กมธ.ปรองดองคาดนำผลการศึกษาฯ เข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ ได้ในวันที่ 4 เม.ย. เชื่อรัฐบาลไม่คิดออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรม เหตุจะยิ่งสร้างความแตกแยกมากขึ้น ส่วนการแก้ไข รธน. คาดประชุมวาระ 2 ทันวันที่ 10 เม.ย.
วันนี้ (28 มี.ค.) นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการศึกษาแนวทางสร้างความปรองดองแห่งชาติ สภาผู้แทนฯ กล่าวถึงการนำผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการฯ ปรองดอง เข้าสู่การพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรว่า คาดว่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ในสัปดาห์หน้า และเชื่อว่าการพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการฯ ปรองดอง จะไม่มีความรุแรงเหมือนการพิจาณาของรัฐสภาที่ผ่านมา
ทั้งนี้ยังไม่เห็นวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร แต่คาดว่าประธานสภาผู้แทนราษฎรจะบรรจุเข้าสู่การพิจารณาในวันที่ 4 เม.ย. โดยการพิจารณาน่าจะใช้เวลาอภิปรายต่อเนื่องถึงวันที่ 5 เม.ย.
ส่วนที่ฝ่ายค้านห่วงว่ารัฐบาลจะมีแนวคิดเร่งรัดให้ออก พ.ร.ก.ปรองดองนั้น นายสามารถกล่าวว่า ตนคิดว่าฝ่ายบริหารจะไม่มีแนวคิดที่จะดำเนินการเช่นนั้น เพราะจะเป็นการทำให้เกิดความขัดแย้งเพิ่มมากขึ้น ขอยืนยันว่าการดำเนินการของคณะกรรมาธิการฯ ไม่ได้ต้องการให้เกิดผลกับการนิรโทษกรรม ฝ่ายบริหารคงไม่คิดจะทำเช่นนั้นเพราะขนาดจะออกเป็น พ.ร.บ.ยังต้องผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร
ผู้สื่อข่าวถามถึงการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ คาดว่าจะสามารถพิจารณาร่างแก้ไขฯ ในวาระสองทันวันที่ 10-11 เม.ย.นี้หรือไม่ นายสามารถกล่าวว่า คาดว่าจะทัน โดยขณะนี้มีผู้แปรญัตติเข้ามาแล้ว 175 คน คณะกรรมาธิการฯ จะใช้เวลาที่มีอยู่สองสัปดาห์ประมาณ 18 ชั่วโมงพิจารณาเรื่องที่ค้างอยู่ให้เสร็จสิ้นทั้งหมด รวมถึงจะเชิญผู้แปรญัตติมาชี้แจง เชื่อว่าการพิจารณาในช่วงต่อไปจะไม่เกิดปัญหาเพราะได้พิจารณาในประเด็นที่สำคัญผ่านไปหมดแล้ว
“ขอยืนยันว่าการพิจารณาของกรรมาธิการไม่ใช่การปูทางเพื่อนิรโทษกรรม เพราะกฎหมายรัฐธรรมนูญไม่มีข้อใดที่เอื้อต่อการนิรโทษกรรม ที่ผ่านมากรรมาธิการชุดนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกรรมาธิการเสียงข้างน้อย จึงมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหากรรมาธิการลาออกเหมือนกรรมาธิการปรองดอง ส่วนประเด็นข้อสรุปแนวทางเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) โดยข้อสรุปของ กกต.ที่เสนอให้ออกเป็น พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.ร.เป็นเรื่องที่ตรงกับความเห็นของกรรมาธิการอยู่แล้วไม่น่าจะมีปัญหา”