ส.ส.ระยอง ประชาธิปัตย์ พาเหยื่อพฤษภาทมิฬร้องรัฐระงับเยียวยาแดง ชี้ไม่ครอบคลุมทุกกลุ่ม แยะย้อนหลังถึงเหตุเก่าด้วย ด้าน “อภิสิทธิ์” จวก “ประชา” แบ่งแยกเยียวยายิ่งไม่ปรองดอง ระบุคนถูกเผาได้เงินน้อยกว่าคนเผาคงตอบสังคมยาก
วันนี้ (4 เม.ย.) ที่รัฐสภา นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ได้นำนายพิมล วัตะโก ผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ (ปี 2535) แถลงข่าวเรียกร้องขอให้รัฐบาลระงับการจ่ายเงินเยียวยากับกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมือง โดยนายสาธิตกล่าวว่า ขณะนี้ตนกำลังรอฟังศาลปกครองกลางพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเหยื่อผู้ชุมนุม เนื่องจากไม่มีครอบคลุมทุกกลุ่ม ควรที่จะจ่ายเงินให้กับทุกกลุ่มไม่เฉพาะคนเสื้อแดง เช่น ผู้เสียหายจากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ, เหตุการณ์ 14 ตุลา เพื่อความเท่าเทียม ซึ่งนายพิมลจะร่วมยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางเป็นผู้ฟ้องคนที่ 4 ในคดีดังกล่าวด้วย
นายสาธิตกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีกลุ่มที่เสียหายจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง เช่น ร้านค้าที่ได้รับความเสียหาย เพราะพวกเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ รัฐบาลควรที่จะใช้เงิน 2,000 ล้านบาทให้กลับกลุ่มคนเหล่านี้
ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ระบุแนวทางการเยียวยาร้านค้าที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมของคนเสื้อแดงว่าจะมีการจ่ายชดเชยไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อรายว่า กติกาในการชดเชยเยียวยาทั้งหมดควรจะมีความชัดเจนและพิจารณาอย่างเป็นระบบ การดำเนินการเช่นนี้จะมีปัญหาการเปรียบเทียบตามมา ทั้งปัญหาในพื้นที่ภาคใต้ด้วย และการแบ่งแยกจะยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกความแตกต่าง แบ่งแยกมากขึ้น ไม่ใช่สร้างความปรองดอง จึงควรทบทวนทั้งหมด เพราะถือว่าไม่เสมอภาค และไม่เท่าเทียม รัฐบาลจะต้องคิดให้ดี เพราะถ้าในที่สุดคนถูกเผาได้รับการดูแลน้อยกว่าคนเผาก็คงตอบสังคมยาก การอ้างว่ามีนโยบายเยียวยามากกว่าชดเชยคงไม่ได้ เพราะคนที่ถูกเผาก็คือผู้ที่ควรได้รับการเยียวยาด้วย เนื่องจากไม่ได้เสียหายเฉพาะทรัพย์สิน แต่ต้องคิดถึงจิตใจของคนเหล่านี้เหมือนกัน อย่าคิดว่าเพราะเขามีฐานะเป็นผู้ประกอบการ ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่มีความรู้สึกนึกคิดหรือไม่มีจิตใจ
ทั้งนี้ หากรัฐบาลยังเดินหน้าทำให้เกิดความแตกต่างกันก็ยิ่งตอกย้ำการแบ่งแยกประชาชนมากขึ้นว่าคนที่เป็นพวกตัวเองจะได้รับการดูแลมากกว่าคนอื่น กลายเป็นว่ารัฐบาลคือผู้แบ่งแยกประชาชน