สื่อเขมรตีข่าวทักษิณ ระบุไทยเสียเปรียบกัมพูชาในศาลโลก โทษกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ต้นตอไทยอาจเสีย 4.6 ตารางกิโลเมตร ฝ่ายความมั่นคงเชื่อแม้ว โยนหินถามทางหวังวิน-วินกับฮุนเซน ครอบครองทรัพยากรพื้นที่ทับซ้อนร่วมกัน จับตาเตรียมบินเข้าเขมร 15-17 มีนาคมนี้ ปึ้งศักดิ์ ไขสือไม่รู้ไม่เห็น เชฟร่อน-โคโนโก้ รุมตอมบุกทำเนียบฯ ทวงถามสัมปทานพลังงานในอ่าวไทย
หนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์รายงานอ้างการให้สัมภาษณ์ของอดีตนายกรัฐมนตรีไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ประเมินว่า ไทยอยู่ในสถานะที่เสียเปรียบ ในการสู้คดีกับกัมพูชาเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรที่ปราสาทพระวิหาร
ในการให้สัมภาษณ์บางกอกโพสต์ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า เหตุพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่บริเวณปราสาทพระวิหาร อาจทำให้คนไทยต้องขัดแย้งกันเองอย่างหนัก หากว่าศาลโลกไม่ได้ตีความในทางที่เป็นคุณแก่ประเทศไทย และว่ารัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะต้องใช้ความพยายามให้มากในการอธิบายข้อเท็จจริงต่างๆ และจุดยืนของไทย
เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว กัมพูชาได้ร้องขอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกตีความคำวินิจฉัยในคดีปราสาทพระวิหารเมื่อปี 2505 หลังเกิดเหตุปะทะกันอย่างหนักที่ชายแดนไทย-กัมพูชาเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน ไทยได้ยื่นเอกสารหนา 900 หน้าแก่ศาลโลก ชี้แจงการอ้างกรรมสิทธิ์ของไทยเหนือพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร บริเวณปราสาทดังกล่าว
พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวกับบางกอกโพสต์ว่า ตนเกรงว่าศาลโลกจะไม่วินิจฉัยในทางที่เป็นคุณแก่ประเทศไทย เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งว่า “พูดกันอย่างเปิดอกเลยนะ คดีนี้ประเทศไทยเสียเปรียบ” และว่า “และผมเกรงว่า ประเด็นนี้จะลุกลามกลายเป็นความแตกแยกอย่างลึกซึ้งในหมู่คนไทยด้วยกัน เพราะมันเป็นเรื่องของอธิปไตย” อดีตนายกรัฐมนตรีไทยผู้นี้กล่าวด้วยว่า แม้รัฐบาลน้องสาวของเขาได้ปรับปรุงความสัมพันธ์กับกัมพูชาแล้ว แต่คงไม่ร้องขอให้รัฐบาลพนมเปญถอนเรื่องออกจากศาลโลก ถ้ารัฐบาลกัมพูชาขอถอนก็จะเจอวิกฤตทางการเมือง เพราะประชาชนกัมพูชาจะไม่ยอม
พนมเปญโพสต์รายงานในวันจันทร์ว่า นายคอย ควง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา ได้เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า รัฐมนตรีต่างประเทศ นายฮอร์ นัมฮง จะเดินทางไปยังกรุงเฮกในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อส่งมอบเอกสารแก่ศาลโลก “เราได้ตระเตรียมหลักฐานอย่างเพียงพอ ในการที่จะตอบโต้การอ้างสิทธิ์ของประเทศไทย” เขากล่าว
ทั้งนี้ คำให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณยังบอกด้วยว่า ดินแดนแห่งนี้ตั้งแต่ในสมัยฝรั่งเศสครองอาณานิคมกัมพูชาอยู่ ได้เสนอแผนที่ต่อสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ว่าดินแดนดังกล่าวเป็นของกัมพูชา ซึ่งทางฝรั่งเศสก็ได้ปักธงสัญลักษณ์ไว้บนเนินเขา ซึ่งสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เองก็มิได้ทรงคัดค้านแต่อย่างใด
ในบทสัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เขาเล่าว่าได้เคยหารือกับทางรัฐบาลกัมพูชาถึงเรื่อง 4.6 ตารางกิโลเมตรนี้แล้ว ซึ่งเขาก็ยืนยันว่าไม่มีใครอาศัยอยู่เลย จนกว่าจะได้ข้อตกลงร่วมกัน อีกทั้งตนก็ได้เสนอไปว่า ไทยและกัมพูชาควรร่วมมือกันพัฒนาเขตพิพาทดังกล่าวให้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว
แหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคงระบุว่า จากคำให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการโยนหินถามทาง และหยั่งกระแสของกลุ่มที่หนุนแนวทางรัฐบาล กับกลุ่มที่คัดค้าน เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นประเด็นที่อ่อนไหว หากศาลโลกอ่านคำพิพากษาตามคำร้องของกัมพูชาให้ตีความคำพิพากษาปี พ.ศ. 2505 ซึ่งอาจมีผลในเรื่องเขตแดน จึงทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณต้องการแรงหนุนจากมวลชนคนเสื้อแดง ในการไปเจรจาเป็นการส่วนตัวกับสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ก่อนที่จะมีการอ่านคำพิพากษา เพราะต้องมีมวลชนเสื้อเหลืองออกมาต้านจำนวนมาก
“แนวทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ คือ ต้องการที่จะไปเจรจาเพื่อให้กัมพูชาถอนคำร้องออกจากศาลโลก เพื่อไม่ให้ไปถึงวันที่ศาลจะมีคำพิพากษาในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า โดยจะมีเป้าหมายในการถอนทหารของสองชาติออกจากพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร เพื่อให้เป็นพื้นที่โนแมนแลนด์” แหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคงระบุอีกว่า พ.ต.ท.ทักษิณต้องการให้สังคมเลือกทางที่สาม โดยใช้การเจรจาที่เขาเห็นว่าจะวิน-วิน (ได้ประโยชน์ร่วมกัน) ระหว่างสองชาติ ภายใต้ข้อสงสัยในการเจรจาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนด้านพลังงาน
มีรายงานด้วยว่า ในเบื้องต้น พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางมาประเทศกัมพูชาในช่วงวันที่ 15-17 มีนาคมนี้ เพื่อเข้าเยี่ยมคารวะสมเด็จฮุนเซน พร้อมจะเปิดโอกาสให้แกนนำเสื้อแดงและ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ได้เข้าพบในการเดินทางมาครั้งนี้ด้วย....
ที่รัฐสภาวันเดียวกัน มีการประชุมวุฒิสภาก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายสมชาย แสวงการ ส.ว.ได้หารือว่า ขณะนี้นายวีระ สมความคิด แกนนำเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ ที่ถูกศาลกัมพูชาพิพากษาจำคุก มีอาการป่วยหนัก เป็นโรคดีซ่าน ขาบวม ไม่สามารถเดินได้ เราได้ปล่อยสายสืบของเขาไปแล้วจำนวนมาก และปล่อยให้ญาติผู้นำรัฐบาลเข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลย่านสุขุมวิท เท่าที่ทราบมีบิดาของสมเด็จฮุนเซนที่ป่วยหนักเป็นมะเร็งก็เข้ามารักษาตัวอยู่ใน กทม. ฉะนั้น รัฐบาลไทยควรขอให้รัฐบาลกัมพูชาช่วยดูแลคุณวีระ คุณราตรี ในฐานะพลเมืองไทย ไม่ใช่ศัตรู
จากข้อความดังกล่าวผมอยากให้ท่านได้ปฏิบัติดังนี้ 1. ช่วยบอกสมเด็จฮุนเซนให้ถอนทะเบียนมรดกโลกออกไปก่อนแล้วจัดการเรื่องเขตแดนตรงบริเวณปราสาทพระวิหารให้เรียบร้อย หลังจากนั้นค่อยนำปราสาทมาขึ้นทะเบียนร่วมกันพัฒนาร่วมกันภายใต้ข้อสงวนสิทธิ์ว่าไทยสามารถเรียกคืนตัวปราสาทได้ 2. เรื่องพลังงานในอ่าวไทยท่านยังไม่ควรจะไปเจรจา 3. ท่านควรเจรจาให้มีการปล่อยตัวคุณวีระและคุณราตรี ทันทีหรือจะกลับมาพร้อมกับท่าน ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
เรื่องที่ท่านให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับแผนที่ที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้ทรงขอมาผ่านพระองค์เจ้าท่านหนึ่งนั้น ไม่ได้หมายความว่าสมเด็จจะต้องรับผิดชอบหรือเห็นด้วย และการที่เสด็จฯ ไปตรวจราชการที่มณฑลอีสานได้ขึ้นไปปราสาทพระวิหารก็คือการเสด็จฯ ไปเยี่ยมชมตัวปราสาทพระวิหาร พระองค์ท่านก็มิได้มีอำนาจใดๆ ในทางปกครองและได้ทรงปฏิเสธเป็นเรื่องที่ฝ่ายฝรั่งเศสฉกฉวยโอกาส และอีกอย่างหนึ่งพระองค์ท่านไม่มีอำนาจมาตัดสินเรื่องแผนที่หรือยอมรับแผนที่ เพราะไม่ได้เป็นคณะกรรมการปักปันเขตแดนจึงไม่มีสิทธิใดๆ ทั้งสิ้น การที่ท่านไปให้สัมภาษณ์เช่นนี้เป็นความไม่รู้เรื่องจริงนั่นเอง อีกทั้งศาลโลกก็มิได้พิจารณาข้อมูลของเขมรในจุดนี้เลย
การโยนกลองของทักษิณได้โยนกลองและตีกลองให้ดังสะท้อนกลับมายังประเทศไทยทำเสมือนหนึ่งว่าประเทศไทยคงแพ้การตีความของศาลโลก และทำตัวเป็นฮีโร่ที่จะไปเจรจาว่าความให้ฮุนเซนชะลอการตีความในคดีได้ การที่ทักษิณพูดแบบนี้ทำให้เราคิดไปได้ว่า ศาลโลกรู้เห็นเป็นใจกับเขมรจึงสามารถสั่งชะลอได้ ดังนั้นสิ่งที่ผมอยากจะสื่อสารให้ทุกท่านได้ทราบก็คือ 1. ทักษิณรู้เรื่องปัญหาปราสาทพระวิหารดี แต่เจตนาที่ออกมายังไม่ชัด อาจสมประโยชน์กับเขมรหรือไม่ 2. ทักษิณใช้กรณีปราสาทพระวิหารทำตัวเป็นฮีโร่ เพราะสามารถต่อรองกับฮุนเซนได้
ประเทศไทยของเรากำลังอยู่ในฐานะลำบากต่อกรณีปราสาทพระวิหารทั้งอำนาจที่อยู่เหนือกฎหมาย ทั้งนักการเมืองและข้าราชการ ล้วนแล้วแต่ต้องรับผิดชอบต่อการสูญเสียพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร
ที่มา : จากบทสัมภาษณ์ทักษิณจ่อเข้าเขมรถก ‘พื้นที่ทับซ้อน’ (ไทยโพสต์)
หนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์รายงานอ้างการให้สัมภาษณ์ของอดีตนายกรัฐมนตรีไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ประเมินว่า ไทยอยู่ในสถานะที่เสียเปรียบ ในการสู้คดีกับกัมพูชาเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรที่ปราสาทพระวิหาร
ในการให้สัมภาษณ์บางกอกโพสต์ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า เหตุพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่บริเวณปราสาทพระวิหาร อาจทำให้คนไทยต้องขัดแย้งกันเองอย่างหนัก หากว่าศาลโลกไม่ได้ตีความในทางที่เป็นคุณแก่ประเทศไทย และว่ารัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะต้องใช้ความพยายามให้มากในการอธิบายข้อเท็จจริงต่างๆ และจุดยืนของไทย
เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว กัมพูชาได้ร้องขอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกตีความคำวินิจฉัยในคดีปราสาทพระวิหารเมื่อปี 2505 หลังเกิดเหตุปะทะกันอย่างหนักที่ชายแดนไทย-กัมพูชาเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน ไทยได้ยื่นเอกสารหนา 900 หน้าแก่ศาลโลก ชี้แจงการอ้างกรรมสิทธิ์ของไทยเหนือพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร บริเวณปราสาทดังกล่าว
พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวกับบางกอกโพสต์ว่า ตนเกรงว่าศาลโลกจะไม่วินิจฉัยในทางที่เป็นคุณแก่ประเทศไทย เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งว่า “พูดกันอย่างเปิดอกเลยนะ คดีนี้ประเทศไทยเสียเปรียบ” และว่า “และผมเกรงว่า ประเด็นนี้จะลุกลามกลายเป็นความแตกแยกอย่างลึกซึ้งในหมู่คนไทยด้วยกัน เพราะมันเป็นเรื่องของอธิปไตย” อดีตนายกรัฐมนตรีไทยผู้นี้กล่าวด้วยว่า แม้รัฐบาลน้องสาวของเขาได้ปรับปรุงความสัมพันธ์กับกัมพูชาแล้ว แต่คงไม่ร้องขอให้รัฐบาลพนมเปญถอนเรื่องออกจากศาลโลก ถ้ารัฐบาลกัมพูชาขอถอนก็จะเจอวิกฤตทางการเมือง เพราะประชาชนกัมพูชาจะไม่ยอม
พนมเปญโพสต์รายงานในวันจันทร์ว่า นายคอย ควง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา ได้เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า รัฐมนตรีต่างประเทศ นายฮอร์ นัมฮง จะเดินทางไปยังกรุงเฮกในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อส่งมอบเอกสารแก่ศาลโลก “เราได้ตระเตรียมหลักฐานอย่างเพียงพอ ในการที่จะตอบโต้การอ้างสิทธิ์ของประเทศไทย” เขากล่าว
ทั้งนี้ คำให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณยังบอกด้วยว่า ดินแดนแห่งนี้ตั้งแต่ในสมัยฝรั่งเศสครองอาณานิคมกัมพูชาอยู่ ได้เสนอแผนที่ต่อสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ว่าดินแดนดังกล่าวเป็นของกัมพูชา ซึ่งทางฝรั่งเศสก็ได้ปักธงสัญลักษณ์ไว้บนเนินเขา ซึ่งสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เองก็มิได้ทรงคัดค้านแต่อย่างใด
ในบทสัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เขาเล่าว่าได้เคยหารือกับทางรัฐบาลกัมพูชาถึงเรื่อง 4.6 ตารางกิโลเมตรนี้แล้ว ซึ่งเขาก็ยืนยันว่าไม่มีใครอาศัยอยู่เลย จนกว่าจะได้ข้อตกลงร่วมกัน อีกทั้งตนก็ได้เสนอไปว่า ไทยและกัมพูชาควรร่วมมือกันพัฒนาเขตพิพาทดังกล่าวให้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว
แหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคงระบุว่า จากคำให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการโยนหินถามทาง และหยั่งกระแสของกลุ่มที่หนุนแนวทางรัฐบาล กับกลุ่มที่คัดค้าน เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นประเด็นที่อ่อนไหว หากศาลโลกอ่านคำพิพากษาตามคำร้องของกัมพูชาให้ตีความคำพิพากษาปี พ.ศ. 2505 ซึ่งอาจมีผลในเรื่องเขตแดน จึงทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณต้องการแรงหนุนจากมวลชนคนเสื้อแดง ในการไปเจรจาเป็นการส่วนตัวกับสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ก่อนที่จะมีการอ่านคำพิพากษา เพราะต้องมีมวลชนเสื้อเหลืองออกมาต้านจำนวนมาก
“แนวทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ คือ ต้องการที่จะไปเจรจาเพื่อให้กัมพูชาถอนคำร้องออกจากศาลโลก เพื่อไม่ให้ไปถึงวันที่ศาลจะมีคำพิพากษาในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า โดยจะมีเป้าหมายในการถอนทหารของสองชาติออกจากพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร เพื่อให้เป็นพื้นที่โนแมนแลนด์” แหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคงระบุอีกว่า พ.ต.ท.ทักษิณต้องการให้สังคมเลือกทางที่สาม โดยใช้การเจรจาที่เขาเห็นว่าจะวิน-วิน (ได้ประโยชน์ร่วมกัน) ระหว่างสองชาติ ภายใต้ข้อสงสัยในการเจรจาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนด้านพลังงาน
มีรายงานด้วยว่า ในเบื้องต้น พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางมาประเทศกัมพูชาในช่วงวันที่ 15-17 มีนาคมนี้ เพื่อเข้าเยี่ยมคารวะสมเด็จฮุนเซน พร้อมจะเปิดโอกาสให้แกนนำเสื้อแดงและ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ได้เข้าพบในการเดินทางมาครั้งนี้ด้วย....
ที่รัฐสภาวันเดียวกัน มีการประชุมวุฒิสภาก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายสมชาย แสวงการ ส.ว.ได้หารือว่า ขณะนี้นายวีระ สมความคิด แกนนำเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ ที่ถูกศาลกัมพูชาพิพากษาจำคุก มีอาการป่วยหนัก เป็นโรคดีซ่าน ขาบวม ไม่สามารถเดินได้ เราได้ปล่อยสายสืบของเขาไปแล้วจำนวนมาก และปล่อยให้ญาติผู้นำรัฐบาลเข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลย่านสุขุมวิท เท่าที่ทราบมีบิดาของสมเด็จฮุนเซนที่ป่วยหนักเป็นมะเร็งก็เข้ามารักษาตัวอยู่ใน กทม. ฉะนั้น รัฐบาลไทยควรขอให้รัฐบาลกัมพูชาช่วยดูแลคุณวีระ คุณราตรี ในฐานะพลเมืองไทย ไม่ใช่ศัตรู
จากข้อความดังกล่าวผมอยากให้ท่านได้ปฏิบัติดังนี้ 1. ช่วยบอกสมเด็จฮุนเซนให้ถอนทะเบียนมรดกโลกออกไปก่อนแล้วจัดการเรื่องเขตแดนตรงบริเวณปราสาทพระวิหารให้เรียบร้อย หลังจากนั้นค่อยนำปราสาทมาขึ้นทะเบียนร่วมกันพัฒนาร่วมกันภายใต้ข้อสงวนสิทธิ์ว่าไทยสามารถเรียกคืนตัวปราสาทได้ 2. เรื่องพลังงานในอ่าวไทยท่านยังไม่ควรจะไปเจรจา 3. ท่านควรเจรจาให้มีการปล่อยตัวคุณวีระและคุณราตรี ทันทีหรือจะกลับมาพร้อมกับท่าน ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
เรื่องที่ท่านให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับแผนที่ที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้ทรงขอมาผ่านพระองค์เจ้าท่านหนึ่งนั้น ไม่ได้หมายความว่าสมเด็จจะต้องรับผิดชอบหรือเห็นด้วย และการที่เสด็จฯ ไปตรวจราชการที่มณฑลอีสานได้ขึ้นไปปราสาทพระวิหารก็คือการเสด็จฯ ไปเยี่ยมชมตัวปราสาทพระวิหาร พระองค์ท่านก็มิได้มีอำนาจใดๆ ในทางปกครองและได้ทรงปฏิเสธเป็นเรื่องที่ฝ่ายฝรั่งเศสฉกฉวยโอกาส และอีกอย่างหนึ่งพระองค์ท่านไม่มีอำนาจมาตัดสินเรื่องแผนที่หรือยอมรับแผนที่ เพราะไม่ได้เป็นคณะกรรมการปักปันเขตแดนจึงไม่มีสิทธิใดๆ ทั้งสิ้น การที่ท่านไปให้สัมภาษณ์เช่นนี้เป็นความไม่รู้เรื่องจริงนั่นเอง อีกทั้งศาลโลกก็มิได้พิจารณาข้อมูลของเขมรในจุดนี้เลย
การโยนกลองของทักษิณได้โยนกลองและตีกลองให้ดังสะท้อนกลับมายังประเทศไทยทำเสมือนหนึ่งว่าประเทศไทยคงแพ้การตีความของศาลโลก และทำตัวเป็นฮีโร่ที่จะไปเจรจาว่าความให้ฮุนเซนชะลอการตีความในคดีได้ การที่ทักษิณพูดแบบนี้ทำให้เราคิดไปได้ว่า ศาลโลกรู้เห็นเป็นใจกับเขมรจึงสามารถสั่งชะลอได้ ดังนั้นสิ่งที่ผมอยากจะสื่อสารให้ทุกท่านได้ทราบก็คือ 1. ทักษิณรู้เรื่องปัญหาปราสาทพระวิหารดี แต่เจตนาที่ออกมายังไม่ชัด อาจสมประโยชน์กับเขมรหรือไม่ 2. ทักษิณใช้กรณีปราสาทพระวิหารทำตัวเป็นฮีโร่ เพราะสามารถต่อรองกับฮุนเซนได้
ประเทศไทยของเรากำลังอยู่ในฐานะลำบากต่อกรณีปราสาทพระวิหารทั้งอำนาจที่อยู่เหนือกฎหมาย ทั้งนักการเมืองและข้าราชการ ล้วนแล้วแต่ต้องรับผิดชอบต่อการสูญเสียพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร
ที่มา : จากบทสัมภาษณ์ทักษิณจ่อเข้าเขมรถก ‘พื้นที่ทับซ้อน’ (ไทยโพสต์)