xs
xsm
sm
md
lg

“แม้ว” ออกตัวเท่ แต่นั่งไม่ติด แดงฟัดแดง-ลอยแพไพร่!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

ไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่ ทักษิณ ชินวัตร บอกว่าจะตัวเองจะกลับบ้าน
 

หากจำกันได้ ตอนแรกๆ ในช่วงที่กำลังปลุกระดมให้คนเสื้อแดงออกมาตายแทน เคยบอกว่า ถ้า “เสียงปืนแตกเมื่อไหร่ ผมจะเดินนำหน้าพี่น้องมาต่อสู้เอง” แล้วเป็นไงก็เกิดการเผาบ้านเผาเมือง เกิดการสูญเสียเลือดเนื้อ ซึ่งแทบทั้งหมดก็เป็นพี่น้องชาวบ้านตาดำทั้งนั้น ขณะที่ “หัวโจก” ไพร่ที่มีชื่อต่างหลบเอาตัวรอด รวมทั้งคนในครอบครัวทักษิณ ที่ต่างหลบไปต่างประเทศทุกครั้ง

หรือหากยังจำคำพูดเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 ก่อนเหตุการณ์จลาจล ทักษิณวิดีโอลิงก์ปลุกระดมว่า “ให้พี่น้องไปรวมตัวกันที่หน้าศาลากลาง” ผลก็คือ ศาลากลางถูกเผาวอด และไม่กี่วันมานี้ (เดือนกลางเดือนมีนาคม 2555 ผ่านไปปีกว่า) คนเสื้อแดงที่ถูกจับกุมในกรณีที่เผาธนาคารกรุงเทพสาขาขอนแก่นถูกศาลตัดสินจำคุกและต้องชดใช้ค่าเสียหายอีก 29 ล้านบาท ขณะที่คดีเผาอื่นๆอีกหลายคดีคนพวกนี้ก็ถูกดำเนินคดีไปอย่างโดดเดี่ยว ไร้การเหลียวแลจาก ทักษิณ รวมไปถึง ส.ส.พรรคเพื่อไทยในช่วงที่ผ่านมา ยกเว้นในกรณีของพวก “หัวโจก” เท่านั้นที่ได้รับการดูแลอย่างดี มีการประกันตัวออกมาหมดแล้ว

เหลือแต่ก็พวกไพร่ปลายแถวที่ไร้ชื่อ ไร้ความหมายเท่านั้น ขณะที่การเยียวยาช่วยเหลือก็ใช้เงินหลวง ตัวเองไม่ได้ควักเองสักบาท แต่แสดงออกแบบมี “บุญคุณ” กันใหญ่หลวงเสียอีก
 

อย่างไรก็ดี ในบรรยากาศที่ทุกข์ร้อนกันทุกหย่อมหญ้าแบบนี้ ทั้งเรื่องข้าวของแพง น้ำมันขึ้นราคาทุกวัน ดีเซลในกรุงเทพฯราคาลิตรละ 32.33 บาทนั้น หากอยู่ที่แม่ฮ่องสอนและเชียงรายจะบวกค่าขนส่งราคาจะสูงมากขึ้นกว่านี้อีก ราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ ไม่ว่าหอม กระเทียม มันสำปะหลัง สัปปะรด หรือแม้แต่ข้าวที่บอกว่าจำนำได้เกวียนละ 15,000 บาท เอาเข้าจริงไปจำนำโรงสีก็อ้างว่ามีความชื้นสูงกดราคาอีก ขายจริงก็ได้แค่หมื่นเศษๆ เท่านั้น

นี่คือความจริงที่กำลังปรากฏให้เห็นไปทั่ว!!

นอกจากนี้ ระยะหลังเริ่มมีเสียงโวยวายออกมาให้เห็นเรื่อยๆว่า แดงรากหญ้า ตามบ้านนอกถูกทอดทิ้ง ไม่ได้รับการเหลียวแล ลอยแพให้ต่อสู้คดี ถูกขังกันตามยถากรรม ผิดกับพวกหัวโจกมีชื่อต่างได้รับการเอาใจกันแบบถึงขนาด ทุกคนได้รับตำแหน่งกินเงินเดือนหลวงกันถ้วนหน้า ส่วนหนึ่งก็เป็นการลดภาระไม่ต้องควักเงินตัวเองไปอุดหนุน และสองก็ยังได้ใจอีกต่างหาก

แต่ความจริงก็หนีความจริงไปไม่พ้น เพราะเมื่อเวลายิ่งผ่านพ้นไป ความจริงมันก็ประจานตัวเองออกมาจากปาก “พวกเดียวกัน” มากขึ้นเรื่อยๆ และหนึ่งในนั้นก็เป็นผลมาจากการเลือกตั้งของการเมืองในระดับท้องถิ่น ที่หลายพื้นที่ได้สร้างความขัดแย้งกันเองให้บานปลายต่างฝ่ายต่างแย่งกันลงสมัคร เสียงแตก ทำให้หลายพื้นที่ต้องพ่ายแพ้ให้กับฝ่ายตรงข้ามอย่างเหลือเชื่อ

หรือแม้กระทั่งกรณีที่ “ขวัญชัย ไพรพนา” หัวโจกแดงอุดร ที่แตกคอมาจากหัวโจกคนอื่นมาสร้างอาณาจักรในพื้นที่อีสานด้วยตัวเอง ได้โม้เอาไว้ว่าจะพา ทักษิณ ชินวัตร กลับบ้านในช่วงสงกรานต์โดยจะพาเดินข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว เข้ามามอบตัวกับตำรวจเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ยอมติดคุกแบบชั่วคราว แม้จะเรียกเสียงฮือฮาทำให้ทุกคนหันไปมอง
 

แต่กลายเป็นว่า อีกฝ่ายหนึ่งรวมทั้งเครือข่ายเครือญาติ ทักษิณรุมเฉ่ง หรือแม้แต่ตัวทักษิณเองก็ไม่เอาด้วย เพราะเห็นว่า “ไม่เท่”

คำพูดของขวัญชัยดังกล่าวในบางช่วงตอนต้นก็ได้ประจานพวกเดียวกันให้เห็นว่า ไม่มีใครช่วยเหลือดูแลคนเสื้อแดง ปล่อยให้ติดคุกกันตามยะถากรรม ทำนอง “ได้เรือถีบแพ” หรือเมื่อทุกอย่างสำเร็จแล้วก็ “รื้อนั่งร้านทิ้ง” ประมาณนั้น แม้แต่พวก ส.ส.พรรคเพื่อไทยก็ไม่มีใครมาประกันตัวให้เลย เรื่องแบบนี้มองอีกมุมหนึ่งมันก็มีผลสะเทือนไปถึง ทักษิณ ด้วยเหมือนกัน เพราะเหมือนกับว่าเอาใจเฉพาะบางกลุ่มเท่านั้น ทั้งที่เสี่ยงชีวิตออกหน้าทุกครั้ง

หากจำกันได้ระยะหลังเริ่มมีการโจมตีทักษิณ และแกนนำเสื้อแดงที่ได้ดีเป็นอำมาตย์กันมากขึ้น ล่าสุดเห็น “เว็บไซต์แดง” ประชดด้วยการลงรูปของพวกหัวโจกที่ได้ดีเป็นรัฐมนตรี เช่น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หรือพวกที่เป็น ส.ส.เพื่อไทย รัฐมนตรีหลายคนที่เกี่ยวข้อง ไม่เว้นแม้แต่ นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ยิ่งไปกว่านั้นมีการลงรูปเพื่อประกาศ “ตามหาคนหาย” เป็นการประชด ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มี ทักษิณ ชินวัตรรวมอยู่ด้วย ซึ่งถ้าพิจารณากันอย่างผิวเผินก็อาจไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่หากนำมาปะติดปะต่อกัน มันก็แสดงให้เห็นว่าเริ่มมีปฏิกิริยาเป็นคลื่นใต้น้ำก่อตัวขึ้นเหมือนกัน เกิดความรู้สึกว่ามีบางกลุ่ม “ถูกหลอกใช้” หรือว่า “ได้รับประโยชน์ไม่คุ้มค่า”

นอกจากนี้ ยิ่งผลงานของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่เอาอ่าวต่ำกว่ามาตรฐานต่ำกว่าที่คาดหวังเอาไว้ มันก็ยิ่งหัวเสีย แถมยังแสดงให้เห็นว่ากำลังทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ทักษิณ คนเดียว มันก็ยิ่งไปกันใหญ่ ขณะเดียวกันหากสังเกตให้ดีจะพบว่าฝ่าย ประชาธิปัตย์เริ่มมีการปรับตัวเล็กๆ อย่างน้อยก็มีการเปิดทีวีดาวเทียมมีกระบอกเสียงเป็นของตัวเองย้อนศรเหมือนกับยุคทีวีเสื้อแดง มีสามเกลอ ตอนนี้ก็มี “สายล่อฟ้า” กระหน่ำจุดอ่อนทุกวัน มันก็สะเทือนบ้างเหมือนกัน

ปรากฏการณ์ความเคลื่อนไหวที่ผ่านมาทั้งหมดต้องบอกว่ามีผลทางด้านลบไม่น้อย สร้างภาพให้เห็นถึงความเห็นแก่ตัวออกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะหลังยิ่งถูกมองว่าเริ่มมีการ “ปรองดอง” กับ “อำมาตย์” กันอย่างกลมกลืน มันก็ยิ่งทำให้บางกลุ่มเจ็บปวดเหมือนถูกหักหลัง เมื่อ ทักษิณ และครอบครัวกำลังได้รับทุกอย่างพร้อมสรรพ ทั้งเงิน และอำนาจ ดังนั้นการออกมาพูดกับคนเสื้อแดงครั้งล่าสุดภาพจึงออกมาในลักษณะการ “เอาใจ” สร้างความหวังอีกครั้งเท่านั้น ทั้งในเรื่องการเดินทางกลับไทยอย่างเท่ ซึ่งในความหมายก็คือไม่ต้องรับโทษ เอาเปรียบคนอื่น เนื่องจากเวลานี้การ “สุมหัว” ปรองดองกำลังเดินหน้า
 

เวลานี้กลับไม่อยากรู้แล้วว่าใครอยู่เบื้องหลังการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เสียดื้อๆ

ขณะเดียวกัน เรื่องการรับปากดูแลเรื่องคดีที่คนเสื้อแดงถูกจำคุกโดนคดีทั้งเรื่องเงินประกันตัว หรือกำลังเคลียร์กับผู้พิพากษานั้นในความเป็นจริงแล้วหาก “จริงใจ” ทำไมไม่ควักเงินช่วยมาตั้งแต่ต้น แต่นี่ผ่านมานานนับปีปล่อยให้ติดคุกลำบากลำบน ไม่เคยเหลียวแล

การออกมาพูดคราวนี้ ถ้าพิจารณาให้ดีก็เพียงแค่การพูดเอาใจ เสแสร้งเพื่อดึงมวลชนเอาไว้ก่อน เนื่องจากเกรง “เสียการใหญ่” ที่กำลังไปได้ดีเท่านั้น ขณะเดียวกันการออกมาพูดแบบนี้มันก็เหมือนกับเป็นอาการของคนร้นรน “นั่งไม่ติด” จึงต้องรีบออกมาทำเท่เพื่อกลบเกลื่อนเท่านั้น!!
กำลังโหลดความคิดเห็น