอบหน้าก็ชนะหมด เลือกเมื่อไหร่ก็เป็นรัฐบาลเมื่อนั้น ทั้งนี้ คิดว่าคงไม่ต้องจัดทัพอะไรกันใหม่ เป็นธรรมดาเลือกตั้งซ่อม เลือกท้องถิ่นกับเลือกผู้แทนมันคนละแบบกัน ประชาชนเขาฉลาดถ้าเลือกตั้งใหญ่เลือกรัฐบาล ฝันไปเถอะประชาธิปัตย์ต้องรออีกนาน ไม่ใช่ดูถูกเพราะมันพับสนามกันเล่น เขาพับทางใต้ เราพับเหนือและ อีสาน ตลาดเพื่อไทยกว้างกว่า มากกว่าแต่ทั้งประเทศเราจะจับจองทั้งหมดเป็นไปไม่ได้ การเมืองก็อย่างนี้ ให้ประชาธิปัตย์ครึกครื้นบ้าง มันจะได้สดชื่น ไม่งั้นจะมางอแงในสภาได้อีก
เมื่อถามว่า การที่ ส.ส.ของพรรคลาออกแล้วไปลงนายก อบจ. พรรคสนับสนุนหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า พรรคคงไม่ได้สนับสนุน เขาตัดสินใจของเขาเอง เมื่อถามว่า ที่แพ้ครั้งนี้เป็นเพราะช่วยเหลือเรื่องน้ำท่วมไม่ทั่วถึงหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนไม่ทราบไม่ได้ลงในรายละเอียด ถ้าอีสานตนวิเคราะห์ได้ทุกตารางนิ้ว เพราะตนรับผิดชอบ เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ยิ้มเลย ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า “อ้าวยิ้มสิ ทุกข์ตรมมาตั้งนานให้เขายิ้มบ้างสิ การเมืองจะเอาทุกช็อตทุกเม็ดได้อย่างไร มันต้องให้กันบ้าง ถ้ารัฐบาลไม่ทุจริตครบเทอม นอกจากครบเทอมก็ยังตีตั๋วต่อ ถ้ามีทุจริตจบ” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
เมื่อถามว่า เป็นเพราะปัญหาน้ำท่วมของแพงหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า น้ำท่วมจะห้ามได้อย่างไร รัฐบาลไหนมาเวลาจะท่วมมันก็ท่วม จะทำอย่าไรได้ ตอนนี้ก็เตรียมการแล้ว เวลาเลือกตั้งแพ้อย่าไปกล่าวหาอีกฝ่ายซื้อเสียง ต้องเคารพการตัดสินใจ แพ้คือแพ้ เสียไป 1 ที่นั่ง ประชาธิปัตย์ได้มา 1 ที่นั่งก็เท่านั้นไม่มีอะไร แต่จะบอกว่าพรรคเพื่อไทยไม่สนใจก็ไม่ใช่ ก็ลงไปเต็มเหนี่ยวแต่แพ้เขา
เมื่อถามว่า การแพ้เลือกตั้งทำให้เห็นว่ารัฐบาลทำงานไม่ดีหรือไม่ในระดับท้องถิ่น ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่ใช่ ถ้าเลือกอีสานก็พลัวะ ส.ส.บางคนในภาคอีสานติดป้ายผิดเขตยังชนะเลย มันก็ถิ่นใครถิ่นมัน เมื่อถามว่า จ.ปทุมธานี มีเสื้อแดงเป็นฐานเสียง ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนไม่แสดงความเห็น เพราะไม่ได้รับผิดชอบ เอาที่ตนรับผิดชอบฟันธงได้เลย เมื่อถามว่ากลุ่มเสื้อแดงระบุว่า ต้องการแก้เผ็ดที่ลาออกไปลง ส.ส. ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนไม่กล้าแสดงความเห็น เพราะไม่ได้คลุกคลีมาตั้งแต่ต้น แต่รักเคารพคนเสื้อแดง
เมื่อถามถึง การเลือกตั้งซ่อมเชียงใหม่แทน น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าจะให้ใครลง แต่ที่นั่นชนะก่อนเลือกอยู่แล้ว เพราะฐานที่ตั้งมันมั่นกว่ากัน คนละรูปแบบ
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวถึงกรณีการบุกค้นเรือนจำที่ จ.นครศรีธรรมราช ว่ามีแหล่งข่าวบอกมา และเป็นขบวนการใหญ่ ตนได้สั่งการอธิบดีกรมราชทัณฑ์ไปแล้วให้เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ยังได้รับรายงานจากผู้บังคับการตำรวจที่ จ.พะเยา ว่ามีวิศวกรคนหนึ่งในแก๊งซูโดอีเฟดรีน ที่หนีไปอยู่ใน จ.พะเยา ขณะนี้ก็ตามจับได้แล้ว ซึ่งจะมีการแถลงข่าวและส่งตัวมายัง จ.ปทุมธานี เพื่อดำเนินคดีต่อไป และที่สำคัญที่สุดเลยถือว่าเป็นโชคดีของประเทศที่ตนไปได้เบาะแสมา โดยให้ตำรวจไปขยายผล แล้วส่งต่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินการต่อ ซึ่งจะมีการประชุมกันในวันนี้โดยให้ดีเอสไอเป็นเจ้าของเรื่อง
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ทาง อย.ของประเทศเกาหลีได้แจ้งมาว่า บริษัทในประเทศไทย 2 บริษัทได้สั่งซื้อสารซูโดอีเฟดรีนจำนวน 40 ตัน ซึ่งจะผลิตยาบ้าได้จำนวน 850 ล้านเม็ด โดย อย.เกาหลีได้แจ้งเข้ามายัง อย.ไทย และ อย.ไทยได้แจ้งกลับไปว่าสารดังกล่าวเป็นสารต้องห้าม ส่งเข้ามาไม่ได้ และสุดท้ายหลักฐานชิ้นสำคัญก็คือ มีการส่งเข้ามาและสำแดงเท็จ โดยบอกว่าเป็นสินค้าอื่นๆ โดยมีการทำกันเป็นขบวนการทรยศบ้านเมือง ดังนั้น ตนจึงได้สั่งดีเอสไอให้กวาดล้างให้สิ้นซาก มีกี่บริษัทก็ต้องสอบให้หมด นอกจากนี้ ส่วนหนึ่งก็บินไปเกาหลีเพื่อไปสอบต้นทาง เพราะรู้ต้นทางและเส้นทางแล้ว ส่วนเที่ยวบินที่เท่าไหร่และมาลงจำนวนเท่าไหร่นั้น ทางบริษัทชิปปิ้งใครเป็นคนเอาสินค้าออก ทำไมศุลกากรจึงปล่อยปละละเลยได้
“เรื่องนี้จะเจตนาหรือไม่นั้น มันต้องพิสูจน์กันให้ชัด ถ้าเป็นกระบวนการร่วมกันทำจริงๆ ก็ต้องดำเนินคดีต่อทั้ง 2บริษัทที่สั่งเข้ามา ถ้าปรากฏว่าบริษัทหนึ่งผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า และอีกบริษัทเป็นบ้านพักอาศัย โดยแจ้งทำธุรกิจเรื่องรถยนต์ แต่กลับเอาสารซูโดอีเฟดรีนเข้ามาได้นั้น ก็จับกันล้างประเทศเลยละรอบนี้ โชคดีที่เรามาถูกทาง” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องเครือข่ายยาบ้าในเรือนจำนั้น รู้เรื่องมาก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่จะบุกทลายหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่ใช่รู้เรื่องล่วงหน้า แต่เจ้าหน้าที่ของเราที่บกพร่องก็มี อันนี้เราต้องยอมรับ เพราะเมื่อก่อนไม่มีใครทำ ถามย้ำว่า เจ้าหน้าที่รู้เห็นด้วยหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ถ้าไม่รู้ไม่เห็นจะเอาโทรศัพท์เข้าไปได้ถึง 280 เครื่อง ผู้ต้องหาอาจจะมีเบาะแสด้วย เรื่องใดก็ตามที่ประชุมเกิน 1 คนไม่มีความลับ สมัยก่อนตนเป็นสารวัตรกองปราบฯ จะมีการส่งข่าวอะไรนั้นทำได้ยาก เพราะไม่มีโทรศัพท์มือถือ แต่วันนี้นายกฯ ได้มอบหมายให้ตนทำงานร่วมกับตำรวจ ป.ป.ส.เขาก็ให้ความร่วมมือดี และภาคประชาชนก็ให้ความร่วมมือดีด้วย ดังนั้นจึงแก้ปัญหาได้และเดินหน้าไปได้ อย่างน่าพอใจ
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวอีกว่า ในปลายสัปดาห์นี้ตนจะเดินทางไปภาคอีสาน เพราะเริ่มมีการย้ายเส้นทางลำเลียงแล้ว ตอนนี้เส้นทางทางภาคเหนือเราปิดได้แล้ว โดยเข้ามาทาง อ.แม่สอด ดังนั้น ตนจึงคุยกับผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดในภาคเหนือ เพื่อบอกว่าถ้าจับได้และมีปัญหาอะไรในการดำเนินการ ก็ให้ผู้ว่าฯ จังหวัดนั้นๆ โทร.มาหาตน เพราะตนอยากแก้ปัญหาโดยตรง ไม่รอรับรายงาน
เมื่อถามว่าที่ จ.นครศรีธรรมราชจะมีการขยายผลเพื่อไปดูความร่ำรวยที่ผิดปกติของเจ้าหน้าที่เรือนจำหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า สั่งการไปแล้ว ให้ยึดทรัพย์เลย ซึ่งตนคุยกับอธิบดีกรมราชทัณฑ์ถึง 3 รอบแล้ว และถ้าที่ใดที่มีเหตุการณ์แบบนี้อีก ก็จะมีการขยายผลไปเรื่อยๆ และจะใช้เรือนจำที่ จ.นครศรีธรรมราช เป็นรูปแบบในการปฎิบัติกับเรือนจำอื่นๆ ทั่วประเทศด้วย
“ทั้งหมดนั้นอยู่ที่เราแก้ปัญหาที่ปลายเหตุมาโดยตลอด ถ้าเอาเข้าไม่ได้จะสั่งยังไง ถ้าสารตั้งต้นไม่มีจะเอาอะไรไปผลิต ก็เมื่อก่อนมันแก้กันไม่เป็น ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมามันทำอะไร ไม่มี 2,500 ศพ เช้าสายบ่ายเย็น ฆ่าตัดตอนมันถึงทำไม่ได้ ผมมาอยู่ 7-8 เดือน ยาบ้าจับไปแล้ว 45 ล้านเม็ด เรากำลังเดินทางมาถูกเป้าหมาย สารตั้งต้นมาจากเกาหลีไม่ได้ นำเข้าโดยสำแดงเท็จไม่ได้ เอาเถอะพวกนักโทษในเรือนจำ ผมกำลังแก้กฎหมายอยู่” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว