xs
xsm
sm
md
lg

“แม้ว” เพ้อกับนักธุรกิจลาวถูกลอบสังหาร 4 หน ปัดเป็นคู่กรณี “ป๋าเปรม”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ทักษิณ” ยันไม่ใช่คู่กรณี “ป๋าปรม” ที่จะต้องคุยกันเพื่อปรองดอง เมินข้อเสนอ “อภิสิทธิ์” 2 แลก 1 ล้มแผนนิรโทษกรรม เพ้อให้นักธุรกิจลาวฟัง ถูกลอบสังหาร 4 หน แต่พระเจ้าเห็นว่ายังเป็นประโยชน์ จึงรอดมาได้

วันนี้ (11 เม.ย.) เมื่อเวลา 18.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินทางมาถึงที่โรงแรมดอนจันทน์ นครหลวงเวียนจันทน์ เพื่อปาฐกถากับนักธุรกิจ โดยมีสภาอุตสาหกรรมแห่งชาติ สปป.ลาว เป็นเจ้าภาพ โดย พ.ต.ท.ทักษิณ นั่งรถยนต์มาถึงโรงแรมโดยมี นายยงยุทธ ติยะไพรรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน นั่งมาด้วย ทั้งบรรยากาศที่หน้าโรงแรมดอนจันทน์ เต็มไปด้วยมวลชนที่เดินทางมารอต้อนรับจำนวนมาก ทันทีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ก้าวออกจากรถ ก็เกิดความโกลาหลขึ้น เนื่องจากมีคนจำนวนมากต้องการเข้ามาให้การต้อนรับ จับมือ ขอถ่ายรูป ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องทำงานอย่างหนัก พยายามกันตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ฝ่าวงล้อมมวลชนขึ้นไปยังห้องรับรองด้วยความทุลักทุเล

จากนั้นเวลา 19.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ตนคิดมาตลอดเวลา ว่า อยากเดินทางกลับบ้าน ส่วนวิธีการเดินทางกลับแบบเท่ๆ นั้น ถึงเวลามันต้องเท่ก็ต้องเท่ ส่วนจะใกล้ถึงเวลาหรือยังนั้น ยังไม่เป็นไรครับ แล้วแต่สถานการณ์

สำหรับข้อเสนอของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เรื่อง 2 แลก 1 ในการไม่นิรโทษกรรม อย่าไปพูดถึง เดี๋ยวมันไปเป็นมงคล เพราะวันนี้สิ่งที่น่าห่วง คือ เรื่องของแผ่นดินไหว ที่เกาะสุมาตรา ซึ่งเกิดในจุดเดียวกันกับที่เคยเกิดขึ้นกับคราวที่แล้ว แต่ว่าโชคดีที่มันลึกกว่า แต่ก็ยังน่าเป็นห่วงอยู่

ทั้งนี้ ผมได้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญทั้งหลาย ซึ่งทางรัฐบาลก็รีบเตือนภัย และได้คุยกับ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ว่า ควรรีบเตือนภัย ซึ่งก็ได้มีการเตือนกันไปแล้ว ในการอพยพ เพราะเราเอาชีวิตเป็นหลัก มันอาจจะไม่เกิดรุนแรงเหมือนกับคราวที่แล้ว เพราะว่ามันลึกกว่า แต่มันก็มีเหตุการณ์ที่แปลกๆ อยู่ เช่น อาฟเตอร์ช็อกมันขึ้นมา 8.8 ริกเตอร์ เมื่อขึ้นมาขนาดนั้น ต้องระมัดระวังว่ามันจะมีอะไรเกิดขึ้น ประมาทไม่ได้ เราเอาความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนเป็นหลัก ซึ่งตนยังไม่ได้มีการพูดคุยกับนายกฯ เนื่องจากอยู่ในพระราชพิธี

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า การเดินทางมาที่ประเทศลาวนั้น เพราะอยากมาทำบุญ และอยากมาเจอบรรดาพี่น้องที่ไม่ได้เจอกันมานาน หลายคนบอกว่า อยากเจอเลยแวะมา บางคนบอกเป็นห่วงสุขภาพเป็นยังไง เพราะมีการปล่อยข่าวลือเยอะ และมีคนอยากเห็นหน้าเห็นตาด้วย ก็เลยมาให้เห็นหน้าเห็นตา

เมื่อถามว่า ช่วงเวลาอันใกล้นี้จะเห็นการปรองดองในปีนี้ได้หรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ความจริงแล้ว ทุกฝ่ายได้หยิบยื่น มีเพียงไม่กี่คนที่ไม่อยากปรองดอง แต่ส่วนใหญ่อยากเห็นบ้านเมืองสงบ เมื่อถามว่า คนเรียกร้องเพราะเห็นว่า ท่านเป็นคู่กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า “ผมพร้อมครับ ยังไงก็ได้ ขอให้บ้านเมืองดี ผมไม่ได้เป็นเงื่อนไข ผมอยากให้บ้านเมืองดี เดินไปข้างหน้าได้”

เมื่อถามว่า สามารถคุยกับคู่กรณีได้ใช่หรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ตนคุยกับใครก็ได้ทุกคน ถ้าเป็นเสือคุยไม่รู้เรื่อง ส่วนกรณี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา เสนอให้คุยกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า “ผมไม่ใช่คู่กรณีกับท่าน ผมไม่ใช่คู่กรณีท่าน”

เมื่อถามว่า เรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หรือ พ.ร.บ.ปรองดอง จะเกิดขึ้นหรือไม่นั้น พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า อยู่ที่รัฐสภา ส่วนจะเกิดขึ้นจริง และทำให้ได้กลับบ้านหรือไม่ ก็ไม่ทราบ เพราะทุกอย่างมันมีหลักของมันอยู่

นอกจากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้กล่าวช่วงหนึ่งในงานปาฐกถาด้านเศรษฐกิจ ให้กับนักธุรกิจลาว ว่า ขอบคุณรัฐบาลลาวที่ให้การต้อนรับ ให้โอกาสมาทำบุญตามประเพณี โดยไม่ได้ทำบุญตามประเพณีมานาน หลังจากไม่ได้อยู่ในประเทศ

ทั้งนี้ เมื่อ 2 เดือนก่อนได้ไปหลวงพระบาง สปป.ลาว ได้ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ตักบาตรพระ 99 รูป เป็นครั้งแรกหลังจากออกประเทศไทยมา 5 ปี โดยในวันที่ 12 เม.ย.จะทำบุญเลี้ยงพระ 120 รูป ซึ่งวันนี้ (11 เม.ย.) รู้สึกมีความสุข ได้มีบรรยากาศในการพูดภาษาไทย และคนฟังก็รู้เรื่องทุกคน แม้จะไม่ได้อยู่ในประเทศไทยก็ตาม

“ขอขอบคุณรัฐบาลลาว ที่ดูแลความปลอดภัย ผมเคยถูกลอบฆ่ามาแล้ว 4 หน แต่ดวงดี มีหลวงพ่อดี แต่ก็ไม่ประมาท และพระเจ้าคงเห็นว่ายังเป็นประโยชน์ จึงให้ผมอยู่ต่อ” พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

ทั้งนี้ การเดินทางไปยังสปป.ลาว ครั้งนี้ของพ.ต.ท.ทักษิณ ได้มีกลุ่มคนไทยรอต้อนรับประมาณ 500 คน ประกอบไปด้วย อดีตนักการเมือง ข้าราชการท้องถิ่น นักการเมืองท้องถิ่น อาทิเช่น นายขวัญชัย ไพรพนา, นายสุภร อัตถาวงศ์, นายอรรถชัย อนันตเมฆ, นายนิสิต สินธุไพร,นายสุธรรม แสงประทุม, นายเจ๋ง ดอกจิก, นายวราเทพ รัตนากร, นายเกียรติชัย ชัยเชาวรัตน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายประจวบ ไชยสาส์น อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ฯลฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น