หน.ปชป.ตำหนิระบบการแจ้งเตือนสึนามิล่าช้า ไม่เป็นเอกภาพ แนะ รบ.ให้ถือเป็นบทเรียน ไม่อยากคิดหากเกิดสึนามิขึ้นจริง เพราะนายกฯ ยังไม่กล้าแถลงสดห่วงภาพลักษณ์ตัวเองมากกว่าปัญหา ย้ำการเตือนภัยต้องเป็นไปอัตโนมัติ ไม่เกี่ยวการเมือง
วันนี้ (12 เม.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ กล่าวถึงกรณีการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ของรัฐบาลในการแจ้งเตือนภัยไปยังประชาชน หลังวานนี้ (11 เม.ย.) เกิดเหตุแผ่นดินไหวบริเวณเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย และอาจเกิดคลื่นสึนามิบริเวณ 6 จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามันของประเทศไทยว่า เหตุการณ์วานนี้ถือว่าโชคดีที่ไม่ได้เกิดสึนามิในระดับที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินและชีวิตประชาชน แต่มันเป็นเครื่องเตือนใจว่าภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นจะต้องมีระบบการเตือนภัย และประชาชนต้องตื่นตัวรับฟังข่าวสาร วานนี้พื้นที่ที่มีการแจ้งเตือนได้ทำการอพยพประชาชนไปยังพื้นที่สูงทำได้ดีระดับหนึ่ง
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สิ่งที่ตนคิดว่าต้องช่วยกันมากขึ้น คือ การให้ข่าวสารจากส่วนกลาง เพราะต้องยอมรับว่า วานนี้เราจะเห็นเฉพาะประกาศการเตือนภัยพิบัติที่คาดการณ์ว่าคลื่นจะมาถึงพื้นที่ต่างๆ เวลาเท่าไหร่ ซึ่งเป็นการคำนวณคร่าวๆ จากการเกิดเหตุครั้งแรก แต่พอเกิดอาฟเตอร์ช็อกครั้งที่ 2 ก็ไม่มีความชัดเจนว่าพื้นที่ตรงนั้นจะมีผลหรือไม่ และการแถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ที่เมื่อแถลงเสร็จแล้วก็หายไป ซึ่งไม่เป็นระบบและผลดีเท่าไหร่ อยากให้ทบทวนและกลับไปปรับปรุง ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดความสับสน ส่วนการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังใช้วิธีการบันทึกเทปในการสื่อสารกับประชาชน และเมื่อมีการนำเทปมาออกอากาศก็ทำให้ล่าช้ากว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ตนคิดว่าสำคัญที่สุด คือ ความจริงและสิ่งที่จะสื่อสารไปยังประชาชนด้วยความรวดเร็ว แม่นยำ และทันต่อสถานการณ์ ดังนั้น ตนไม่อยากให้ไปผูกติดกับการที่จะต้องรอให้นายกฯ หรือรัฐมนตรีมีความพร้อม และการที่มีการให้เหตุผลว่านายกฯ กลัวพูดผิดถ้าเกิดเป็นการถ่ายทอดสดจะเป็นการคำนึงถึงภาพลักษณ์ของตัวเองมากกว่าประชาชนนั้น ตนไม่ทราบว่าใครเป็นคนตัดสินใจ แต่คิดว่าหากก่อนหน้านั้นประมาณ 1 ชั่วโมงจะเป็นใครก็ได้ เช่นข้าราชการที่ทำงานภายในศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติออกมาแถลงการณ์ มันก็จะตรงกับความต้องการของสังคมมากกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า วานนี้มีเหตุการณ์แผ่นดินไหวเกิดขึ้นในช่วงเดียวกับที่มีเหตุการณ์พิเศษ รัฐบาลควรมีแผนรองรับในเรื่องนี้อย่างไรเพื่อให้ประชาชนไม่เข้าใจผิดต่อสถาบันอื่น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ความจริงแล้วโดยสถานการณ์และระบบการเตือนภัยที่มีการลงทุนไปเป็นจำนวนมากจากการเกิดเหตุเมื่อปี 2547 ควรจะมีความเป็นอัติโนมัติในการสื่อสารไปยังประชาชน ควรใช้ทุกช่องทางในการสื่อสาร ส่วนที่เว็บไซต์ของคนเสื้อแดงมีการขยายผลให้มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับงานพระราชพิธีนั้น ตนคิดว่าไม่ควรนำเรื่องดังกล่าวมาเป็นเรื่องการเมือง ตนเป็นคนเสนอไปยังรัฐบาลด้วยว่า การถ่ายทอดสดถ้าจะทำอย่างน้อยก็ต้องมีช่องทางในการแจ้งเตือน แต่ก็เป็นดุลพินิจของรัฐบาล
ต่อข้อถามว่าโครงสร้างของระบบทีวีพูลนั้น รัฐบาลสามารถที่จะประสานงานสั่งการได้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ทั้งหมดเป็นการบริหารจัดการของรัฐบาลได้อยู่แล้ว ซึ่งรัฐบาลควรทำความเข้าใจในเรื่องนี้เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด เพราะเป็นการตัดสินใจและความรับผิดชอบของรัฐบาล การปล่อยให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ไปยังสถาบันอื่นๆ ถือว่าเป็นเรื่องไม่สมควร ยังดีที่ในพื้นที่มีการเตือนภัยและการอพยพประชาชนไปยังพื้นที่อื่นยังดำเนินไป แต่สิ่งที่เราเห็นการสื่อสารที่มาจากส่วนกลางค่อนข้างที่จะช้าก็อยากให้ไปปรับปรุง
"ผมไม่อยากคิดว่าจะเป็นอย่างไรถ้าเกิดสึนามิจริง ก็ขอให้เก็บเกี่ยวสิ่งที่เกิดขึ้นไปเป็นบทเรียนเพื่อปรับปรุง และอยากให้รัฐบาลนำเหตุการณ์วานนี้ไปรวมกับเหตุการน้ำท่วมในปีที่แล้ว เพื่อไปจัดระบบการสื่อสารจากส่วนกลางให้ทันต่อสถานการณ์และเป็นเอกภาพ ส่วนการที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ฯ และ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีฯ ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลพูดไม่ตรงกันนั้น ผมถึงบอกว่าต้องไปทำให้เกิดความเป็นเอกภาพ จริงๆ แล้วเรื่องนี้เราสามารถนำไปเชื่อมโยงกับต่างประเทศได้ เพราะจากรายงานทุกฝ่ายจะทราบว่าจุดที่เกิดแผ่นดินไหวอยู่ตรงไหน และในช่วงบ่ายที่ประเทศอินโดนีเซียมีการประกาศแจ้งเตือน ตนยังแปลกใจเพราะในการประชุมสภาฯ ยังมีการพูดว่า รัฐบาลต้องตัดสินใจภายใน 10 นาที แต่ตนคิดว่า ในเมื่ออินโดฯ เตือนยังไงเราก็ต้องเตือน เพราะถ้าเขาโดนเราก็ต้องโดนอยู่แล้ว"
ถามว่า ปัญหาอยู่ที่การตัดสินใจของคนเป็นผู้นำรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงแล้วที่มีการติดขัดนั้น ติดขัดเพราะอะไร แต่ความจริงการเตือนภัยมันก็ไม่ใช่เรื่องการตัดสินใจทางการเมือง ควรจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อรัฐบาลอย่างไรนั้น ตนคิดว่าประชาชนยังขวัญเสีย เพราะพื้นที่ฝั่งอันดามันประชาชนพอได้ยินว่าจะเกิดคลื่นสึนามิก็ตื่นตระหนกตกใจอยู่แล้ว ดังนั้นก็อยากให้รัฐบาลไปทบทวนว่าเหตุการณ์วานนี้มีอะไรที่จะต้องไปปรับปรุง เช่น การสื่อสาร เพราะเราไม่ควรประมาทเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ และเรื่องเหล่านี้ไม่ควรให้นักการเมืองมาเป็นคนตัดสินใจ