“มัลลิกา” ไล่จี้ดีเอสไอ เร่งออกหมายเรียก “ยิ่งลักษณ์” และพวกในข้อหาให้การเท็จคดีหุ้นชินคอร์ป และยึดทรัพย์ “แม้ว” เมื่อปี 53 โวยเครือข่ายหมอตุลย์ ยื่นเรื่องกว่าครึ่งปี แต่คดีกลับโดนดอง ถือว่ากระบวนการชั้นพนักงานสอบสวนสองมาตรฐานอย่างชัดเจน
วันนี้ (6 มี.ค.) น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เร่งรัดการออกหมายเรียกเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายแก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพวกพ้องที่ร่วมกระทำความผิดด้วยการให้การเท็จในศาล กรณีคดีหุ้นชินคอร์ป และยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งศาลได้มีการตัดสินไปแล้วเมื่อวันที่ 26 ก.พ.53 เพราะมีพฤติการณ์ขัดต่อกฎหมาย ด้วยการให้การเท็จ โดยดีเอสไอต้องติดตามออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา คือ ความผิดต่อ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ 4 ข้อหา คือ 1.ร่วมสมคบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แจ้งธุรกรรมขายหุ้นชินคอร์ป เป็นเท็จ 2.ร่วมสมคบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และพวกแจ้งโครงสร้างผู้ถือหุ้นประจำปีเป็นเท็จ ตั้งแต่ปี 43 ถึงปี 49 3.สมคบร่วมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และพวก มีหนังสือชี้ชวนเสนอขายหลักทรัพย์ บมจ.ชินคอร์ป ที่มีผลบังคับใช้วันที่ 27 มีนาคม 45 แสดงโครงสร้างผู้ถือหุ้นเป็นเท็จ และ 4.ร่วมสมคบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพวกเข้าถือหุ้นถึงเกณฑ์ครอบงำกิจการแล้วละเว้นไม่แจ้งตามมาตรา 247
นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังมีความผิดต่อประมวลกฎหมายอาญา คือ 1.การเป็นเท็จต่ออนุกรรมการไต่สวนของ คตส.เมื่อวันที่ 24 เม.ย.50 โดยได้ยืนยันว่า ได้ซื้อหุ้นชินคอร์ป จากพ.ต.ท.ทักษิณ และนำเงินปันผลมาผ่อนชำระค่าหุ้นจนหมดแล้ว 2.ได้เบิกความอันเป็นเท็จต่อศาลฎีกาฯ เมื่อวันที่ 6 ส.ค.52 ยืนยันว่า ตนได้ซื้อหุ้นจาก พ.ต.ท.ทักษิณ และได้เงินปันผลมา 97 ล้านบาท ชำระค่าหุ้นคืนให้พี่ชาย 20 ล้านบาท ที่เหลือได้นำมาใช้ปรับปรุงบ้าน ซื้อทองคำ เครื่องเพชร และเหตุที่ส่งเงินปันผลคืนให้เกินไป 2.5 ล้านบาทนั้น ก็เป็นการชำระหนี้ค่าฝากซื้อนาฬิกา ทั้งหมดนี้ศาลเห็นว่า เลื่อนลอยเป็นเท็จไม่มีหลักฐานสนับสนุนแม้แต่น้อย ดังคำพิพากษากลางหน้า 99
“การกระทำผิดต่อกฎหมายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั้น ได้รับการตัดสินเป็นที่ยุติถึงที่สุดตามคำพิพากษาศาล เมื่อวันที่ 26 ก.พ.53 และเมื่อมีกลุ่มประชาชนไปแจ้งความกล่าวโทษไว้ที่ดีเอสไอ บัดนี้ ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบยังไม่ได้ทำหน้าที่บังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย ทั้งๆ ที่เวลาผ่านมาเนิ่นนานแล้ว”
น.ส.มัลลิกา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.54 นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ในนามของประชาชน 3,953 คน ได้ยื่นเรื่องนี้ด้วยการแจ้งความกล่าวโทษต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงขอเรียกร้องให้เร่งรัดคดี อย่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพราะทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันไม่ควรให้ประชาชนสิ้นหวังกับการปฏิบัติหน้าที่ของผู้บังคับใช้กฎหมาย กระบวนการยุติธรรมยุค น.ส.ยิ่งลักษณ์ ผ่านไป 258 วันแล้ว เจ้าพนักงานยังไม่ออกหมายเรียก น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพวกทั้งๆ ที่ความผิดชัดเจน แต่กลับคดีของฝ่ายค้านเจ้าพนักงานใช้เวลาแค่ 6 วัน รีบออกหมายเรียกทันที ถือเป็นสองมาตรฐานอย่างชัดเจน