“ยิ่งลักษณ์” จ้อผ่านเทปรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน เสียใจเหตุคาร์บอมบ์ใต้ ยันเยียวยาเต็มที่ พร้อมเพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่น เร่งฟื้นเศรษฐกิจ เตรียมลุยนโยบาย “3 วัย ใจตรงกัน” ให้เด็ก คนทำงาน ผู้สูงอายุ อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
คลิกที่นี่ เพื่อฟังคลิปเสียง “น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน เช้าวันนี้ (7 เม.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่ได้จัดรายการสดเหมือนที่ผ่านมา แต่เป็นเทปสัมภาษณ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไว้ล่วงหน้า โดยมีนายธีรัตถ์ รัตนเสวี เป็นผู้ดำเนินรายการ สอบถามการลงพื้นที่ภาคใต้หลังเกิดเหตุคาร์บอมบ์ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และ ที่จ.ปัตตานี
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ความรู้สึกครั้งแรกรู้สึกเสียใจ และขอแสดงความเสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับความเสียหายในครั้งนี้ ซึ่งทางรัฐบาลได้ดูแลผู้เจ็บป่วยทั้งหมดที่เจ็บป่วย 400 กว่าราย ซึ่งผู้บาดเจ็บที่ได้นำส่งโรงพยาบาล ขณะนี้ทะยอยกลับบ้านแล้ว ซึ่งเราระดมแพทย์ในการดูแลการรักษาเต็มที่
ส่วนการดูแลเยียวยาได้มีการอนุมัติให้เพิ่มอัตราเท่า 3 จังหวัดภาคใต้ มีทั้งค่าเยียวยาและการรักษาพยาบาลทั้งหมด ก็จะเป็นการดูแลจากภาครัฐทั้งหมด นอกจากนี้ ภาครัฐ จะเพิ่มความปลอดภัยเพิ่มขึ้นในสถานที่ชุมชน รอยต่อเข้าเมือง มีการเพิ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทีมทหาร ในพื้นที่ไปพร้อมๆ กับนำเทคโนโลยีเข้ามาดูแลความปลอดภัย เช่น มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่สาธารณะ และสามารถเชื่อมกับจุดต่างๆ ไปยังสถานีตำรวจได้ พร้อมสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดเรียกประชุมภาคธุรกิจ หน่วยงานต่างๆ ในท้องถิ่น เพื่อเชื่อมสัญญาณวงจรปิดเข้าด้วยกัน
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ได้สั่งการในส่วนของกระทรวงคมนาคม ดูแลในเรื่องของรถสาธารณะ สนามบิน ตั้งแต่จุดลง โดยให้มีการตรวจสอบอย่างเคร่งครัดเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ส่วนเรื่องของการท่องเที่ยวกำลังลงไปหารือในรายละเอียดกับภาคธุรกิจถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น มีเรื่องใดบ้าง ทั้งนี้ ภาครัฐจะดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ให้เข้มข้นขึ้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้นักท่องเที่ยว รู้สึกว่าอยู่ในสถานการณ์ที่หนักหน่วง และการเดินทางไปประชุมอาเซียนครั้งล่าสุด ก็ได้ถือโอกาสใช้เวทีนี้ ชี้แจงถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่เข้ามาเที่ยวยังจังหวัดภาคใต้
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จากการเดินทางไปประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ได้หยิบยกเรื่องเหตุคาร์บอมบ์ ใน จ.ยะลา และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ขึ้นหารือด้วย พร้อมกับชี้แจงทำความเข้าใจกับสมาชิกอาเซียนถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งทุกชาติก็เข้าใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาเลเซียที่มีประชาชนเสียชีวิตจากเหตุครั้งนี้ด้วย ก็ยังมีความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย
“ได้ให้คำมั่นสัญญาในเวทีอาเซียนว่าจะทำทุกวิถีทางในการปกป้องคนไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มีความปลอดภัยมากที่สุด บูรณาการทำงานกับ ทหาร ตำรวจ ส่วนปกครองท้องถิ่น ในการดูแลรักษาความปลอดภัย ปรับเปลี่ยนกล้อง CCTV ให้สามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา และเชื่อมต่อกันในทุกจุด เพื่อป้องกันเหตุร้าย แต่จะไม่ทำให้ประชาชนอึดอัดจากการทำงานแบบเข้มงวดของเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด”
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวถึงถึงนโยบายการส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุว่า จะพยายามทำให้ผู้สูงอายุ มี 3 อยู่ คือ อยู่อย่างสบายใจ อยู่อย่างมีคุณค่า และอยู่อย่างสุขใจ ด้วยการเพิ่มเงินเบี้ยยังชีพให้ แบบขั้นบันได ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุ เป็นที่รักเคารพของลูกหลาน และถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจให้คนรุ่นหลัง ตลอดจนส่งเสริมให้ คนใน 3 วัย คือ วันเด็ก วัยทำงาน และผู้สูงอายุ อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ตามโครงการ 3 วัย ใจตรงกัน
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้มีการสั่งการให้กระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กระทรวงสาธารณสุข และอื่นๆ บูรณาการทำงานร่วมกันในการดูแลเอาใจใส่ผู้สูงอายุอย่างเต็มที่และจะมีคณะกรรมการติดตามประเมินผลการดำเนินการด้วย