รองนายกฯด้านความมั่นคง วอนทูตสหรัฐฯ อย่าด่วนออกประกาศเตือนการก่อการร้าย แต่ยอมรับสหรัฐฯเตรียมขึ้นแบล็กลิสต์ไทยเป็นแหล่งค้ามนุษย์ ในเดือน มิ.ย.อันจะส่งผลกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแน่นอน
วันนี้ (27 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นางคริสตี้ เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง โดยใช้เวลาประมาณ 45 นาที จากนั้น นางคริสตี้ กล่าวว่า ได้มาแสดงความยินดีกับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ หลังเข้ารับตำแหน่งใหม่ และหารือความร่วมมือไทยกับสหรัฐฯ ด้านความมั่นคง ความปลอดภัย การก่อการร้าย รวมทั้งหารือเรื่องการค้ามนุษย์ด้วย โดยตกลงกันว่าทั้งสองประเทศ จะทำงานร่วมกันต่อภายใต้ความสัมพันธ์ของมิตรประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความร่วมมือด้านการก่อการร้ายจะเป็นเช่นใด นางคริสตี้ กล่าวว่า ความร่วมมือด้านแลกเปลี่ยนข่าวสาร คดีต่างๆ ที่อยู่ในการสอบสวน ซึ่งไทยเป็นประเทศที่ชาวอเมริกันมาท่องเที่ยวเยอะ จึงต้องเน้นความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองประเทศ โดยความร่วมมือตรงนี้ถือว่าดีมาก
ด้าน พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยด้านการข่าว และแสดงความยินดีในการร่วมมือแลกเปลี่ยนการจากทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะการต่อต้านการก่อการร้ายสากลที่ร่วมมือใกล้ชิด และแลกเปลี่ยนทันเวลา ซึ่งการวางระเบิด กทม.ในช่วงกลางเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา สหรัฐฯเห็นว่า ไทยมุ่งมั่นแก้ไขจริงจัง ทั้งการเพิ่มมาตรการตรวจ และการเข้มงวดการตรวจสอบควบคุมการเข้าออกของนักท่องเที่ยว โดยสหรัฐฯพร้อมร่วมมือเต็มที่ ซึ่งตนก็ตอบไปว่าไทยพร้อมในความปลอดภัยด้านสถานที่ และบุคคลที่เข้ามาไทย และขอให้สหรัฐฯให้ความละเอียดในการออกประกาศความปลอดภัยต่อพลเมืองสหรัฐฯ อย่าเร่งผลีผลาม เพราะมันอาจทำให้นักท่องเที่ยวลดลงและชะงักไป
รองนายกฯ ด้านความมั่นคง กล่าวว่า นางคริสตี้ ยังได้หารือถึงเรื่องการค้ามนุษย์ โดยสหรัฐฯได้ขึ้นบัญชีเฝ้าจับตาในด้านนี้ หากเดือน มิ.ย.ไทยยังไม่แก้ไขจะโดนแก้ไปอยู่ในระดับที่สาม โดยจะส่งผลกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย ฉะนั้น สหรัฐฯขอความเห็นและความจริงจังในด้านนี้ ตนจึงตอบไปว่า ไทยจริงจังเรื่องนี้ และหลังเข้ารับหน้าที่นี้จะเร่งประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเร็วที่สุด เช่น กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อไม่ให้สถานภาพของไทยตกต่ำไปกว่าเดิมจากปัจจุบัน และหากโดนปรับชั้นลดลง ไทยอาจมีปัญหา และโดนคว่ำบาตรได้ รวมทั้งส่งผลกระทบด้านอื่นๆ ในอนาคตตามมา
เมื่อถามว่า ส่วนใหญ่คดีต่างๆ ในไทยที่เกิดขึ้น มักจะจับเจ้าหน้าที่ที่ไปร่วมมือกับคนร้ายไม่ได้ รองนายกฯ ด้านความมั่นคง กล่าวว่า จะประชุมในวันที่ 29 มี.ค.เพื่อรับทราบบัญหาเป็นอย่างไร ทั้งนี้ เรื่องนี้ถือว่าใหม่สำหรับตน และเพิ่งทราบจากนายกฯที่มอบหมายให้ตนทำหน้าที่นี้ ซึ่งนางคริสตี้ ยังขอให้ตนจริงจังด้านนี้ เพื่อประโยชน์ของสองประเทศในการร่วมมือทำงานต่อไป เมื่อถามว่า จะลงไปตรวจสอบหน่วยงานต่อต้านก่อการร้ายของไทยเมื่อใด รองนายกฯ ด้านความมั่นคง กล่าวว่า ได้บอกผู้บัญชาการทหารสูงสุดไปแล้วว่าวันหนึ่งจะไปเยี่ยมดูว่ามีความพร้อมและซักซ้อมของเจ้าหน้าที่กันบ้างหรือไม่ เครื่องมือต่างๆ ที่พัฒนาไปมากนั้นไทยมีพร้อมเพียงใด เพื่อให้มั่นใจว่าหากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่จะทำงานได้ทันทีเพราะมีการทิ้งงานด้านนี้มา 4 ปีแล้ว