ปชป.ไล่บี้กรมสรรพากร เรียกเก็บภาษี “แม้ว-พจมาน” 1.2 หมื่นล้าน ซื้อขายหุ้นชินคอร์ป ก่อนหมดอายุความสิ้นเดือนนี้ ขู่ร้อง ป.ป.ช.เอาผิด รมว.คลังยันอธิบดีสรรพากร จี้ ก.ล.ต.ดำเนินคดี “ปู” ปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นชินคอร์ป แจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จต่อ ป.ป.ช.
วันนี้ (28 มี.ค.) นายสรรเสริญ สมะลาภา รมช.คลังเงาพรรคประชาธิป้ตย์ ทวงถามความคืบหน้าจากกระทรวงการคลัง กรณีที่มีการยื่นคำร้องขอให้ดำเนินการเก็บภาษี 1.2 หมื่นล้านบาท จากการซื้อขายหุ้นชินคอร์ป หลังจากที่กรมสรรพากรไม่อุทธรณ์คดีเก็บภาษีหุ้นดังกล่าวจากนายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร เนื่องจากบุคคลทั้งสองนำคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมาใช้ประโยชน์ว่า หุ้นดังกล่าวเป็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดังนั้น บุคคลทั้งสองจึงไม่อยู่ในสถานะที่จะต้องเสียภาษี เนื่องจากไม่ได้เป็นเจ้าของหุ้นตัวจริง และการที่ทั้งสองศาลชี้ว่า หุ้นเป็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน กรมสรรพากรควรใช้ประโยชน์นี้ไปเรียกเก็บภาษีกับบุคคลเหล่านี้ แต่กลับไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศ
นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่าคดีนี้จะหมดอายุความในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ ดังนั้น หากปล่อยให้คดีหมดอายุความโดยไม่มีการเรียกเก็บภาษี ทางพรรคจะร้องต่อคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ดำเนินคดีต่อนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง ปลัดกระทรวงการคลัง และอธิบดีกรมสรรพากร โดยจะยื่นต่อ ป.ป.ช.ในวันจันทร์ที่ 3 เมษายนนี้
นอกจากนี้ นายสรรเสริญยังเรียกร้องให้ผู้บริหารของตลาดหลักทรัพย์เร่งดำเนินการต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในกรณีที่ปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นในบริษัท ชินคอร์เปอเรชั่น เพราะมีการกระทำที่ผิด พ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์ โดยมีโทษทางอาญา ซึ่งนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นคำร้องไปแล้วเมื่อวันที่ 9 มีนาคม แต่ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
สำหรับการปกปิดโครงสร้างการถือหุ้นดังกล่าว เป็นการขยายผลจากคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้กำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ตัดสินว่า หุ้นที่อยู่ในชื่อของ น.ส.ยิ่งลักษณ์นั้นเป็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นผู้ถือแทน จึงเท่ากับว่าการระบุในหนังสือชี้ชวน 6 ครั้งว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นเจ้าของหุ้นนั้น ถือเป็นการแจ้งข้อมูลเท็จทำให้สำคัญผิดเกี่ยวกับผู้ถือหุ้น ถือเป็นการจงใจปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ ทั้งนี้ฝ่ายกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ยังอยู่ในระหว่างการศึกษาข้อกฎหมายว่า ความผิดในเรื่องนี้จะโยงไปถึงการแจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จต่อ ป.ป.ช.ซึ่งจะส่งผลต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้หรือไม่
