“สาธิต” พร้อมน้องฟลุ๊ค และเหยื่อเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ เป็นโจทก์ร่วมยื่นฟ้องศาลปกครอง สั่งเพิกถอน “นายกฯ-ครม.” จ่ายเงินเยียวยาม็อบแดง ไม่เป็นธรรม เหตุไม่มี กม.รองรับ ทั้งที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แนะให้เอาเงิน “แม้ว” มาจ่ายแทนภาษี ปชช.
วันนี้ (8 มี.ค.) นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ นายสมชาย เกิดรุ่งเรือง ผู้จัดการมรดกและลุงของ ด.ช.จักรพันธุ์ ศรีสอาด หรือ น้องฟลุ๊ค เหยื่อที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางชัน เมื่อวันที่ 23 ก.พ.2546 และ นายตรีสิทธิ์ ศิริวรรณ ผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงทางการเมือง เมื่อเดือน พ.ค.2535 หรือพฤษภาทมิฬ เป็นผู้ฟ้องคดีที่ 1-3 ได้ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีเป็นผู้ถูกฟ้องคดี 1-2 เพื่อขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนมติ ครม.เมื่อวันที่ 6 มี.ค.55 ที่ได้อนุมัติงบประมาณเพื่อเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองระหว่างปี พ.ศ.2548-2554 โดยขอให้ศาลพิพากษา หรือมีคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีมีมติกำหนดกฎเกณฑ์ในการเยียวยาความเสียหายให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบในเหตุการณ์ความรุนแรงครั้งต่างๆ อย่างเท่าเทียมกันจากข้อเท็จจริงในแต่ละกรณีอย่างเป็นธรรม โดยไม่รวมถึงกรณีผู้กระทำความผิดตามกฎหมายในเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น
เนื่องจากเป็นการจ่ายเงินเยียวยาที่ไม่มีกฎหมายรองรับ รวมถึงเป็นการจ่ายเงินที่ไม่มีความเสมอภาคและเป็นธรรม อีกทั้งการชุมนุมระหว่างปี 2552-2553 ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นการชุมนุมที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ทั้งนี้ยังได้ขอให้ศาลดำเนินการไต่สวนฉุกเฉินเพื่อกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา
นายสาธิต กล่าวว่า การมายื่นฟ้องในครั้งนี้ ตนยืนยันว่า เป็นการกระทำเพื่อผู้เสียภาษีทุกสีทุกกลุ่ม โดยจะขอให้ศาลพิจารณาว่าการนำเงินภาษีของประชาชนทั้งประเทศไปให้กับคนที่มาชุมนุม และกระทำการผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการเผาบ้านเผาเมืองนั้นเป็นเรื่องที่สมควรหรือไม่ เนื่องจากเห็นได้ว่าการชุมนุมเป็นการกระทำเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียว เพราะฉะนั้นหากมีการจ่ายเงินก็ควรจะนำเงินของ พ.ต.ท.ทักษิณ มาจ่ายให้กับกลุ่มคนเหล่านั้น รัฐบาลควรจะบริหารจัดการเงินภาษีของประชาชนให้เป็นไปอย่างคุ้มค่า
อีกทั้งรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ก็เคยจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ทีได้รับผลกระทบจากการชุมนุมไปอย่างครบถ้วนแล้ว ซึ่งเป็นการจ่ายที่มีกฎหมายรองรับ หากรัฐบาลชุดนี้จะจ่ายเงินควรไปดูแบบอย่างจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมา เพราะการจ่ายเงินจะต้องเป็นไปตามระเบียบของกระทรวงที่เกี่ยวข้อง และ พ.ร.บ.ที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย แต่ครั้งนี้มีความแตกต่าง เนื่องจากได้มีการกำหนดกฎเกณฑ์ โดยที่ ครม.เป็นผู้อนุมัติ จึงต้องให้ศาลปกครองกลางพิจารณาว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่
นายสาธิต กล่าวต่อว่า การอนุมัติเงินเยียวยายังมีความเป็นธรรมในเหตุการณ์ที่มีลักษณะคล้ายกัน คือ เป็นการกระทำโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ กรณีตากใบ และ กรือเซะ เนื่องจากเป็นการชุมนุมเหมือนกัน ทั้งนี้ เงินจำนวนกว่า 2,000 ล้านบาท ที่ ครม.อนุมัติมาแล้ว ตนเสนอว่าควรจัดตั้งกองทุนเพื่อจ่ายให้กับผู้บริสุทธิ์จากการเสียชีวิตจากเหตุการณ์ไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งครู พระ และประชาชนที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ที่ถูกกระทำโดยผู้ก่อความไม่สงบ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ส่วนกรณีของน้องฟลุ๊ค หากรัฐบาลใช้คำว่าจะต้องจ่ายเงินให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐก็จะต้องมีการจ่ายเงินเยียวยาให้กับน้องฟลุ๊คด้วย ส่วนที่ต้องขอให้ศาลดำเนินการไต่สวนฉุกเฉินเนื่องจากขณะนี้รัฐบาลได้เปิดให้มีการลงทะเบียนของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมแล้ว หากมีการอนุมัติจ่ายเงินดังกล่าวแล้วผลออกมาภายหลัง ว่า เป็นการอนุมัติโดยไม่มีกฎหมายรองรับ ก็จะทำให้เงินที่จ่ายเรียกกลับคืนมาได้ลำบาก