ส.ส.นครศรีธรรมราช ประชาธิปัตย์ เชื่อหากรัฐถือทิฐิไม่ฟังใครยิ่งพิจารณาแก้รัฐธรรมนูญยืดเยื้อ แนะพบกันครึ่งทาง ส.ส.ร.200 จวก “แม้ว” ขวางไม่ให้ใครก้าวข้ามเอง หยันปราศรัยแผ่นเสียงตกร่อง ชี้ถ้ายังไม่ยอมรับผิด ปรองดองก็ไม่เกิด ขู่ถ้า 45 ล้านเสียงที่เหลือไม่ยอมรับนิรโทษกรรมอะไรจะเกิดขึ้น ซัดชอบทำตัวเป็นผู้วิเศษ
วันนี้ (15 เม.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม กล่าวถึงการประชุมรัฐสภา 18-19 เม.ย. เพื่อพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 2 ว่า ถ้ารัฐบาลยังถือทิฐิไม่ฟังความเห็นที่หลากหลายก็อาจจะทำให้มีความยืดเยื้อในการพิจารณาออกไปอีก โดยเฉพาะมาตรา 291/1 เรื่องจำนวน ส.ส.ร.ที่มีผู้แปรญัตติมากถึง 100 คนเศษ ซึ่งรัฐบาลยืนยันตามร่างเดิมของ ครม. คือให้มี ส.ส.ร.99 คน มาจาการเลือกตั้งจังหวัดละ 1 คน ในขณะที่สมาชิกผู้สงวนคำแปรญัตติ ได้แปรญัตติในจำนวนที่แตกต่างกันไป ถ้าหากว่าพบกันครึ่งทาง กรรมาธิการเสียงข้างมากควรจะยอมรับมติเดิมที่กรรมาธิการฯ เสียงข้างน้อยชนะโหวตในที่ประชุมคือให้มี ส.ส.ร.จำนวน 200 คน ซึ่งถือว่าเป็นทางออกที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ ส่วนกรณีวิธีการเลือกตั้งและคุณสมบัติของผู้ที่จะเป็น ส.ส.ร.แม้ว่าจะไม่ตรงใจสมาชิกส่วนใหญ่ แต่ก็พอที่จะยอมรับได้ในระดับหนึ่ง จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนแนวความคิดพบกันครึ่งทางในเรื่องจำนวน ส.ส.ร. กลับมติให้มี ส.ส.ร. 200 คนก็จะมีความลงตัวทันที อย่างไรก็ตาม อยากให้การพิจารณาจบลงภายในวันที่ 18-19 เม.ย.ตามที่กำหนดไว้ ถ้ายืดเยื้อออกไปก็จะไม่มีประโยชน์แก่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จึงอยากให้สมาชิกรัฐสภาฟังเหตุผล เคารพความคิดซึ่งกันและกัน ไม่อยากให้ถือทิฐิใช้เสียงข้างมากลากไป
ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีที่ดินรัชดาฯ ปราศรัยที่นครวัด ประเทศกัมพูชา เรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ก้าวข้าม พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าพรรคประชาธิปัตย์ก้าวข้าม พ.ต.ท.ทักษิณมานานแล้ว เพียงแต่ตัว พ.ต.ท.ทักษิณเองพยายามทำตัวขัดขวางปิดกั้นไม่ให้ใครมาก้าวข้าม และคำปราศรัยในครั้งนี้ก็เป็นประเด็นเดิมๆ ทำตัวเป็นแผ่นเสียงตกร่อง พยายามยืนกระต่ายขาเดียวว่าตัวเองไม่มีความผิด กล่าวหากระบวนการยุติธรรมว่ากลั่นแกล้ง ทั้งที่ตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์ ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณยังมีแนวคิดเช่นนี้อยู่ อีกพันปีความปรองดองก็จะไม่เกิดขึ้น อย่าหวังว่ามีเสียงข้างมากในสภาฯ แล้วจะนิรโทษกรรมให้ตัวเองได้ 15 ล้านเสียงที่แอบอ้างอยู่ตลอดเวลา แต่อีก 45 ล้านเสียง เขาไม่ยอมรับ ก็อยากให้ลองคิดดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ แน่จริงว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์ก็กลับมาสู้คดีใหม่อีกก็ย่อมได้ เพราะในขณะนี้ยังมีคดีความค้างคาอยู่ในชั้นศาลอีกหลายคดี และคดีที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณได้ใช้สิทธิตามกฎหมายสู้คดีอย่างเต็มที่แล้ว ถ้าจะปฏิเสธกระบวนการยุติธรรมก็ควรปฏิเสธตั้งแต่ต้น ไม่ใช่มาสู้คดีจนถึงที่สุด เมื่อแพ้คดีก็บิดเบือนใส่ร้ายว่ากระบวนการยุติธรรมไม่ให้ความเป็นธรรมแก่ตน พ.ต.ท.ทักษิณพยายามทำตัวเป็นผู้วิเศษ เป็นมนุษย์ที่มีอภิสิทธิ์เหนือคนไทยทุกคน ซึ่งไม่มีใครยอมรับพฤติกรรมแบบนี้ได้
