กมธ.สาธารณสุขสภาฯ ติงกระทรวง สธ.อย่าใช้สารซูโดอีเฟดรีนเล่นการเมือง เตรียมเรียก จนท.รพ.-บริษัทยา แจงอนุฯ กมธ.สัปดาห์หน้าฯ เตือนดีเอสไออย่าหลงทางเดินตามเกมการเมือง เชื่อตรวจสอบยาที่ถูกซุกซ่อนไว้ไม่ยาก
วันนี้ (11 เม.ย.) ที่รัฐสภา นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมาธิการฯ พิจารณาปัญหาสารซูโดอีเฟดรีน ได้เชิญผู้อำนวยการโรงพยาบาลกมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ และผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรสันกำแพง จ.เชียงใหม่ มาให้ข้อมูลต่อทางกรรมาธิการถึงกรณียาซูโดอีเฟดรีน ที่เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติดได้หายออกจากโรงพยาบาลของรัฐบาลหลายแห่ง โดยโรงพยาบาลกมลาไสยมีความผิดปกติในการเบิกจ่ายยาดังกล่าว ทำให้ ผอ.โรงพยาบาลนี้ถูกสั่งย้ายมาช่วยราชการที่กระทรวงสาธารณสุขซึ่งระบบการสั่งจ่ายยาที่ รพ.ดังกล่าวผอ.เข้าไปรับรู้น้อยมาก ซึ่งการที่เชิญ ผอ.โรงพยาบาลกมลาไสยมาชี้แจงนั้นเพราะ รพ.ดังกล่าวเป็นต้นกำเนิดเอกสารที่ที่ดีเอสไอตรวจพบความผิดปกติ ซึ่งเอกสารดังกล่าวระบุว่ามีผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงสาธารณสุขมีส่วนเกี่ยวข้องได้รับเปอร์เซ็นต์ และในเอกสารยังระบุอีกว่าอดีตรัฐมนตรีมีส่วนได้ส่วนเสีย รวมทั้งยังมีเบอร์โทรศัพท์ของตนและผู้ช่วยอยู่ด้วย จากการสอบถาม ผอ.ทราบว่า ผู้ที่พบเอกสารดังกล่าวคือคนที่ไปกับคณะรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่ทำสต๊อกยา 2 คน
นายวิทยากล่าวต่อว่า ในสัปดาห์หน้าทางอนุกรรมาธิการฯ จะเชิญเจ้าหน้าที่ทำสต๊อกยา 2 คน ของโรงพยาบาลกมลาไสย และบริษัทที่นำเข้ายา 64 บริษัทเข้าชี้แจง รวมถึงจะขอรายละเอียดจากกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะ อย.ในการเบิกจ่ายยา ตั้งแต่ปี 50 ถึง ปี 55 ทั้งนี้ ตนขอเรียกร้องให้ดีเอสไออย่าหลงทาง และกระทรวงสาธารณสุขอย่าเล่นการเมืองมากเกินไป เพราะเชื่อว่าจะตรวจสอบได้ไม่ยากว่ายาหายไปอยู่ที่ไหนบ้าง และอนุกรรมาธิการฯ จะสามารถรายงานความคืบหน้าเหตุที่ยารั่วไหลภายใน 3 สัปดาห์ให้แก่คณะกรรมาธิการการสาธารณสุขชุดใหญ่ได้