เอเยนซี - นายกรัฐมนตรีจีน นายเวิน เจียเป่า ได้ให้การต้อนรับ นายกรัฐมนตรีไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคณะ ที่เดินทางเยือนจีนเป็นเวลา 3 วัน เมื่อวันอังคารที่ 17 เม.ย. กระชับสัมพันธ์ และลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลจีน จำนวน 7 ฉบับ
ไชน่าเดลี (18 เม.ย.) รายงานว่า เมื่อวันที่ 17 เม.ย. รัฐบาลจีนได้ให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเดินทางมาเยือนกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน โดยพิธีตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ อันถือเป็นการต้อนรับอย่างเป็นทางการมีขึ้น ณ มหาศาลาประชาชน และจากนั้นนายกฯ จากประเทศไทยยังหารือกับนายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจีนจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีไทย
รายงานข่าวกล่าวว่า ในการเยือนครั้งนี้ จะทำให้เกิดการผลักดันความร่วมมือทวิภาคี ที่จะเอื้อต่อผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ได้แก่ ความตกลงความร่วมมือด้านการศึกษาจีน-ไทย ปี พ.ศ. 2555-2557 บันทึกความเข้าใจร่วมว่าด้วยความร่วมมือเรื่องสินค้าเกษตรระหว่างกระทรวงพาณิชย์ไทยและจีน บันทึกความเข้าใจร่วมว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมของจีนกับกระทรวงพาณิชย์ไทย บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านกิจการรถไฟ และบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านน้ำและการป้องกันน้ำท่วม นอกจากนี้ยังนับเป็นการสานสัมพันธ์และสร้างความคุ้นเคยใกล้ชิดในระหว่างผู้นำของทั้งสองชาติอย่างต่อเนื่อง
สื่อจีนรายงานคำกล่าวของนายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน ว่า ประเทศไทย “คือมิตรและหุ้นส่วนผู้จริงใจ” และจีนตัดสินใจร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์จีน-ไทย ด้วยความตกลงการขยายความร่วมมือทวิภาคีทางเศรษฐกิจและการค้าต่อกันและกัน ความร่วมมือของสองชาติในครั้งนี้ จะช่วยกระตุ้นการค้าการลงทุน และเพิ่มสัดส่วนการใช้สกุลเงินท้องถิ่นเป็นสกุลแลกเปลี่ยนการค้าระหว่างประเทศ โดยมุ่งหมายสร้างมูลค่าการค้าระหว่างกันให้ได้ถึง 3 ล้านล้านบาทภายในปี พ.ศ. 2558 นอกจากนี้ ความร่วมมือนี้จะทำให้เกิดเส้นทางเชื่อมทั้งการคมนาคม โทรคมนาคม แลกเปลี่ยนวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมระหว่างประชาคมอาเซียนและจีน
ไชน่าเดลี่ ระบุว่า นายกรัฐมนตรีไทย ซึ่งเข้าดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนสิงหาคม 2554 มีกำหนดเดินทางมาเยือนจีนอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว แต่ต้องเลื่อนออกไปเนื่องจากเกิดอุทกภัยในประเทศไทย ซึ่งจีนได้ส่งความร่วมมือไปช่วยรัฐบาลและประชาชนไทยในช่วงเวลาดังกล่าว และยังคงติดตามเพื่อให้ความช่วยเหลือหลังน้ำลดอยู่เสมอมา
ด้าน นายกรัฐมนตรีไทย ได้กล่าวขอบคุณในความช่วยเหลือจากจีน ระหว่างช่วงมหาอุทกภัยเมื่อปีที่แล้ว โดยจีนให้ความช่วยเหลือสนับสนุนรัฐบาลไทย และไทยพร้อมที่จะร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์กับจีน และพร้อมกันนี้ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับการสืบสวน พิจารณาคดีฆาตกรรมลูกเรือจีนในแม่น้ำโขงเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยล่าสุด ได้จับกุมทหารไทย 9 นาย ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยแล้ว รวมทั้งกระชับความร่วมมือระหว่างรัฐบาลจีน ไทย พม่า และลาวในการลาดตระเวนคุ้มกันเรือสินค้าในแม่น้ำโขงด้วย นอกจากนี้ยังร่วมมือในการสร้างสันติและเสถียรภาพอธิปไตยทะเลจีนใต้
บรรดานักวิเคราะห์ แสดงความเห็นว่า ยิ่งความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี จีน-ไทย แน่นแฟ้นขึ้นเท่าใด ก็ยิ่งดีต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่ นายโจว ฟังเย่อว์ ผู้เชี่ยวชาญไทยศึกษา จากสถาบันสังคมศาสตร์จีน กล่าวว่า ความร่วมมือจีน-ไทยนี้ ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจแต่อย่างใด เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ได้ร่วมมือกันในหลายด้านอยู่แล้ว
นายจาง ซู่ว์กัง ผู้เชี่ยวชาญภาคอุษาคเนย์ศึกษา จากสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กล่าวว่า การเยือนของนายกรัฐมนตรีไทย จะช่วยป้องกันผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองภายในประเทศไทย ส่วนเรื่องความปลอดภัยในแม่น้ำโขงนั้นก็ควรที่จะขยายความร่วมมือไปยังประเทศกัมพูชาด้วย
สำหรับนายกรัฐมนตรีไทยนั้น ยังมีกำหนดการเยี่ยมคารวะ นายหูจิ่นเทา ประธานาธิบดีจีน และนายอู๋ ปังกั๋ว ประธานสภาประชาชนแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมถึงพบปะหารือกับนักธุรกิจภาคเอกชนชั้นนำของจีนและนักธุรกิจไทยในประเทศจีนด้วย จากนั้นในวันพฤหัสฯ จะเข้าเยี่ยมชมการทำงานของศูนย์ควมคุมบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งแห่งชาติจีน และเดินทางต่อไปยังเมืองเทียนจิน
ทั้งนี้ จีนเป็นประเทศเป้าหมายของการส่งออกสินค้าจากประเทศไทยที่ใหญ่ที่สุด โดยมีมูลค่าการค้าขายระหว่างกันในปี 2554 อยู่ที่ 2.005 ล้านล้านบาท