ผบช.น.รอดูท่าที “ประพันธ์” 1 ใน 4 ทีมปล้นบ้านปลัดคมนาคม ที่ยังหลบหนี ติดต่อขอเข้ามอบตัวภายในวันนี้จริงหรือไม่ ด้าน รองผบช.น. เผย คนร้ายขอรวบรวบเงินก่อน หลังนำไปปล่อยกู้ อ้างเงินที่ได้มีเพียง 8.5 ล้าน ขณะที่ชุดสืบนครบาลประสานฝั่งลาว ตามล่า “ไอ้โก้” พบประวัติเคยค้าไม้เถื่อน กับนักธุรกิจลาว ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือยังกบดานอยู่ในไทย
วันนี้ (22 พ.ย.) พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยความคืบหน้าคดีคนร้ายปล้นบ้านปลัดกระทรวงคมนาคม ว่า ทางศูนย์สืบสวนสอบสวน บช.น.ได้รายงานว่า ทาง นายประพันธ์ เรืองเครือ อายุ 42 ปี 1 ใน 4 ผู้ต้องหา ที่หลบหนีอยู่นั้น ได้ติดต่อขอเข้ามอบตัว พร้อมกับยอมรับว่า มีเงินอยู่กับตัวเอง 9 ล้านบาท โดยขอเข้ามอบตัวภายในวันนี้ ซึ่งก็ต้องดูว่าจะเข้ามอบตัวจริงหรือไม่ ส่วนคนอื่นๆ รวมทั้ง นายโก้ หัวหน้าแก๊ง ยังไม่มีการประสานขอเข้ามอบตัวแต่อย่างใด
ด้าน พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รองผบช.น.เปิดเผยถึงการติดต่อขอมอบตัวของ นายประพันธ์ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีบุกปล้นบ้าน นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ที่จะเข้ามามอบตัวในวันนี้ ว่า ขณะนี้ยังไม่มีความแน่นชัดว่า ผู้ต้องหาจะเข้ามอบตัวในวันนี้หรือไม่ แต่ก่อนหน้านี้ 2-3 วัน ผู้ต้องหาได้ติดต่อขอมอบตัวมาแล้ว ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการติดต่อผู้ต้องหากลับไปอีกครั้ง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ทั้งนี้ จากการสอบถามในวันที่ติดต่อขอมอบตัวนั้น นายประพันธ์ กล่าวว่า จะขอรวบรวมเงินที่ตนนำไปปล่อยกู้ก่อน จึงจะเดินทางเข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ ผู้ต้องหาได้อ้างว่า เงินที่ได้ไปนั้น มีเพียง 8.5 ล้านบาท เท่านั้น ซึ่งหากเข้ามามอบตัวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะต้องมีการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้ง
ด้าน พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบังคับการสืบสวนสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามคนร้ายก่อเหตุปล้นเงินสด 200 ล้านบาท ที่บ้านพักของ นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม กลางดึกคืนวันที่ 12 พ.ย.ว่า สำหรับแนวทางการสืบสวนในขณะนี้ ถือว่าคดีมีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะในส่วนของ นายวีระศักดิ์ หรือ โก้ เชื่อลี อายุ 36 ปี ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญในการไขความลับของคดีนี้ทั้งกรณีเงินที่ปล้นไป 200 ล้านบาท และใครคือเจ้านายที่ นายโก้ นำเงินไปให้
พล.ต.ต.รณศิลป์ กล่าวว่า ล่าสุด ชุดสืบสวนได้ประสานไปยังทางการลาว เพื่อให้ช่วยติดตามตัว และส่งทีมลงพื้นที่ไปทุกจุดที่คาดว่า นายโก้ จะไปหลบซ่อนตัว หลังสืบทราบว่า สาเหตุที่ นายโก้ เลือกหลบหนีไปที่ลาวนั้น เนื่องจากเคยทำธุรกิจค้าไม้เถื่อนกับนักธุรกิจชาวลาวมาก่อน ซึ่งเชื่อว่าจะติดตามตัวได้ไม่ยาก ส่วนผู้ต้องหาอีก 3 ราย ที่ร่วมก่อเหตุคาดว่า ยังกบดานอยู่ในประเทศไทย
วันเดียวกันที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน(บก.สส.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.)เดินทางเข้ามาสอบสวนนายเสาร์แก้ว หรือแก้ว นามวงศ์ นายสิงห์ทอง หรือไก่ ใจชมชื่น นายสมบูรณ์ หรือบูรณ์ วิยะเทน ผู้ต้องหาปล้นบ้านายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม เพิ่มเติมในบางประเด็นเพิ่มเติม ส่วนการติดตามตัวนายประพันธ์ เรืองเครือ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 หมู่ 8 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พนักงานบริษัทไทยอินเตอร์การบินไทย สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ที่ได้นำเงินสดไป 9,000,000 บาท นั้นทางชุดสืบสวนได้จัดกำลังออกตามหา ซึ่งก่อนหน้านายประพันธ์ ติดต่อชุดสืบสวน บก.สส.เพื่อเข้ามอบตัวแต่ยังไม่ได้รับการติดต่อแต่อย่างใด
