นายกฯ นั่งรถไฟความเร็วสูงปักกิ่งไปนครเทียนจิน ก่อนบินถกลุ่มโขงยุ่นค่ำนี้

“ยิ่งลักษณ์” นั่งรถไฟความเร็วสูงกรุงปักกิ่งไปเทียนจิน ชมพิพิธภัณฑ์ผังนครเทียนจิน ก่อนบินมุ่งตรงญี่ปุ่นประชุมผู้นำลุ่มน้ำโขง

วันนี้ (19 เม.ย.) ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อเวลา 14.15 น.ตามเวลาท้องถิ่น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางออกจากภัตตาคาร Quanjude ไปยังสถานีรถไฟกรุงปักกิ่งใต้ (หนานจ้าน) เพื่อเดินทางโดยรถไฟความเร็วสูงขบวนที่ C 2040 ไปยังสถานีรถไฟนครเทียนจิน

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในเวลา 15.10 น.ตามเวลาท้องถิ่น ณ เรือนรับรองรัฐบาลนครเทียนจิน เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ และนายกเทศมนตรีนครเทียนจิน เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี

จากนั้นในเวลา 16.25 น. นายกรัฐมนตรีและคณะจะเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ผังนครเทียนจิน และเดินทางกลับกรุงปักกิ่งโดยรถไฟความเร็วสูง

โดยรถไฟความเร็วสูงหมายถึงเส้นทางรถไฟที่สร้างใหม่และมีความเร็วสูงกว่า 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือเส้นทางรถไฟที่มีอยู่เดิมแต่ได้รับการปรับปรุงให้สามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วสูงกว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตั้งแต่ยุคทศวรรษ 1960 เป็นต้นมา กิจการรถไฟความเร็วสูงได้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยในปัจจุบันญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน เกาหลีใต้ ฯลฯ รวมแล้ว 18 ประเทศได้ทำการสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงขึ้นแล้ว

ขณะที่ปัจจุบันเมืองของจีนที่มีประชากรมากกว่า 5 แสนคนมีมากถึง 245 เมือง อีกทั้งระยะทางระหว่างเมืองหลวงของมณฑลต่างๆ อยู่ที่ประมาณ 1,500 กิโลเมตร และประชาชนส่วนมากของแต่ละเมือง เดินทางด้วยรถไฟเป็นหลัก ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รถไฟความเร็วสูงของจีนได้ทำการขนส่งผู้โดยสารกว่า 600 ล้านคนด้วยความปลอดภัย นอกจากนี้ รถไฟความเร็วสูงของจีน มีความสามารถในการขนส่งของรถไฟความเร็วสูง สูงเป็น 4-5 เท่าของรถไฟธรรมดา ซึ่งมีการคำนวณว่า หากสัดส่วนการขนส่งโดยรถไฟความเร็วสูงเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 จะช่วยลดต้นทุนด้านลอจิสติกส์ 212 ล้านหยวน ปี 2554 เส้นทางรถไฟความเร็วสูงที่เปิดให้บริการมีความยาวทั้งหมด 8,358 กิโลเมตร และอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 17,000 กิโลเมตร

เกี่ยวกับเส้นทางรถไฟความเร็วสูงต่างๆ ในประเทศจีน ภายหลังจากการประชุมสภาผู้แทนประชาชนสมัยที่ 16 กิจการรถไฟความเร็วสูงของจีนได้เข้าสู่ช่วงการพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2548 ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงสือเจียจวง-ไท่หยวน

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2551 เส้นทางรถไฟความเร็วสูงปักกิ่ง-เทียนจิน ได้ทำการเปิดให้บริการ ซึ่งเป็นรถไฟความเร็วสูง 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เส้นแรกของจีนและของโลก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมทางเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูงของจีน ต่อมาเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2552 เส้นทางรถไฟความเร็วสูงอู่ฮั่น-กว่างโจว ได้เปิดให้บริการ โดยมีความยาว 1,069 กิโลเมตร ในปี 2553 จีนได้เปิดใช้บริการเส้นทางรถไฟความเร็วสูง 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อีก 3 สายได้เปิดให้บริการ ได้แก่ เส้นทางเจิ้งโจว-ซีอาน เส้นทางเซี่ยงไฮ้-หนานจิง และเส้นทางเซี่ยงไฮ้-หางโจว

ในปี 2554 จีนได้เปิดใช้บริการเส้นทางรถไฟความเร็วสูง 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อีก 3 สาย ได้แก่เส้นทางกว่างโจว-จูไห่ เส้นทางปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้ และเส้นทางกว่างโจว-เซินเจิ้น-ฮ่องกง นอกจากเส้นทางรถไฟความเร็วสูงดังกล่าวแล้ว ประเทศจีนยังมีอีกหลายสายที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง

เส้นทางรถไฟความเร็วสูงปักกิ่ง-เทียนจิน เป็นเส้นทางรถไฟความเร็วสูงสำหรับผู้โดยสารที่วิ่งระหว่างกรุงปักกิ่งกับนครเทียนจิน เส้นทางรถไฟความเร็วสูงฯ ยาว 117 กิโลเมตร และถูกสร้างมาเพื่อรองรับการวิ่งด้วยความเร็ว 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (ปัจจุบันวิ่งด้วยความเร็วไม่เกิน 330 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อเส้นทางรถไฟดังกล่าวเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2550 เส้นทางรถไฟดังกล่าวถือว่าเป็นเส้นทางรถไฟเชิงธุรกิจที่เร็วที่สุดในโลก และทำให้ระยะเวลาการเดินทางระหว่างกรุงปักกิ่ง-นครเทียนจิน จากเดิม 70 นาทีเป็น 30 นาที ปัจจุบัน มีเที่ยวรถ 57 เที่ยวต่อวัน

จากนั้น เวลา 19.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางออกจากท่าอากาศยานนานาชาติกรุงปักกิ่ง เพื่อเดินทางไปยังท่าอากาศยานฮาเนดะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเข้าร่วมประชุมผู้นำลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 4 ซึ่งนายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางถึงกรุงโตเกียว ในเวลา 23.10 น. (ตามเวลาท้องถิ่น ณ กรุงโตเกียว เร็วกว่าที่กรุงปักกิ่ง 1 ชั่วโมง)