xs
xsm
sm
md
lg

“ยิ่งลักษณ์” เล็งผุดเมกะโปรเจกต์ 8.6 หมื่นล้าน ลดกระแสเมินชาวใต้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
5 จว.ฝั่งอันดามัน ชงสารพัดโครงการ 8.6 หมื่นล้านเข้าครม.สัญจร “กิตติรัตน์ รับหน้าเสื่อด่านสะเดาใหม่-ต่ออายุเขต ศก.พิเศษใต้ ส่วนท่าเรือปากบารายังไม่เคาะ ด้าน “จารุพงศ์” เดินหน้าขยาย ทล.4 เป็น 4 เลนตลอดแนวชุมพร-สตูล ระบุนายกฯสั่งทำแผนรถไฟรางคู่ให้เสร็จก่อนปี 60 เปิดข้อเสนอพบ “ภูเก็ต” ชงของบ 1.65 ล้านบาท พร้อมขอที่ประชุมอนุมัติหลักการ 3 เมกะโปรเจกต์วงเงิน 3 หมื่นล้าน

วันนี้ (19 มี.ค) ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) เพื่อพิจารณาสรุปโครงการในพื้นที่ของกลุ่ม 5 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ที่ประกอบด้วย ภูเก็ต ตรัง ระนอง กระบี่ และพังงา ก่อนที่จะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (20 มี.ค.) ทั้งนี้ภายหลังจากการประชุม นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงช่วงหนึ่งว่า ที่ประชุมโดยบัญชาของนายกฯได้มอบหมายให้ตนและกระทรวงมหาดไทยรับไปดำเนินการในส่วนของการเร่งรัดเวนคืนที่ดิน สำหรับโครงการการก่อสร้างด่านสะเดาแห่งใหม่ จ.สงขลา รวมไปถึงเรื่องการขยายอายุเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเฉพาะกิจชายแดนภาคใต้ ที่จะครบในเดือน ธ.ค.55 โดยให้กระทรวงการคลังรับไปดำเนินการ แต่สำหรับโครงการสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบารา จ.สตูล และโครงการอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคใต้ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาร่วมกันของหลายหน่วยงาน

ขณะที่ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวในส่วนข้อสรุปการคมนาคมกับระบบโลจิสติกส์ว่าหลักใหญ่ๆที่ภาคเอกชนเสนอทางหลวงหมาย 4 เป็น 4 ช่องทาง ตั้งแต่ จ.ชุมพรไปจนถึง จ.สตูล โดยเรื่องนี้นายกฯได้สั่งการให้พิจารณาเรื่องการท่องเที่ยวเป็นหลักเพื่อให้ผลตอบแทนทางเศษรฐกิจ รวมทั้งการสร้างเชื่อมบนถนนสายรอง ตลอดจนการปรับปรุงเส้นทางให้มีความปลอดภัย รวมถึงรถไฟทางคู่สายใต้ที่รัฐบาลรับไปบูรณาการแผนการเชื่อมโยงภายในปี 2560 และพิจารณาเชื่อมโยงระหว่างประเทศให้มุ่งเน้นภูมิภาคอาเซียนในอนาคต และอีกประการหนึ่งคือทางรถไฟสายอันดามันที่เสนอโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยกระทรวงคมนาคมจะนำไปพิจารณาลงในรายละเอียดและเสนอต่อไป

นายจารุพงศ์ยังกล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังได้พิจารณาข้อเสนอในการปรับปรุงสนามบิน 3 แห่ง คือที่ จ.ภูเก็ต กระบี่ และตรัง โดยสนามบินภูเก็ตจะมีงบประมาณต่อเนื่อง 3 ปีแล้วเสร็จในปี 2558 รวมงบประมาณ 5,800 ล้านบาท โดยจะเป็นการขยายการรองรับผู้โดยสาจากเดิม 6.5 ล้านคนต่อปี เป็น 12.5 ล้านคนทั้งในและต่างประเทศ ภาคเอกชนยังได้ขอให้มีการเร่งแก้ไขเรื่องกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นเรื่องที่นายกฯได้กำชับให้มีการปรับปรุงโดยเร็ว โดยกระทรวงคมนาคมได้เตรียมแผนไว้แล้ว

ด้าน นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวพอใจกับผลการประชุมกรอ.ว่า ผลสรุปพอใจกับที่ประชุม กรอ.โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตอบรับและเร่งรัดโครงการต่างๆของภาคเอกชนที่จะไปนำเสนอ ทั้งในด้านการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมและโลจิสติกส์ เร่งรัดขยายโครงการทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 ฝั่งอันดามัน เพื่อเพิ่มศักยภาพรองรับเศรษฐกิจการค้าการลงทุน รวมไปถึงการส่งเสริมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและทะเลไทย เช่น โครงการบ้านปลาเฉลิมพระเกียรติทะเลไทยหรือปะการังฝั่งอันดามัน ในพื้นที่เหมาะสมต่อการวางบ้านปลา 15 แห่งในทะเลอันดามัน การส่งเสริมการท่องเที่ยวและการสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการของ 5 จังหวัดฝั่งอันดามันที่จะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.สัญจรในวันพรุ่งนี้ (20 มี.ค.) นั้น รวมมูลค่างบประมาณทั้งสิ้น 86,000 ล้านบาท โดยในส่วนของ จ.ภูเก็ต เสนอจำนวน 52 โครงการ วงเงินงบประมาณ 16,596 ล้านบาท โดยมีโครงการที่น่าสนใจ อาทิ โครงการก่อสร้างศาลากลางจังหวัดภูเก็ตหลังใหม่ 450 ล้านบาท โครงการแก้มลิงบ้านโคกโตนด อ.ถลาง 500 ล้านบาท โครงการก่อสร้างอนุสรณ์สถานเมืองถลาง 500 ล้านบาท โครงการจัดหาอุปกรณ์เพื่ออารักขาบุคคลสำคัญในพื้นที่ 191 ล้านบาท โครงการก่อสร้างถนนแนวใหม่ใต้แนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูง 1,800 ล้านบาท โครงการพัฒนาระบบคมนาคมเชื่อมสนามบินนานาชาติภูเก็ต 300 ล้านบาท โครงการบริหารจัดการศูนย์กำจัดขยะมูลฝอย 619 ล้านบาท โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม 760 ล้านบาท โครงการสร้างเสริมศักยภาพของท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ต เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางกิจกรรม ทางเศรษฐกิจและสังคมของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนของมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต 1,950 ล้านบาท โครงการยกระดับภูเก็ตเป็นเมืองสุขภาพนานาชาติ 1,063 ล้านบาท โครงการศึกษาการพัฒนาทางวิ่ง (Runway) ท่าอากาศยานภูเก็ต 500 ล้านบาท และโครงการศูนย์ประสานงานและบริการด้านการต่างประเทศ และเทคโนโลยีการสื่อสาร (Phuket OSOS) 800 ล้านบาท เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีโครงการของ จ.ภูเก็ต ที่จะเสนอขอความเห็นชอบในหลักการจากคณะรัฐมนตรี จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าขนาดเบารอบเกาะภูเก็ตและเส้นทางสนามบิน 24,770 ล้านบาท โครงการอุโมงค์ลอดเข้าหาดป่าตอง 5,556 ล้านบาท โครงการภูเก็ตเขียว ในการนำพลังงานทดแทนมาใช้ทุกรูปแบบ วงเงิน 175 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 30,731 ล้านบาท ทั้งนี้ ในวาระการประชุม ครม.สัญจรจะเสนอโครงการพัฒนาพื้นที่ในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน 5 จังหวัดที่กำหนดแล้วเสร็จภายใน 1 ปี จำนวน 18 โครงการ วงเงิน 1,429 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.จ.ภูเก็ต โครงการแก้มลิงสวนเฉลิมพระเกียรติ 15 ล้านบาท โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ทางเดินศึกษาธรรมชาติตามรอยเบื้องพระยุคลบาทสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 8 ล้านบาท ก่อสร้างอนุสรณ์สถานบรรพชนผู้กล้าแห่งเมืองถลาง 500 ล้านบาท 2.จ.พังงา โครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือทับละมุ 31.2 ล้านบาท

โครงการก่อสร้างและปรับปรุงภูมิทัศน์อนุสรณ์สถานสึนามิ เรือตรวจการณ์ 813 วงเงิน 42.97 ล้านบาท โครงการก่อสร้างศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอันดามัน 20 ล้านบาท โครงการจัดตั้งศูนย์ราชการจังหวัดพังงา 466.79 ล้านบาท 3.จ.กระบี่ โครงการขุดลอกร่องน้ำบริเวณท่าเทียบแพขนานยนต์ข้ามฟากเกาะลันตา-ทะเล อันดามัน 18.4 ล้านบาท โครงการก่อสร้างอาคารอุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน และอุบัติภัยทางธรรมชาติเพื่อรองรับคุณภาพชีวิตที่ดีและการท่องเที่ยว 99.34 ล้านบาท การสำรวจออกแบบการก่อสร้างถนนเลี่ยงเมือง 20 ล้านบาท และการจัดตั้งมหาวิทยาลัยของฝั่งทะเลอันดามัน วงเงิน 20 ล้านบาท 4.จ.ตรัง โครงการการพัฒนาท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยว 30 ล้านบาท โครงการการพัฒนาแหล่งน้ำของจังหวัด 64 ล้านบาท โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ถ้ำเขาช้างหาย 10 ล้านบาท และ 5.จ.ระนอง โครงการศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมการกัดเซาะชายฝั่งของน้ำทะเลบ้าน อ่าวเคย วงเงิน 10 ล้านบาท โครงการฟื้นฟูคูคลองเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยอย่างยั่งยืน 37.54 ล้านบาท โครงการพัฒนาศักยภาพการรวบรวมและแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรของสถาบันเกษตรกร วงเงิน 21.6 ล้านบาท โครงการพัฒนาส่งเสริมศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวเกาะพยาม วงเงิน 15 ล้านบาทอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น