ประธาน คอป.ลั่นหมดวาระไม่รับงานต่อแล้ว เตรียมเสนอรายงานฉบับ 3 สัปดาห์นี้ ชี้เนื้อหาส่วนใหญ่บี้งานรัฐบาลที่ยังไม่ปฏิบัติตามข้อเสนอแนะ ยันประเด็นล้มคดี คตส.-นิรโทษกรรม เป็นตัวจุดชนวนขัดแย้งไม่มีอยู่ในข้อเสนอแนะ คอป.
วันที่ 25 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) เปิดเผยว่า หากไม่มีอะไรเป็นอุปสรรคหรือขัดข้อง คาดว่าภายในสัปดาห์นี้ คอป.จะสามารถนำเสนอรายงานฉบับที่ 3 เพื่อส่งไปยังรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ โดยเนื้อหาในรายงานฉบับที่ 3 ส่วนใหญ่จะเป็นการติดตามสิ่งที่ คอป.ได้สนอไปแล้วในรายงานฉบับที่ 1 และ 2 แต่ยังไม่ได้รับการปฏิบัติ เช่น การตีตรวนผู้ต้องหา หรือสิทธิในการประกันตัวชั่วคราวที่ในขณะนี้ยังไม่ได้รับการดำเนินการอย่างเป็นเรื่องเป็นราว รวมไปถึงการสอบถามสาเหตุด้วยว่า เหตุใดจึงดำเนินการไม่ได้ เป็นเพราะอะไร
“เราเสนอเรื่องการตีตรวนตั้งแต่ คอป.เริ่มทำงานในระยะแรกๆ แต่ยังไม่ไปถึงไหนเลย เช่นเดียวกับเรื่องสิทธิการประกันตัวชั่วคราวที่ขณะนี้ยังมีผู้ต้องขังถูกคุมขังอีกประมาณกว่า 100 คน เราจึงอยากรู้ว่ามันมีอุปสรรคอะไร ผมอุตส่าห์ทั้งเสนอแนะ และเขียนบทความไป แต่กลับไม่ได้ถูกใช้เลย ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ความจริงเรื่องความเป็นธรรมถือเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ และคอป.ทำงานโดยอาศัยองค์ความรู้ เสนอแนะทางวิชาการทั้งสิ้น ที่ไม่ได้ใช้ความรู้สึกในการทำงาน” ประธาน คอป.ระบุพร้อมกล่าวต่อว่า คอป.มีเวลาทำงานเหลืออีกไม่กี่เดือนแล้ว โดยหลังจากที่มีการนำเสนอรายงานฉบับที่ 3 ออกไป ก็จะสรุปสิ่งที่ คอป.ทำมาทั้งหมดเป็นรายงานฉบับสุดท้าย ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นประมาณเดือน ก.ค.54 ถือเป็นอันหมดภารกิจ ซึ่งส่วนตัวคิดว่าหลังจากหมดวาระแล้ว ก็จะไม่ขอทำงานต่อ เพราะไม่อยากให้ทำเหมือนเป็นงานประจำ
ประธาน คอป.กล่าวถึงรายงานผลการวิจัยของสถาบันพระปกเกล้าเสนอแนะให้มีการล้มคดีที่มาจากคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ว่า ตั้งแต่คอป.ได้เข้ามาทำหน้าที่เพื่อแสวงหาความปรองดองนั้น ในที่ประชุมคอป.หรือแม้แต่ข้อเสนอแนะของคอป.เอง ไม่มีเคยมีการพูดถึงการล้มคดีของ คตส. หรือการนิรโทษกรรม เพราะเรื่องนี้ถือเป็นประเด็นร้อน และเป็นเรื่องทางการเมืองที่อาจนำมาซึ่งความขัดแย้งกันได้ ซึ่งคอป.จะทำแต่ประเด็นที่จะนำมาสู่ความสงบ ความเข้าใจกันดีของคนในบ้านเมืองเท่านั้น
“รายงาน คอป.ทุกฉบับ เราเผยแพร่และจะส่งรายงานเข้าไปทุกหน่วยงาน รวมไปถึง กมธ.ปรองดอง หรือสถาบันพระปกเกล้าเอง โดยไม่มีอะไรปิดบัง แต่ยืนยันว่าเรื่องล้มคดี คตส.หรือนิรโทษกรรมไม่มีอยู่ในข้อเสนอแนะ ส่วนเรื่องการทำงานของ กมธ.ปรองดองนั้น ถือเป็นอีกภาคหนึ่ง ซึ่งรู้สึกว่าจะเป็นทางด้านการเมืองเสียหมด เพราะว่าประธาน กมธ. และตัวกรรมการก็เป็นนักการเมือง ซึ่ง คอป.ไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองอยู่แล้ว แต่เราจะเกี่ยวข้องกับความสงบที่เป็นภาคประชาชน และการที่จะทำให้เกิดความถูกต้องในภาคประชาชนได้” นายคณิตกล่าว