xs
xsm
sm
md
lg

บ้าแน่ๆ “วิสา-ณัฐวุฒิ-ทักษิณ” ร้องสรรเสริญบารมี “ฮุนเซน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สะเก็ดไฟ

เก็บตกจากงานสงกรานต์การเมืองที่กัมพูชา มีประเด็นที่ไม่ควรปล่อยให้เงียบหายไป คือภาพนักโทษหนีคดีร่วมกับลูกสมุนที่ก้่าวข้ามศพ ยุคนเผาจนได้ดีเป็นรัฐมนตรี ร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญบารมีให้ สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน

เพลงที่ประพันธ์คำร้อง ทำนองและขับร้องโดย วิสา คัญทัพ อดีตนักคิด นักเขียน นักแต่งเพลงชื่อดัง ที่ปัจจุบันศิโรราบกราบกรานเผด็จการทุนนิยมสามานย์เคารพนบนอบทรราชย์ยิ่งกว่าบุพการี ไม่แตกต่างจากการสดุดีฮุน เซน ที่เพิ่งเปิดศึกสงครามยิงใส่ชาวภูมซรอลเมื่อต้นปีที่แล้ว

อริราชศัตรูที่รุกรานดินแดนไทยกลับถูกยกย่องเชิดชูโดยคนไทยว่า “เป็นผู้กล้าหาญรักษาอธิปไตยชาติขับไล่ผู้รุกราน”

คงไม่น่าสังเวชขนาดนี้ ถ้าหากมีเพียงแค่นักร้องผู้หิวโหย และคนบนเวทีคนอื่นๆจะเป็นเพียงแค่กุ๊ยข้างถนนที่ไปพึ่งใบบุญของฮุน เซน

แต่สิ่งที่ทำให้คนไทยสลดหดหู่อย่างยิ่ง คือ คนที่ปรากฏกายอยู่บนเวทีชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งแม้จะเป็นนักโทษหนีคดี แต่ก็ได้ชื่อว่าเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีไทย และที่สำคัญหนึ่งในบรรดาคนที่ไปร้องเพลงขอส่วนบุญจากฮุน เซน ดันเป็นถึง รมช.เกษตรและสหกรณ์ของรัฐบาลชุดปัจจุบันด้วย

ไม่น่าเชื่อว่า มโนสำนึกความเป็นคนไทยจะบิดเบี้ยวกระทำการต่อแผ่นดินเกิดได้ถึงเพียงนี้

การเปิดฉากทำสงครามกับประเทศไทยยึดพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารของฝ่ายกัมพูชา เพื่อลากคดีขึ้นสู่หวังฮุบดินแดนไทย 4.6 ตารางกิโลเมตรรอบปราสาทพระวิหาร ซึ่งคดียังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลโลก โดยคาดว่าจะมีการตัดสินในช่วงปลายปีหน้า

ย่อมเป็นสิ่งที่น่ากังวลใจอย่างยิ่งสำหรับชาวไทยว่า ภายใต้การนำของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่พี่ชายนับถือ ฮุน เซน ราวกับคนในครอบครัว ขณะที่คนในรัฐบาลก็แสดงตัวเคารพฮุน เซนยิ่งกว่าผู้บังเกิดเกล้า ส่วนท่าทีของ “ยิ่งลักษณ์” ในฐานะนายกรัฐมนตรีไทย เมื่อถูกถามถึงพื้ที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรว่าเป็นของไทยหรือไม่ก็ยังไม่กล้าระบุว่า เป็นผืนแผ่นดินไทย

พฤติการณ์เยี่ยงนี้ประกอบกับคำพูดนักโทษหนีคดีที่พูดเปิดทางให้เขมรว่า ไทยเสียเปรียบคดีในศาลโลก ยิ่งทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า อธิปไตยของชาติกำลังถูกยกให้เขมรด้วยความสมยอมของรัฐบาลยิ่งลักษณ์หรือไม่

เพราะที่ผ่านมารัฐบาลที่อ้างว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมกับกัมพูชา แต่กลับไม่เคยแสดงให้คนไทยได้เห็นว่าความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสองประเทศเป็นประโยชน์อย่างไรกับคนไทย มีแต่เขมรเหิมเกริมนำตัวแทนยูเอ็นเข้าสำรวจพื้นที่ปราสาทพระวิหารโดยพลการ ในขณะที่รัฐบาลไทยได้แต่ใบ้กินท่องแค่คำเดียวว่าจะไม่ให้ปัญหาเขตแดนมากระทบความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสองประเทศ แต่ไม่เคยพูดถึงการรักษาอธิปไตยของชาติให้คนไทยได้อุ่นใจ

แถมยังมีการเจรจาลับหวังฮุบผลประโยชน์จากพลังงานในอ่าวไทยในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ระหว่างนักโทษหนีคดีกับผู้นำกัมพูชาอีกด้วย
 

ต้องนับว่า ประเทศไทยตกอยู่ในภาวะวังเวงอย่างยิ่ง บนสถานการณ์ที่อธิปไตยของชาติแขวนอยู่บนเส้นด้าย

ลองคิดดูง่ายๆ ว่า ถ้ากัมพูชานำภาพที่อดีตนายกรัฐมนตรีไทยไปร่วมร้องเพลงสรรเสริญบารมีฮุน เซนว่ามีความกล้าหาญปกป้องผู้รุกราน ไปใช้ประโยขน์ในคดีพิพาทปราสาทพระวิหารจะมีน้ำหนักที่เป็นคุณต่อกัมพูชาแต่เป็นโทษต่อฝ่ายไทยอย่างไร

ทำร้ายประเทศไทยด้วยการสร้างความแตกแยกในบ้านเมืองยังไม่พอ ยังคิดเฉือนแผ่นดินไทยไปเป็นเครื่องบรรณาการให้กัมพูชาแลกกับผลประโยขน์ส่วนตัว ซึ่งหากทำจริงก็ถือว่าเลวชาติสิ้นดี

ลำพังแค่ “วิสา” และพวก เคยได้ไปกบดานหนีคุกในวันเผาบ้านเกิดเมืองนอนตัวเองที่กัมพูชา จะสำนึกบุญคุณฮุน เซน ที่ให้พำนักพักพิงมากกว่าที่จะคิดจงรักภักดีต่อแผ่นดินแม่ ก็เป็นเรื่องที่ยากจะยอมรับได้อยู่แล้ว

แต่การที่ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรฯ ไปร่วมครื้นเครงบรรเลงเพลงสดุดีฮุน เซนด้วย ยิ่งนำความอัปยศเสื่อมเกียรติภูมิมาสู่ประเทศไทยเป็นอย่างมาก

ที่น่าเจ็บใจคือ เป็นการร้องเพลงเชิดชูบนแผ่นดินกัมพูชาที่จังหวัดเสียมเรียบ ซึ่งแปลว่า สยามราบ หรือสยามแพ้

สภาพการณ์เช่นนี้ ฮุน เซน คงหัวร่อร่าที่คนไทยเหล่านี้ยอมหมอบกรานอยู่แทบเท้านำเกียรติยศศักดิ์ศรีของชาติไปให้ฮุน เซนเหยียบย่ำถึงที่

ถามว่าตั้งแต่หัวหน้าแก๊งคือ “ทักษิณ” ลงมายังหลงเหลือสำนึกความเป็นคนไทยอยู่อีกหรือไม่?

“สหายตะวัน” หรือ “สหายไพรำ” ซึ่งเคยเป็นนามเรียกขานของ “วิสา” จะยังหลงเหลืออุดมการณ์เพื่อชาติประชาในฐานะคนเดือนตุลาอยู่อีกหรือไม่ บทกวีของ สหายตะวันน่าจะเตือนสติวิสา ในวันนี้ได้ว่า การกราบกรานเผด็จการทุนนิยมสามานย์ เคารพเชิดชูอริราชศัตรูอย่างฮุน เซนนั้น ทำลายจิตวิญญาณความเป็นเสรีชนให้ตายไป

หยาดน้ำตาประชาไทยในวันนี้ ไหลเกือบท่วมปฐพีแล้วพี่เอ๋ย
ถ้าความจริงสามารถอ้างเหมือนอย่างเคย ก็จะเอ่ยและจะอ้างอย่างไม่กลัว

นี่มีปากก็ถูกปิดจนมิดเม้ม มันแทะเล็มถุยรดและกดหัว
ปัญหาต่างๆ นั้นก็พันพัว ไม่อยากโทษใครชั่วเพราะกลัวตาย

ถ้าขอได้จะขอกันในวันนี้ ขอให้สิทธิ์เสรีอย่าสูญหาย
ถ้าเลือดไทยจะหลั่งโลมจนโทรมกาย ก็ขอตายด้วยศักดิ์ศรีเสรีชน

บทกวีที่เหลือค่าแค่ตัวอักษรย่อมไร้ความหมาย เมื่อผู้เขียนไร้ซึ่งอุดมการณ์และจิตวิญญาณในความเป็นไทยเสือกระดาษ


กำลังโหลดความคิดเห็น