xs
xsm
sm
md
lg

“ณัฐวุฒิ” ปัด “แม้ว” ใช้แผนใส่หน้ากากดอดเข้าไทย ย้ำนายถูกยัดอยุติธรรม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (แฟ้มภาพ)
“อำมาตย์เต้น” เผยโจกแดงถกเขมร-ลาวปูพรมงานรดน้ำแล้ว ปัดแจกหน้ากากชาวบ้านให้ "นช.แม้ว" ฉวยโอกาสดอดเข้าไทย อ้างนายใหญ่ต้องการสีสัน หยันแค่นิยายอย่าจินตนาการขนาดนั้น เชื่อเจ้าตัวอยากกลับในแบบที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ อ้างขยายเวลาประชุมสภาเหตุมีกฎหมายค้างเยอะ ยันในสภาต้องใช้เสียงข้างมากลากไป ย้ำ “ทักษิณ” ถูกยัดเยียดอยุติธรรม ซัด ปชป.อย่าจ้องแต่เหน็บแนม


วันนี้ (2 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีการเดินทางไปประเทศลาวและกัมพูชา เพื่อพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีที่ดินรัชดา ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า เท่าที่ทราบประชาชนที่สนใจก็มีการเตรียมการเดินทาง แกนนำ นปช.บางท่านก็ไปประสานงานกับประเทศที่เป็นเจ้าของพื้นที่ ซึ่งในรายละเอียดคิดว่าแกนนำ นปช.จะมีการแถลงใน 1-2 วันนี้ ส่วนประชาชนไปมากน้อยแค่ไหนเท่าที่ฟังก็มีพอสมควร ส่วนตนก็ต้องดูภารกิจก่อน

“ตอนนี้ประเทศไทยต้องการคำว่าสติ ถ้าหากคิดอ่านจินตนาการไปจนถึง พ.ต.ท.ทักษิณ จะใช้วิธีแจกหน้ากากคนเป็นหมื่นๆ และปะปนเข้ามาในประเทศไทย ถ้าเป็นอย่างนั้นก็แสดงว่าคนเป็นหมื่นๆ ต้องสวมหน้ากาก พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ตลอด เพื่อให้แต่ละฝ่ายไม่สามารถจะจับทางได้ ในโลกของความเป็นจริงเป็นไปไม่ได้ ผมเข้าใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณต้องการเพียงแค่ให้เกิดสีสันในการร่วมกิจกรรม และพี่น้องประชาชนคลายความคิดถึง และมีส่วนร่วมในกิจกรรมกับท่านก็เท่านั้นเอง เห็นบอกว่าจะมีหน้ากาก มีพัด มีเสื้อยืด ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ความจริงหน้ากาก พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ เห็นในเมืองไทยก็มีคนทำขายทำใส่ในกิจกรรมของคนเสื้อแดงบ้างแล้ว” นายณัฐวุฒิกล่าว

เมื่อถามว่า กระบวนการที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาอย่างสง่างามเป็นอย่างไร รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จะเป็นกระบวนการอย่างไรยังไม่ทราบ คงต้องรอดูสถานการณ์บ้านเมืองอีกครั้ง แต่หลักการคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณเองก็อยากกลับมาประเทศไทยในแบบที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ และในแบบที่สถานการณ์บ้านเมืองมีความสงบเพียงพอที่จะไม้ให้เกิดความขัดแย้งแตกแยกรุนแรง ทั้งนี้ก็อยู่ที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะปะเมินสถานการณ์รวมของประเทศอย่างไร ส่วนจะใช้วิธีการสวมหน้ากากปะปนเข้ามาตนคิดว่าเป็นได้แต่ในนิยาย คงไม่ต้องไปจินตนาการกันขนาดนั้น

เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะได้กลับไทยในช่วงสงกรานต์ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า คงเป็นไปไม่ได้เลย เพราะท่านพูดเองว่าคงจะไม่กลับเข้าประเทศตามที่นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดรพูด ส่วนจะมาแบบไหนเมื่อไหร่อย่างไรก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และการตัดสินใจของ พ.ต.ท.ทักษิณเอง

เมื่อถามกรณีการขยายเวลาประชุมสภาสมัยนิติบัญญัติ เพื่อเร่งรัดขบวนการการนิรโทษกรรมให้ช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า จริงๆ มีร่างกฎหมายหลายฉบับที่ค้างคาอยู่ในการพิจารณาของสภา เพราะฉะนั้นการขยายกรอบเวลาของสมัยประชุมจะมีผลสำคัญสำหรับการเอาร่างกฎหมายต่างๆ เข้าสู่กระบวนการ ส่วนเรื่องรัฐธรรมนูญ เรื่องการปรองดอง เมื่อทางสภามีมติและรับที่จะดำเนินการแล้ว ตนก็คิดว่าคงต้องไม่วิตกกังวลถึงขั้นว่าจะจบภายในวันนี้พรุ่งนี้ มันไม่เร็วและไม่ด่วนกันขนาดนั้น แต่ต้องเข้าใจให้ตรงกันเสียก่อนว่าเรื่องปรองดองและการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้เพิ่งมาพูดมาทำกันในรัฐบาลนี้ คำว่าปรองดองเราพูดกันมาแล้วหลายปี และแต่ละรัฐบาลก็พยายามดำเนินการเรื่องนี้ ตอนที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลก็มีการตั้งกรรมการ แต่สุดท้ายนายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี ก็ไปไม่ถึงฝั่ง และมาวันนี้ก็มีการตั้งกรรมาธิการปรองดองชุด พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นประธาน ฉะนั้นไม่ใช่เรื่องที่รัฐบาลนี้เข้ามาและจะเร่งรัดเอาเฉพาะหน้า แต่เป็นเรื่องที่ประเทศไทยพยายามเดินกันมาตลอดหลายปี แต่เรายังเดินไปไม่ถึงไหนสักที บ้านเมืองนี้มันรอช้าไปกว่านี้ไม่ได้ เพราะฉะนั้น กระบวนการที่ตั้งตนมาแล้วตนก็เห็นว่าควรจะเดินหน้า ส่วนจะมีใครคอยสกัดขัดขวางหรือล้มโต๊ะทำลายก็เป็นเรื่องที่ประชาชนต้องพิจารณา

เมื่อถามว่า มั่นใจกระบวนการปรองดองว่าจะเดินไปเพื่อให้การนิรโทษกรรมพ.ต.ท.ทักษิณ เกิดขึ้นหรือไม่เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์ก็ตั้งข้อสังเกต ที่ตอกย้ำอยู่เสมอว่าใช้เสียงมากลากไป รมช.เกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ต้องแยกเป็น 2 เรื่อง เรื่องการปรองดองที่เดินไปตามกระบวนการรัฐสภาไม่ใช้เสียงข้างมากไม่ได้ การตัดสินใจเรื่องสำคัญของประเทศต้องใช้มติเสียงข้างมาก ไม่ว่าจากประชาชนหรือตัวแทนประชาชนเป็นตัวหาข้อสรุป ส่วนเสียงข้างน้อยมีข้อสังเกตและคิดเห็นอย่างไรก็เป็นเรื่องที่ต้องเคารพกัน ส่วนเรื่องของคดีความตนยืนยันมาตลอดและจุดยืนนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงว่ากระบวนการที่เกิดขึ้นกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นกระบวนการอยุติธรรมที่มีความไม่ชอบธรรมตั้งแต่ขั้นต้น การที่มีการยึดอำนาจและตั้งบุคคลที่มีความเป็นปฎิปักอย่างชัดแจ้งกับ พ.ต.ท.ทักษิณ มาทำหน้าที่พนักงานสอบสวนนั้นก็เท่ากับเป็นการยัดเยียดความอยุติธรรมให้กับผู้ถูกดำเนินการอยู่แล้ว

“กระบวนการอยุติธรรมที่ต้นทางไม่เป็นธรรม เราจะยอมรับว่าสิ่งนั้นคือความยุติธรรมไม่ได้ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใคร เช่น ขณะนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กำลังเตรียมการจะขึ้นไต่สวนในคดีถูกกล่าวหาว่าบงการฆ่าประชาชน ถามว่าถ้ารัฐบาลนี้ใช้อำนาจตั้งนายณัฐวุฒิ ตั้งนายจตุพร พรหมพันธุ์ เป็นกรรมการสอบสวน เราจะถือเป็นความยุติธรรมไหม พรรคประชาธิปัตย์จะบอกว่านั่นคือกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ เรื่องนี้เราพูดเอาแต่ได้ไม่ได้ เพราะที่เสียคือระบบนิติรัฐ นิติธรรมของประเทศไทย ส่วนสุดท้ายสุดทางของกรรมการปรองดองจะสรุปลงจุดไหน ผมว่าเราอย่างเพิ่งไปวาดภาพจินตนาการเอาเองและไปบอกให้ประชาชนวิตกกังวล ให้กระบวนการเดินไปข้างหน้าก่อนและให้ความร่วมมือกันทุกฝ่าย บ้านเมืองก็จะหาทางออกได้” นายณัฐวุฒิกล่าว

เมื่อถามว่า การที่พรรคฝ่ายค้านออกมาตำหนิการทำหน้าที่ ส.ส.ของเพื่อไทยที่ไปเตรียมความพร้อมต้อนรับอดีตนายกฯ แทนที่จะไปดูแลบ้านเมืองโดยเฉพาะปัญหาภาคใต้ รมช.เกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ตนเห็นว่าทุกอย่างที่เป็นปัญหาของประเทศทั้งระยะยาวและเฉพาะหน้ารัฐบาลก็เดินหน้าทำอยู่ตลอด การแก้ปัญหายาเสพติด เศรษฐกิจ ปัญหาสังคม ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ ไม่มีสัญญาณว่ารัฐบาลจะหยุดเรื่องใดเลย ส่วนเรื่องการต้อนรับพ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนใหญ่คนดำเนินการจะเป็นแกนนำ นปช.ที่ไม่ได้อยู่ในการเมืองในระบบ

“ต้องให้สติประชาธิปัตย์เหมือนกันว่าเวลาเกิดเหตุการณ์ใดในบ้านเมือง ไม่ใช่จ้องแต่จะโจมตี เสียดสีเหน็บแนมอย่างเดียว มันไม่ใช่ ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์โดยเฉพาะที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ และทันที่ที่เกิดขึ้นก็เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลที่ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาและป้องกันเหตุ ไม่ให้ซ้ำซ้อนขึ้นมาอีก แต่การที่นายอภิสิทธิ์ลงไปในพื้นที่ตนก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่นักการเมืองอดีตนายกฯ จะลงไปให้กำลังใจประชาชน แต่ต้องตระหนักอยู่ตลอดเวลาว่าการลงไปทำอะไรที่ภาพออกมาเหมือนจะดูดีก็ไม่เป็นเหตุ ให้อธิบายว่าคนอื่นเขาทำไม่ดี ประชาธิปัตย์ต้องละเลิกนิสัยแบบนี้ พอไปทำอะไรนิดหน่อยดูเหมือนภาพจะเข้าท่าก็หันมาชี้หน้าด่าคนอื่นทันทีแบบนี้ประชาธิปัตย์ต้องเลิก” รมช.เกษตรและสหกรณ์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น