นายกฯ มั่นใจเทศกาลสงกรานต์ ไม่มีเหตุป่วน ชี้ นปช.รดน้ำ “นช.แม้ว” ที่ลาว-กัมพูชา เป็นสิทธิส่วนบุคคล ให้คำมั่นเหตุการณ์แผ่นดินไหวคลี่คลายแล้ว เชื่อ ไม่กระทบการท่องเที่ยว พร้อมเป็นประธานลงนาม MOU ติดตามโครงการแก้ปัญหาอุทกภัย จี้ ทำเร่งรัด โปร่งใส ฟื้นความเชื่อมั่นประเทศไทย
วันนี้ (12 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการดูแลประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า ยังไม่มีอะไรที่ผิดปกติ ซึ่งทางหน่วยข่าวกรองได้มีการติดตามข้อมูลข่าวสารและการบูรณาการทุกหน่วยงาน ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ก็ได้มาบูรณาการให้ข้อมูลต่างๆ เชื่อมในพื้นที่มากขึ้น และจากการรณรงค์สงกรานต์ปลอดภัย ทุกกระทรวงก็ทำงานอย่างเคร่งครัด ทั้งการเตรียมพื้นที่จุดพักรถระหว่างทาง ซึ่งกระทรวงมหาดไทย ได้รณรงค์ จัดพื้นที่เล่นน้ำอย่างปลอดภัย รวมถึงการระวังเรื่องการดื่มสุรา และขับรถเร็ว ซึ่งจะมีหลายๆ ส่วนที่จะมาบูรณการรวมกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกส่วนได้ทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อที่เราอยากจะได้เห็นสงกรานต์นี้เป็นสงกรานต์ที่ปลอดภัยสำหรับประชาชนคนไทย โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ประชาชนกลับไปเยี่ยมบ้าน ซึ่งทางกระทรวงคมนาคมก็ได้ประสานงานเรื่องการเดินทางต่างๆ เรียบร้อยแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีปัญหาประชาชนตกค้างอยู่ที่ บขส.หรือรถไฟ หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ได้มีการติดตามและแก้ปัญหาเป็นระยะ เพราะเรามีจำนวนรถไฟ และ บขส.ที่จำกัด ซึ่งหลายหน่วยงานจะมีการตั้งศูนย์บัญชาการรวมที่จะอำนวยความสะดวก และดูแลเรื่องความปลอดภัยของประชาชน
เมื่อถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาประเทศลาว และกัมพูชา ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงเดินทางไปจำนวนมาก จะสร้างปัญหาหรือความหนักใจให้กับประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แสดงสีหน้าตั้งใจฟังคำถาม ก่อนฉีกยิ้มแล้วตอบว่า ถือว่า ทุกอย่างเป็นสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล ก็ขอให้ทำอยู่ในขอบเขต และเรียนว่า ช่วงนี้อยู่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ก็อยากเห็นความสุข ยิ้มแย้ม สามัคคี ปรองดองให้เกิดขึ้นในช่วงนี้ด้วย บรรยากาศทุกอย่างในช่วงนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนรอคอย ประเพณีสงกรานต์เป็นประเพณีที่ดั้งเดิมของคนไทยที่มีโอกาสให้ลูกหลานได้มาขอขมาบรรพบุรุษ ทำให้ครอบครัวได้มาอยู่ร่วมกัน ตรงนี้เป็นสิ่งที่ดี ตนอยากเห็นสงกรานต์ปีนี้มีแต่รอยยิ้มของคนไทย และขอให้หลายๆ ท่านที่เดินทางกลับบ้าน เดินทางโดยสวัสดิภาพ เมื่อถามย้ำว่า จะส่งผลกระทบอะไรต่อการเมืองหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม พร้อมกับเดินออกไปทันที
นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงการเตรียมการและความพร้อมของรัฐบาลจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่า จากภาพรวมการเตรียมพร้อมดีอยู่ในระดับหนึ่ง ซึ่งระบบเตือนภัยที่วางไว้ตั้งแต่แรกเป็นระบบเตือนภัยที่มีขั้นตอนในการเตือนภัย ซึ่งดูจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา เราเองก็พยายามปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เช่น กรณีที่ประชาชนในจังหวัดภูเก็ตต้องเคลื่อนย้ายไปอยู่ที่สูง ก็อาจจะมีปัญหาเรื่องรถติดบ้าง ซึ่งได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดูแลเรื่องการจราจรและปรับปรุงปัญหาในส่วนที่ผ่านมา ทั้งนี้ จะติดตามข้อมูลข่าวสารเรื่องภัยธรรมชาติเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า สถานการณ์คลี่คลายลงแล้ว และยังไม่มีคำเตือน ซึ่งเราก็ติดตามสถานการณ์อยู่ และเรื่องนี้ไม่ได้มีผลกระทบกับนักท่องเที่ยว มีเพียงได้รับบาดเจ็บขณะวิ่ง แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บภัยธรรมชาติ
เมื่อถามว่า จะมีผลกระทบเรื่องทัวร์ที่จะมีนักท่องเที่ยวเข้าไปในช่าง 1-2 วันนี้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า น่าจะไม่มีผลกระทบมาก เพราะสนามบินภูเก็ตที่มีการปิดไป บางสายการบินก็ย้ายไปลงสนามบินหาดใหญ่ ซึ่งเราเองก็พยายามจะเรียกกลับอาจจะมีผลกระทบบ้าง แต่อย่างไรก็เชื่อว่าภายใน 1-2 วันก็น่าจะกลับมา
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กับ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เรื่องการติดตามและประเมินผลโครงการป้องกันปัญหาอุทกภัยต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ โดย นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์มหาอุทกภัยปี 2554 รัฐบาลได้เดินหน้าช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยา พร้อมทั้งวางแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วม 2 ระยะ คือ โครงการเร่งด่วนที่ดำเนินการให้เสร็จภายในกลางปีนี้ และโครงการระยะยาว ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินงานของโครงการต่างๆ สำเร็จและมีประสิทธิภาพ รัฐบาลจึงมีดำริให้มีคณะทำงานเพื่อติดตามรายงานความคืบหน้าของโครงการดังกล่าว พร้อมรายงานอุปสรรคปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
นอกจากนั้น ยังมีดำริให้มหาวิทยาลัย อาจารย์ นิสิตนักศึกษา ในพื้นที่ประสบอุทกภัย เป็นคณะติดตามประเมินผลการดำเนินโครงการดังกล่าว จำนวน 22 สถาบัน และเพื่อให้การติดตามประเมินผลโครงการป้องกันอุทกภัยเป็นไปในทิศทางเดียวกัน จึงได้จัดให้มีพิธีลงนามข้อตกลง (MOU) ระหว่างสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กับ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวสมบูรณ์ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐบาลต่อไป
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า หลังรัฐบาลอนุมัติงบประมาณในการบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วน เพื่อเตรียมป้องกันอุทกภัยที่กำลังจะมาถึง หากมีการติดตาม และมีประสิทธิภาพในการจัดการ ก็เชื่อว่า จะไม่เกิดเหตุการณ์เลวร้ายเหมือนปีที่ผ่านมา การติดตามการทำงานถือเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นกลไกที่รัฐบาลต้องใช้ในการติดตามความคืบหน้าในช่วง 1-2 เดือนนี้ ซึ่งจะต้องติดตามทุกโครงการของรัฐบาลรวมทั้งการใช้ระบบสาระสนเทศ จีพีเอส กำหนดจุด
ทั้งนี้ จะต้องมีมาตรการเร่งรัด ติดตาม บูรณาการ ในแต่ละพื้นที่ สิ่งที่อยากขอความร่วมมือ คือ ให้รายงานความคืบหน้า และปัญหาอุปสรรคทุกโครงการกลับมายังส่วนกลาง เน้นเร่งรัด ทำงานเร็ว โปร่งใส แต่ไม่ใช่การจับผิด ขอความกรุณาให้ความสำคัญตรวจตราจุดเสี่ยงต่างๆ ในส่วนของเครื่องจักร เขื่อน ประตูระบายน้ำ เครื่องสูบน้ำ พนังกั้นน้ำต่างๆ และขอความร่วมมือติดตามดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน เพื่อให้แน่ใจว่า ภาครัฐ และท้องถิ่นเชื่อมโยงกัน ทั้งนี้จะมีการบันทึกไว้ว่าได้ทำอะไรไปแล้ว และพื้นที่ไหนต้องไปบริหารจัดการเพิ่มเติม เพราะครึ่งปีนี้เป็นครึ่งปีที่สำคัญ ที่เราจะเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาสู่ประเทศไทย