xs
xsm
sm
md
lg

“ขจัดภัย” เตือน ตร.หยุดโชว์ออฟ หวั่นทำไทยเข้าไปอยู่ในความขัดแย้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายขจัดภัย บุรุษพัฒน์ อดีตเลขาธิการสภาความมมั่นคงแห่งชาติ(ภาพจากแฟ้ม)
อดีตเลขาฯ สมช.ระบุ เหตุที่สหรัฐฯไม่ยอมถอนประกาศเตือนภัยก่อการร้าย หวังกดดันไทยให้มะกันร่วมสอบ “ฮุสเซน” เตือนตำรวจอย่าโฉ่งฉ่างโชว์ออฟ รีบแถลงข่าว หวั่นส่งผลให้ไทยไปอยู่ในความขัดแย้งระหว่างมหาอำนาจ กับผู้ก่อการร้าย ติง “ปึ้ง” อ่อนหัด เรียกทูตมหาอำนาจเข้ามาเตือนทำสหรัฐฯ หงุดหงิด

นายขจัดภัย บุรุษพัฒน์ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะนายกสมาคมรักษาความปลอดภัยแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หากวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ประเทศสหรัฐอเมริกาไม่ยอมถอนประกาศเตือนภัยก่อการร้าย อาจเป็นเพราะทางสหรัฐฯต้องการให้ไทยให้ความร่วมมือกับสหรัฐฯมากกว่านี้ในนโยบายก่อการร้ายสากล ซึ่งอาจรวมถึงการให้สหรัฐฯเข้าร่วมสอบสวน นายอาทริส ฮุสเซน รวมถึงการเร่งติดตามนำ 2 บุคคลที่เหลือด้วย ซึ่งงานดังกล่าวเป็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีบทบาทมากที่สุด

ทั้งนี้ เชื่อว่า ฝ่ายความมั่นคงและข่าวกรอง กำลังเร่งติดตามข้อมูลเชิงลึก ตั้งแต่ที่นายฮุสเซน เข้ามาอยู่ในประเทศไทยเกือบ 2 ปี เดินทางเข้าออก 11 ครั้ง พักพิงอยู่ที่ใด ย่อมมีร่องรอยให้ดำเนินการติดตามแกะรอย เชื่อว่า คงใช้เวลาไม่นาน ดังนั้น ทั้งงานสืบสวนสอบสวนหลักฐานและงานข่าวกรองต้องประสานการทำงานกัน แต่อยากฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า ไม่ควรโฉ่งฉ่างในการแถลงข่าวผลงานมากเกินไป หากไม่มีข้อมูลหลักฐานที่ชัดเจน เพราะจะส่งผลกระทบทางการเมืองระหว่างประเทศในอนาคตได้ เพราะในแง่รูปคดียังไม่มีหลักฐานบ่งชัดพอว่าจะมีการก่อการร้ายในไทย และไม่อยากให้ไทยไปอยู่ในความขัดแย้ง

นายปณิธาน วัฒนายากร อาจารย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวเชื่อว่า ทางสถานทูตสหรัฐฯ คงต้องการได้รับความเชื่อมั่นถึงความปลอดภัย ว่า จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับพลเมืองสหรัฐฯอีก เพราะต้องรายงานไปยังวอชิงตันด้วย และปัญหาภายในที่เกี่ยวกับท่าที การกดดัน หรือยื่นเงื่อนไขของฝ่ายไทยต่อสรัฐฯ เพราะทราบดีว่า สหรัฐฯเป็นประเทศมหาอำนาจ ท่าทีทางการทูตต้องละเอียดรอบคอบและระมัดระวัง เช่น การเรียกทูตเข้าพบรัฐมนตรีอาจทำให้เกิดความไม่พอใจได้

“โดยธรรมชาติของประเทศยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐฯ อยู่ดีๆ ไทยไปขู่ว่าให้ลดระดับประกาศเตือนภัยทันที สหรัฐฯ คงไม่ยอมง่ายๆ ถ้าจะยอมก็ต้องมีลีลาลูกเล่นเยอะไม่ยอมง่ายๆ ยิ่งถ้ากระทรวงการต่างประเทศไปกดดัน เช่น เรียกทูตมาพบยิ่งไปกันใหญ่ เพราะประเทศอื่นๆ จะมองได้ว่าไปพบง่ายๆ ก็ไม่ใช่ประเทศมหาอำนาจ” นายปณิธาน กล่าว

นายปณิธาน กล่าวว่า จริงๆ แล้วในทางลับไทย-สหรัฐฯ มีความร่วมมือด้านความมั่นคงอยู่แล้ว แต่ผิดสังเกตตรงที่มีข่าวจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาระบุว่า ไม่ให้สหรัฐฯเข้าร่วมสอบสวนเมื่อวานนี้ (17 ม.ค.) เช้าวันรุ่งขึ้น (18 ม.ค.) นางคริสตี้ เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย โพสต์ทวิตเตอร์ทันที ว่า ยังไม่ถอนคำเตือนต่อพลเมืองสหรัฐฯกับภัยก่อการร้ายในกรุงเทพฯ แสดงว่า ต้องเกิดปัญหาการสื่อสารบางอย่างระหว่างไทย-สหรัฐฯ

ทั้งนี้ บทบาทสำคัญในการประสานความเข้าใจ คือ กระทรวงการต่างประเทศ โดยเฉพาะรัฐมนตรีที่จะต้องเข้าใจงานทางการทูตอย่างลึกซึ้ง ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาการตอบโต้กันไปมาผ่านสื่อ เพราะทราบดีว่าทูตผู้หญิงคนนี้ให้ความสำคัญกับสื่อออนไลน์อย่างมาก จึงอยากแนะนำให้รัฐมนตรีลงมาพูดคุยกับทูตด้วยตัวเอง และควรให้เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงที่มีความรู้และข้อมูลก่อการร้ายสากลอย่างแท้จริง มาพูดคุยกับสหรัฐฯ เพื่อทำความเข้าใจ ว่า ไทยกำลังทำอะไรอยู่ และเชื่อว่า ในที่สุดสหรัฐฯอาจเข้าใจ และถอนประกาศเตือนภัยก่อการร้ายในที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น