ปชป.ซัดรัฐบาลโยนผิดกลไกตลาดทำสินค้าราคาสูง ทั้งที่ต้นทุนถูกแต่ขายแพง

“ชวนนท์” เฉ่ง รมว.พลังงาน ปูดเท็จในสภา ยันราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ไม่เกี่ยวกลไกตลาด เพราะราคาปีที่แล้วแพงกว่าปีนี้ ชี้รัฐบาลชุดนี้ชอบโยนผิดกลไกตลาด ทั้งที่ความจริงเกิดจากการบริหารงานที่ผิดพลาด เพราะต้นทุนถูก แต่เมื่อเป็นสินค้ากลับมีราคาแพง

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงกรณีที่นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รมว.พลังงาน ชี้แจงกระทู้ถามสดในสภาฯเมื่อวันที่ 15 มี.ค. ว่าราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นมาจากกลไกราคาตลาดโลก โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น 50 % นั้นไม่เป็นความจริง เพราะตามข้อมูลราคาน้ำมันดิบเมื่อเดือน เม.ย.54 อยู่ที่ 110 เหรียญต่อบาร์เรล ขณะที่เมื่อ ก.พ.55 ราคาอยู่ที่ 102 เหรียญต่อบาร์เรล จะเห็นว่าราคาน้ำมันปีที่แล้วสูงกว่าปีนี้ ฉะนั้นไม่สามารถนำเรื่องของกลไกตลาดมาชี้แจงสาเหตุของการขึ้นราคาน้ำมันได้

อย่างไรก็ตาม การโยนให้เป็นเรื่องของกลไกการตลาด เป็นวิธีการแก้ปัญหาของคนในรัฐบาลนี้มาฑดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รอนายกฯฯ และรมว.คลัง ออกมาโยนเรื่องของแพงให้เป็นเรื่องกลไกตลาด หรือนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษากรโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาระบุว่าสินค้าต้นทุนราคาถูก แต่สินค้าปลายทางราคาแพง แต่กลับไม่มีการพูดถึงการแก้ปัญา ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการทำใหเสินค้าวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นไข่ หมู่ ไก่ ราคาลดลง แต่การบริหารจัดการปลายทางที่ผิดพลาดของรัฐบาลี่ทำให้สินค้าราคาแพง

นายชวนนท์กล่าวว่า นอกกจากนี้ การที่ รมว.พลังงานออกมาระบุว่า ราคาแอลพีจีสูงขึ้นเป็นเรื่องของกลไกตตลาดที่สูงขึ้น 3-4 เท่านั้น แต่จากข้อมูลพบว่า ราคาปัจจุบันในเดือน มี.ค.55 ราคาแอลพีจี อยู่ที่ 1180 เหรียญต่อเมตริกซ์ตัน แต่ราคาปีที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 800-900 เหรียญต่อเมตริกซ์ตัน ซึ่งประชาชนไม่ควรจะต้องแบกรับค่าก๊าซที่สูง เนื่อจากประเทศไทยเป็นประเทศที่ผลิตก๊าซได้ภายในประเทศ ถ้ารัฐบาลยังบริหารเช่นนี้อีกหน่อยเราอาจต้องซื้อข่าวหอมมะลิในราคาเดียวกับที่สหรัฐฯ ซื้อ ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ควรอ้างกลไกการผลิตของตลาดโลก

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ในส่วนของราคาน้ำมันปาล์มที่กระทรวงพาณิชย์ จะนำเข้าน้ำมันปาล์มจำนวน 4 แสนตัน เพื่อคุมราคาอยู่ที่ขวดละ 42 บาท จะเห็นว่าวิกฤตน้ำมันปาล์มครั้งนี้ต่างจากที่สมัยที่พรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาล เพราะขณะนั้นภาคใต้เกิดน้ำท่วมใหญ่ผลปาล์มขาดแคลน ทำให้ผลปาล์มร่วงที่นำมาใช้ผลิตน้ำมัน ในขณะนั้นสูงกว่าราคาในรัฐบาลนี้ โดยราคาปีนี้อยู่ที่ 6.5 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ราคาในปี 54 อยู่ที่ 7.2 บาทต่อกิโลกรัม อีกทั้งยังมีผลปาล์ในสต๊อกอีกจำนวน 2.1 แสนตัน หากบริหารจัดการให้ถูกราคาก็จะไม่เพิ่มขึ้น แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐบาลถึงใช้วิธีการนำเข้า ซึ่งมีกระแสข่าวว่าเป็นความพยายามกดดันผู้สกัดน้ำมันปาล์มที่เป็นฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์

ส่วนที่ระบุว่าการบริหารงานไม่ต้องมีการบิดเบือนเพราะราคาสินค้าต้นทุนถูก แต่สินค้าปลายทางแพงนั้นคนที่บิดเบือนก็คือรัฐบาลเอง เพราะรัฐบาลเป็นคนที่อยู่ระหว่างต้นทางกับปลายทาง ดังนั้น รัฐบาลจะต้องรับผิดขอบดูแลแก้ปัญหา ไม่ใช่ใช้ปากแก้มากกว่าสมอง ดังนั้นจึงอยากให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ตั้งสติแก้ปัญหาใก้กับประชาชนมากกว่าชวยเหลือพี่ชายตัวเอง