รมว.พัฒนาสังคมฯ ชิงออกตัว วางตัวเป็นกลาง เสนอโยก “พนิตา” ตามคำสั่ง สตง.ถือเป็นสิทธิฟ้องดำเนินคดีอาญา หากคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม โบ้ยเรื่องเกิดก่อนเข้ารับตำแหน่ง ลั่นต้องรักษาผลประโยชน์มากกว่าเรื่องส่วนตัว
วันนี้ (23 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงกรณีที่ นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ทำหนังสือเสนอให้ นายสันติ ทบทวนคำสั่งโยกย้ายว่า จริงๆ แล้วกรณีนี้ตนเป็นคนกลาง ซึ่งการตั้งกรรมการสอบวินัย เนื่องมาจากทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้มีข้อทักท้วง 2 ข้อ ด้วยกัน คือ ข้อ 1 ให้ดำเนินการเรียกเงินที่ใช้ผิดประเภทและผิดวัตถุประสงค์คืน เพื่อบรรเทาความเสียหายของทางราชการ ข้อ 2 ให้ดำเนินการทางวินัยกับปลัด พม.ที่ได้ร่วมในเรื่องนี้ รวมทั้งอธิบดี พม.และผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งตนก็ได้ดำเนินการไปตามนั้นครบถ้วนแล้ว ขณะนี้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการทางวินัย ที่จะไปตรวจสอบดูแลในด้านต่างๆ ตามข้อทักท้วงของ สตง.ส่วนในช่วงนี้ ตนได้หมดภาระหน้าที่ที่ดำเนินการตามหนังสือ ซึ่งลงวันที่ 25 ส.ค.2554 แล้ว หากตอนนี้ไปพูดอะไรมากมาย ก็จะไปชี้นำหรือจะไปทำให้การทำงาน ของคณะกรรมการทางวินัยที่ได้ตั้งขึ้นทำงานอย่างตรงไปตรงมา
ผู้สื่อข่าวถามว่า นางพนิตา จะยื่นเรื่องเพื่อเอาผิด ครม.ทั้งคณะ เพราะมีการออกคำสั่งโยกย้าย โดยที่ควรจะต้องรอให้ สตง.สอบให้เสร็จก่อน นายสันติ กล่าวว่า ตนว่าทุกคนต้องเคารพในสิทธิ์ของตนเอง ถ้าคิดว่าใครมีสิทธิ์ใดๆ หรือไม่ได้รับความเป็นธรรม ตามความรู้สึกของตนเอง ก็สามารถที่จะดำเนินการได้
“เพราะผมเองท่านก็บอกว่าจะฟ้องผม ทั้งคดีอาญา ทั้งละเว้น ทั้งอะไรต่างๆ คือ ถ้าหากคิดว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็ต้องดำเนินการตามที่ตนเองมีความคิดเห็นอย่างนั้น ผมเองได้ปฏิบัติหน้าที่ราชการ และได้ดูแลเงินของหลวง เงินของรัฐ อย่างดีที่สุด และสิ่งทีผมดำเนินการนั้น ก็ดำเนินการภายใต้หนังสือ ที่ลงวันที่ 25 ส.ค.2554 ของ สตง.ผมไม่ได้มีข้อขัดแย้งกับท่านปลัดฯ หรือบบุคคลที่เกี่ยวข้องใดๆ เลย และเรื่องทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้นนั้น ก็เกิดขึ้นก่อนที่ผมจะเข้ามารับตำแหน่ง เพราะฉะนั้น ผมจึงไม่ใช่ผู้ขัดแย้ง” นายสันติ กล่าว
เมื่อถามว่า ยืนยันว่า ทำตามระเบียบขั้นตอนทุกอย่างใช่หรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า ได้ดำเนินการตามขั้นตอนทุกอย่าง และการตั้งกรรมการนั้น ก็ตั้งตามที่ สตง.บอกเอาไว้ เมื่อถามว่า นางพนิตา บอกว่า อยู่ในการพิจารณาของ สตง.ไม่สามารถ ที่จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบได้นั้น นายสันติ กล่าวว่า ต้องดูคณะกรรมการที่กำลังดำเนินการอยู่ก่อน ส่วนใครจะพูดอย่างไรพูดทุกวันเวลานั้น มันเป็นความคิดของคนๆ เดียว แต่ว่าขณะนี้มีคณะกรรมการแล้ว ก็ปล่อยให้คณะกรรมทำงาน ส่วนสิทธิ์ของตนเองแค่ไหนและอยากจะทำอะไรนั้น ก็เป็นสิทธิ์ของตนเองไป
เมื่อถามว่า มีข่าวว่า นายประวัฒน์ อุตตะโมต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะที่เป็นน้องชายนางพนิตา ได้ทำหนังสือถึงพรรค เพื่อให้บรรจุกรณีนางพนิตา เข้าสู่ที่ประชุมพรรคนั้น มีความกังวลหรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า ตนได้เรียนแล้วว่า กรณีนี้เป็นเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินและทำตามหนังสือของ สตง.เมื่อถามว่า ได้มีการทำความเข้าใจกับ นายประวัฒน์ บ้างหรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า ตนได้ปฏิบัติราชการและทำงานการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งการทำงานนั้น อาจจะไปทำให้ใครเสียใจ ก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่การดูแลให้ถูกต้องตามระเบียบและการดูแลเงินของแผ่นดินนั้น ก็มีความสำคัญ
เมื่อถามว่า เห็นบอกว่า พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย จะมาไกล่เกลี่ยเรื่องนี้นั้น ได้มีการพูดคุยกันหรือยัง นายสันติ กล่าวว่า การบริหาราชการแผ่นดินไกล่เกลี่ยได้ด้วยหรือ ตนไม่มีได้มีความเข้าใจกับใคร และไม่มีความขัดแย้งส่วนตัวกับนายประวัฒน์เลยแม้แต่น้อย แต่ส่วนที่ได้ดำเนินการไปไม่ถูกใจใคร และทำให้ใครเสียใจนั้น ก็เป็นเรื่องที่ต้องเก็บไว้ในใจ แต่สำหรับการปฏิบัติราชการ ถ้าตนทำไปตามความถูกต้องและเป็นธรรมแล้วก็มั่นใจ
เมื่อถามว่า มั่นใจว่า จะชี้แจงในพรรคได้หรือไม่ หากมีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอีก นายสันติ กล่าวว่า ตนไม่ทราบเป็นเรื่องสมมติ จึงไม่อยากจะตอบ ถามต่อว่า เตรียมข้อมูลพร้อมที่จะชี้แจงในทุกเวทีแล้วหรือยัง นายสันติ กล่าวว่า ตนบอกแล้วว่าตนไม่ใช่ผู้ขัดแย้ง ตนดำเนินการตามสตง.ที่ได้แจ้งมา เพราะฉะนั้นตน ก็ได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง ตามที่ สตง.แจ้งมาก็เท่านั้นเอง
เมื่อถามว่า อย่างกรณีที่มีการระบุเรื่องการสร้างตึก ที่อาจจะเป็นเหตุผลร่วมด้วย ขณะนี้โครงการดังกล่าวดำเนินการไปต่อ หรือหยุดชะงักไว้ก่อน นายสันติ กล่าวว่า ก็เป็นความเข้าใจว่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่ถ้าเราปฏิบัติราชการและบริหารอย่างตรงไปตรงมา และมีความเป็นธรรม ตนมั่นใจว่าทุกอย่างที่ทำนั้น ถูกต้องไม่ว่าจะเป็นเรื่องตึก เรื่องการตั้งกรรมการ ทุกเรื่องมันอธิบายได้และต้องถูกต้อง เมื่อถามว่า เอาเก้าอี้รัฐมนตรีมาเป็นเดิมพันหรือไม่ นายสันติ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม พร้อมหันมองผู้สื่อข่าว ก่อนเดินกลับไปขึ้นรถ