ปชป.เรียงหน้าโต้ “จตุพร” ด่าคนใต้โง่ที่เลือก ปชป. “เทพไท” ฉะลืมกำพืดตัวเอง ดูแคลนญาติพี่น้องตัวเอง ยันช่วง ปชป.เป็นรัฐบาลดูแลชาวใต้เต็มที่ เหมือนทุกภาค ด้าน “ชวนนท์” ระบุคนใต้โชคร้ายที่ได้ “ทักษิณ” ที่มีจิตใจคับแคบเป็นนายกฯ ระบุคนทุกภาคไม่มีใครโง่ แต่ถูกหลอกด้วยข้อมูลบิดเบือน ปลุกปั่นจากคำพูดโกหก แล้วแกนนำได้เสวยสุข พร้อมเตือนผู้ว่าฯ ร่วมงานเปิดหมู่บ้านแดงสร้างความแตกแยก ต้องรับผิดชอบ
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่แกนนำ นปช.เปิดหมู่บ้านเสื้อแดงที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชไปร่วมด้วยว่า ไม่ทราบวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการจัดตั้งหมู่บ้านดังกล่าว ถ้าตั้งเพื่อให้เป็นหมู่บ้านประชาธิปไตยเพื่อต่อต้านยาเสพติด โดยไม่มีการเมืองเข้าไปแอบแฝง ก็เป็นเรื่องที่น่าสนับสนุน แต่ถ้าหากว่ามีวัตถุประสงค์เพื่อไปเคลื่อนไหวทางการเมืองของคนเสื้อแดง ผู้ว่าฯ ในฐานะตัวแทนของส่วนราชการจากส่วนกลางจะต้องตอบคำถามนี้กับสังคมว่าการตั้งหมู่บ้านคนเสื้อแดงจะเป็นการสร้างความแตกแยกในสังคมหรือไม่ เพราะพฤติกรรมเช่นนี้ไม่เคยมีในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช
“ถ้าผู้ว่าฯ จะใช้วิธีการเอาใจรัฐบาลเหมือนกับตอนเป็น ผู้ว่าฯ ในจังหวัดภาคอีสาน ก็ขอให้ทบทวนแนวคิดดังกล่าว เพราะที่ จ.นครศรีธรรมราช คนในจังหวัดไม่ต้องการความแตกแยกให้เกิดขึ้นในสังคม และจะต้องตระหนักว่าบทบาทของผู้ว่าฯ ในฐานะพ่อเมืองจะต้องสร้างความยอมรับให้เกิดขึ้นในจังหวัดให้ได้ ไม่อยากจะให้ความรู้สึกของชาวบ้านเกิดขึ้นอีกเหมือนกับเหตุการณ์เมื่อปี 2518 ที่มีการเดินขบวนขับไล่ผู้ว่าฯ และเผาจวนผู้ว่าฯ มาแล้ว”
ส่วนที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ปราศรัยพาดพิงดูถูกคนภาคใต้ว่าเป็นคนโง่ที่ไปเลือกพรรคประชาธิปัตย์นั้น นายเทพไทกล่าวว่า หากนายจตุพรพูดเช่นนี้จริง ก็แสดงว่านายจตุพรลืมกำพืดตัวเอง และดูถูกดูแคลนญาติพี่น้องของนายจตุพรเองที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด การกล่าวหาว่าพรรคประชาธิปัตย์ละเลยการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้มีผลงานแค่จัดซื้อเต็นท์บริการงานศพก็ไม่เป็นความจริง เพราะแนวการทำงานของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ไม่เคยซื้อของแจกเพื่อแลกกับคะแนนเสียง พื้นที่ภาคใต้ถูกทอดทิ้งไม่ได้รบการพัฒนาก็ในยุคพรรคการเมืองอื่นเป็นรัฐบาล
นายเทพไทกล่าวว่า วันที่พรรคประชาธิปัตย์มาเป็นรัฐบาลก็ได้ดูแลพื้นที่ภาคใต้อย่างเต็มที่ และไม่เคยเลือกปฏิบัติในภาคอื่นๆ ด้วย โครงการถนน 4 เลนในภาคใต้ก็เกิดขึ้นในยุคพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล หรือแม้แต่โครงการอื่นๆ อีกหลายโครงการ รวมถึงราคาพืชผลด้านการเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคายางพารา รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เคยทำราคาสูงสุดเป็นประวัติการมาแล้ว
“ถ้านายจตุพรต้องการพิสูจน์ศรัทธาของตัวเองเพื่อสร้างความยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยสามารถพัฒนาพื้นที่ได้ดีกว่าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ควรเสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้มากกว่ามาเป็นอีแอบทางการเมืองอยู่ในระบบบัญชีรายชื่อ และแอบอ้างความเป็นรัฐมนตรีหรือดำรงตำแหน่งทางการเมืองมาหลอกลวงพี่น้องชาวภาคใต้ ส่วนที่นายจตุพรชื่นชมสรรเสริญ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เป็นนายกรัฐมนตรี เหมือนกับผู้วิเศษนั้น ก็เป็นเรื่องของนายจตุพรกับพรรคพวก เพราะคนภาคใต้รู้เท่าทัน ไม่เคยหลงใหลได้ปลื้มกับคนเหล่านี้”
ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ถ้าจะมาติชมว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ ที่ดี และมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ตนยังไม่เห็นการพัฒนาด้านใดของนายกฯคนนี้ ว่าดีขึ้นจริงตามที่นายจตุพรกล่าวอ้าง เว้นแต่มีการพัฒนาการในการอ่านโพยดีขึ้นกว่าเดิม ผิดน้อยกว่าช่วงที่เป็นนายกฯใหม่ๆ แต่ในที่สุด ก็ยังต้องอ่านโพยและฟังคำสั่งจากพี่ชายอยู่ดี
ด้าน นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่นายจตุพรไปปราศรัยที่อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช ในงานเปิดค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโครงการบำบัดรักษาผู้เสพยาเสพติด แต่มีการแฝงกิจกรรมการเปิดหมู่บ้านคนเสื้อแดงนั้น อยากจะตั้งข้อสังเกตใน 2-3ประเด็น
ประเด็นที่หนึ่ง อยากจะข้อเตือนเจ้าหน้าทีราชการหรือข้าราชการที่เข้าไปร่วมงานอย่าง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช หรือทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าอย่าตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายการเมืองที่มีวัตถุประสงค์แอบแฝง เพื่อจะสร้างฐานคะแนนเสียงและปลูกฝังแนวความคิดที่ผิดให้กับประชาชน ผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยราชการควรยึดถือความถูกต้อง ไม่ตกเป็นเบี้ยล่างให้คนที่คิดไม่ดี แอบอ้างเอาโครงการของหลวง ไปสร้างประโยชน์ทางการเมืองให้กับกลุ่มตนเอง ขอให้ระมัดระวังการดำเนินการลักษณะดังกล่าว
ส่วนที่ นายจตุพรปราศรัยว่าคนใต้โง่ที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดภาคใต้เลยไม่เจริญนั้น ขอบอกว่าคนใต้นั้นไม่ได้โง่แต่อาจจะโชคร้าย ที่เคยเจอนายกฯ อย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นคนจิตใจคับแคบ และเป็นคนกล่าวคำว่าจังหวัดใดเลือกก็จะดูแลเป็นพิเศษ ดังนั้นเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ประสบความสำเร็จในภาคใต้ จึงไม่ให้ความสำคัญ ไม่ให้งบประมาณ จนมาถึงยุคนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ภาคใต้จึงได้รับการดูแลอย่างเสมอภาค
“อยากบอกนายจตุพรว่าคนภาคใต้นั้นไม่โง่ เหนือก็ไม่โง่ กลางก็ไม่โง่ อีสานก็ไม่โง่ เพียงแต่ถูกหลอกลวงด้วยข้อมูลที่บิดเบือน ถูกปลุกปั่นจากคำพูดโกหกของบรรดาแกนนำเสื้อแดงให้เข้ามาเผาบ้านเผาเมือง เข้ามาตายกลางเมืองหลวง สละชีวิตเพื่อให้แกนนำเหล่านี้เสวยสุขได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี มีเงินมีทองใช้ แต่พี่น้องเสื้อแดงกลับต้องถูกดำเนินคดี ต่อคิวติดคุกรับโทษกันเป็นหางว่าว และผมเชื่อว่าอีกไม่นานพี่น้องเหล่านี้ก็จะตาสว่าง ว่าใครเป็นคนฆ่าประชาชน ใครเป็นคนที่หลีกหนีความจริง ไม่กล้าที่จะพิสูจน์ เรียกร้องเป็นแผ่นเสียงตกร่องว่า ขอนิรโทษกรรม ขอเงินเยียวยา ส่วนใครฆ่าใครนั้น แกนนำพวกนี้ไม่อยากพูดถึงแล้ว สุดท้ายอยากจะบอกนายจตุพรว่า คนใต้นั้นไม่ได้เป็นคนโง่ คนไทยทั้งประเทศไม่มีใครเป็นคนโง่ เพียงแต่มีคนใต้เลวๆ บางคนที่ลุกขึ้นมาปลุกม็อบ เป็นแกนนำทำร้ายบ้านเมือง ประเทศชาติ ด่าท้องถิ่นและบ้านเกิดของตนเอง คนอย่างนี้นั้นสักวันคนไทยคงจะให้บทเรียนที่สาสม”