xs
xsm
sm
md
lg

“ยงยุทธ” ไม่ปฏิเสธ “ทักษิณ” ได้ประโยชน์ปรองดอง ย้ำไม่ได้ทำชั่ว เมินม็อบต้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย (ภาพจากแฟ้ม)
รองนายกฯ-รมว.มหาดไทยเผย ปคอป.มีมติจัดเสวนาต่อยอดรายงาน กมธ.ปรองดอง กำหนดชื่อตัวกลางสังคมรับได้ แจงกรณีพันธมิตรฯ เตรียมชุมนุม บอกไม่แตะสถาบันแน่ ส่วนล้างผิดทักษิณอ้างไม่เป็นธรรม ยอมรับ “ทักษิณ” ได้ประโยชน์แต่ทำเพื่อคนคนเดียวไม่ได้ เมินกระแสม็อบต้าน อ้างไม่ได้ทำชั่ว ขู่คนรักประชาธิปไตยไม่ยอมแน่ ขอกลับไปสู่สภาพเดิมค่อยว่ากัน ส่วนเรื่อง รมต.ไปรดน้ำทักษิณยันไม่ละเลยหน้าที่ อ้างตนก็อยากไปแต่งานเยอะ ไม่กลัวถูกถอดถอน

วันนี้ (20 เม.ย.) นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมว่า การประชุมครั้งนี้ถือว่าจบในแง่ของหลักการ โดยที่ประชุมมีความเห็นแตกต่างกัน ซึ่งตนเห็นว่าร่าง พ.ร.บ.ปรองดองที่คณะกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ ที่มี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ เป็นประธานจัดทำมา ได้ถามกลุ่มคนต่างๆ ซึ่งที่ประชุมเห็นว่า ควรจะรับฟังความเห็นอย่างน้อยภาคละ 1 ครั้ง และใน กทม.ด้วย

ทั้งนี้ การถามความเห็นหรือการจัดเสวนาต้องมีกรอบที่ชัดเจน ไม่เช่นนั้นจะไปสร้างความแตกแยกหรือสร้างปัญหาขึ้นมาอีก โดยกรอบการดำเนินการ นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานกำหนดกรอบเพื่อเปิดให้มีการพูดคุย พร้อมกันนี้จะมีที่ปรึกษา และมีหลายฝ่ายมาร่วมกำหนดกรอบเพื่อเปิดเวทีรับฟังความเห็นประชาชน เชื่อว่าจะไม่ทำให้เกิดปัญหาซ้ำ อาจจะใช้สถาบันพระปกเกล้ามาเป็นวิทยากรร่วมกับกรรมาธิการปรองดอง และ คอป. ทั้งนี้ ผู้ที่ออกไปรับฟังความคิดเห็นต้องเป็นกลาง เป็นที่น่าเชื่อถือของสังคม บอกชื่อมาแล้วสังคมรับได้ ส่วนผู้ปฏิบัติอาจใช้โครงการพัฒนาชุมชนของกระทรวงมหาดไทย

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรอบเวลาในการดำเนินการ นายยงยุทธกล่าวว่า จะต้องรายงานกลับไปที่คณะกรรมาธิการสภาฯ ภายใน 60 วัน แต่ถ้ายังทำไม่เสร็จก็ขยายเวลาออกไปได้อีกระยะหนึ่ง ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า กรอบเวลาที่จะเปิดรับฟังความคิดเห็นจะยึดโยงกับ ส.ส.ของพรรค หรือพรรคการเมืองอื่นด้วยหรือไม่ นายยงยุทธกล่าวว่า เรื่องการเสนอ พ.ร.บ.ปรองดองถือเป็นเอกสิทธิของแต่ละคน อย่างของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ก็ร่างแล้ว เพียงแต่รอจังหวะ

เมื่อถามว่า แบบนี้พูดได้หรือไม่ว่ารัฐบาลกำลังเดินหน้าทำเอง นายยงยุทธกล่าวยืนยันว่ารัฐบาลไม่ทำเรื่องนี้เอง แต่ที่ทำเพียงแต่ทำตามความเห็นของกรรมาธิการ และสถาบันพระปกเกล้าที่ว่า ควรจะเปิดเวทีฟังความเห็นของคนหลายฝ่าย เราก็เอาแนวนั้นมา ซึ่งไม่ใช่แนวที่รัฐบาลคิด เมื่อถามต่อว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยพูดได้ชัดเจนหรือไม่ว่า พรรคไม่มีแนวทางหรือตั้งธงว่า ต้องเร่งรีบเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง เสร็จให้ทันภายใน 3-4 เดือน สอดคล้องกับคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บอกว่าจะกลับบ้านปลายปี นายยงยุทธกล่าวว่า เรื่องปรองดองอยากให้เกิดเร็ว ถ้าเกิดเร็วที่สุดก็ดีที่สุด คนจะได้เข้าใจกัน หันหน้าเข้าหากัน และเดินหน้าประเทศไทยให้เร็วที่สุด ซึ่งต้องฟังความเห็น และดูบรรยากาศว่ามีความพอดีหรือยัง

“เราทำนายไม่ถูกว่าฝนตกเมื่อไร แต่ถ้าสิ่งแวดล้อมมันลงตัว เมฆ และอุณหภูมิพอดีมีพลังในการสะสมพอดี ฝนก็ตกลงมา เรื่อง พ.ร.บ.ปรองดองก็ต้องรอดูบรรยากาศทั้งหมดว่าพอดีหรือยัง” นายยงยุทธกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บอกว่า ถ้ารัฐบาลเสนอปรองดองจะออกมาชุมนุมใหญ่ นายยงยุทธกล่าวว่า ความเห็นของ พล.ต.จำลองมีเงื่อนไขคือเรื่องสถาบัน ถ้ากระทบกระเทือนสถาบันท่านจะออกมา อันนี้ยืนยันได้ว่า การทำสิ่งต่างๆ เหล่านั้น พรรคเพื่อไทย พรรคร่วมรัฐบาลไม่ทำเด็ดขาด และไม่ทำเพื่อประโยชน์ของคนหนึ่งคนใด จะทำเพื่อประโยชน์ประชาชนทั้งหมด และประเทศชาติ ยืนยันได้ทั้งสองประเด็นนี้ ซึ่งไม่ตรงและไม่เข้าข่ายกับที่ พล.ต.จำลองได้กำหนดไว้

เมื่อถามว่า รัฐบาลจะยิ่งลำบากหรือไม่ เพราะจะเข้าข่ายเรื่องการล้างผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ นายยงยุทธกล่าวว่า จะล้างผิดล้างถูกเป็นเรื่องของหลักการ ถ้าคนที่สังคมเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้รับความยุติธรรม และได้รับการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง ถ้าสังคมส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันก็เป็นอีกประเด็นหนึ่ง แต่เชื่อมั่นได้ว่าจะไม่ทำเรื่องนี้เพื่อคนคนเดียว ถ้าทำเพื่อประโยชน์คนคนเดียว ประชาชนคงไม่ยอม แต่ถ้าทำเพื่อความปรองดองของคนในชาติ และประโยชน์ส่วนใหญ่ของประชาชนก็คงจะเดินหน้าไปได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า พันธมิตรฯ เตรียมยื่นฟ้อง ส.ส.และ ส.ว.416 คน ฐานฉีกรัฐธรรมนูญโดยไม่ชอบ นายยงยุทธกล่าวว่า โดยข้อเท็จจริงทุกคนทราบ การแก้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเพราะมีปัญหาเยอะ เป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่มาโดยเส้นทางประชาธิปไตย แต่มาโดยการยึดอำนาจรัฐประหาร และตั้งคณะบุคคลขึ้นมาอ้างโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากประชาชน และอ้างว่าทำประชามติแล้วคงไม่ใช่ เราก็ยังไปรับสภาพตรงนั้น แต่สิ่งที่กำลังจะแก้เป็นการใช้ตัวแทนประชาชนเลือก ส.ส.ร.มาแก้ เป็นคนละเรื่องกัน เราเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ทำถูก ไม่ต้องกังวล

เมื่อถามว่ารัฐบาลจะบอกให้มั่นใจได้หรือไม่ว่า การปรองดองของรัฐบาลไม่ใช่การล้มกระบวนการศาลที่ตัดสินไปแล้ว นายยงยุทธกล่าวว่า เราต้องมาแยกออกว่าเป็นศาลปกติโดยระบบศาลยุติธรรมทั่วไปหรือไม่ แต่ถ้าเป็นระบบไม่ใช่ศาลยุติธรรมทั่วไปคงยอมรับยากว่า ผลของการตัดสินนั้นน่าเชื่อถือ และมีมาตรฐาน ขอยืนยันว่าถ้าเป็นระบบศาลยุติธรรมธรรมดาทั่วไปที่ใช้อยู่ในประเทศ จะเป็นระบบที่เชื่อมั่น และให้ความยุติธรรมได้เต็มที่ แต่ถ้าเป็นศาลประเภทอื่นไม่ยอมรับ เมื่อถามต่อว่าศาลประเภทอื่นที่ว่า คือ คตส.ใช่หรือไม่ที่ไม่ยอมรับ นายยงยุทธกล่าวว่า ก็ทราบกันอยู่แล้ว เมื่อถามอีกว่า คตส.ส่งเรื่องให้ศาลก็เท่ากับว่าไม่พ้นล้มกระบวนการศาล นายยงยุทธกล่าวว่า ศาลโดยทั่วไปในระบบสากลจะต้องมีระดับของศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา ถ้าเป็นศาลเดียวก็เป็นข้อสงสัยข้อกังวลของผู้คน ระบบศาลที่ตัดสินโดยข้อเสนอของ คตส.นั้นไม่มีอุทธรณ์ และฎีกา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทั้งเรื่องปรองดองและแก้รัฐธรรมนูญ รัฐบาลจะผลักดันให้เสร็จภายในสิ้นปีนี้หรือไม่ เพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาเริ่มต้นกระบวนการศาลใหม่ นายยงยุทธกล่าวว่า การปรองดองไม่ได้ไปเกี่ยวกับการทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับบ้านเร็ว แต่ถ้าทำให้ประชาชนของเมืองไทยเกิดความปรองดอง สมานฉันท์ รักใคร่ เดินหน้าต่อไป ขอยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับการรีบทำเพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับบ้าน เมื่อถามว่า แต่รัฐบาลปฏิเสธไม่ได้ว่าทำเรื่องนี้แล้วร่มที่กลาง พ.ต.ท.ทักษิณจะได้อยู่ใต้ร่มด้วย นายยงยุทธกล่าวว่า ไม่ปฏิเสธ เพราะถ้าใครได้สิทธิที่จะอยู่ในร่มก็ต้องอยู่ในร่มด้วย แต่ไม่ได้ทำร่มเพื่อให้คนใดคนหนึ่งเข้ามาอยู่คนเดียว และเข้ามาอยู่โดยเร็ว อย่างนั้นทำไม่ได้

เมื่อถามว่า กระแสต่อต้านมีมาก จะทำให้กลุ่มต่างๆ ออกมาเคลื่อนไหว นายยงยุทธกล่าวว่า ความเห็นที่แตกต่างคงมี แต่ความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นยังมองไม่เห็น และรัฐบาลไม่ได้ทำเรื่องนี้สภาเป็นคนทำ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชน ไม่ได้ทำสิ่งชั่วร้ายต่อประเทศชาติ ประชาชน ซึ่งต้องคิดกันให้กว้างอย่าไปคิดอยู่ตรง พ.ต.ท.ทักษิณคนเดียวจะทำให้มองภาพแคบ และไม่เห็นปัญหาของบ้านเมืองจริงๆ

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปหรือไม่ เมื่อรัฐบาลเดินหน้าปรองดอง ควรจะเดินเข้าหาทุกกลุ่ม ทั้งผู้คัดค้านและกลุ่มพันธมิตร และกลุ่มที่ต่างสีสนับสนุนรัฐบาล นายยงยุทธกล่าวว่า ต้องทำ ต้องไปหา เมื่อถามว่าจะทำแต่ปากหรือปฎิบัติเลย นายยงยุทธกล่าวว่า จะต้องปฏิบัติจริง วันนี้เราต้องเริ่มต้นจากการเลิกกฎหมายเก่า กลับไปสู่สภาพเดิมแล้วค่อยว่ากัน แต่จะให้ยอมรับคนส่วนใหญ่คงยอมรับลำบาก คนที่รักประชาธิปไตย รักความยุติธรรม ยอมรับตรงนั้นไม่ได้ บ้านเมืองถึงได้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมา

เมื่อถามย้ำว่า สิ้นปีนี้จบหรือไม่ นายยงยุทธกล่าวว่า ต้องทำให้เร็วที่สุด อย่างว่า ฝนตกเมื่อไหร่ คลอดลูกเมื่อไหร่จะต้องมีจุดที่พร้อม วันนี้ประเทศไทยถือว่าท้องแก่แล้ว ปัญหาเรื่องปรองดองสมานฉันท์ ท้องแก่ใกล้คลอดเต็มทีแล้ว แม้แต่ฝนเมฆหมอกก็มาเต็มไปหมด เมื่อถามว่าจะไม่ตายทั้งกลมใช่ไหม นายยงยุทธกล่าวว่า ไม่มีใครอยากให้ตายทั้งกลม สื่อฯ คนไทยอยากให้ความสมานฉันท์และความปรองดองเกิดมาเป็นตัวเป็นตน มีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้ ยืนยันว่า ทำเพื่อคนคนเดียวเหนื่อยแน่

เมื่อถามว่า การที่รัฐมนตรีเดินทางไปร่วมฉลองสงกรานต์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่กลัวถูกมองว่า ละเลยการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณถือเป็นนักโทษหนีคดี นายยงยุทธกล่าวว่า เขาไปเพราะความผูกพัน ความรัก ซึ่งอยู่ที่ว่า รมต.ที่ไปมีตำแหน่งเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรงหรือไม่มากกว่า ถ้าเป็นรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยเดินไปทาง คนก็จะนำไปตีความได้ ความจริงตนเองก็อยากไป บางทีจะถูกถอดถอนก็ไม่กลัว แต่พูดได้แค่ปาก เพราะงานมันเยอะ พ.ต.ท.ทักษิณ บางคนก็เกลียด บางคนก็รัก แต่เรารักของเรา
กำลังโหลดความคิดเห็น