“ปู” รุดให้กำลังใจทหาร ขุดลอกคูคลองสนามชัยเขต เผย คืบหน้าแล้ว 25 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ กทม.ไม่รายงานความคืบหน้า ลั่น ถ้าเสร็จไม่ทันรัฐบาลจะลุยเอง ย้ำ ไม่อยากเห็น ปชช.ฝันร้าย เช่นเดียวกับตนเอง
วันนี้ (15 มี.ค.) ที่บางขุนเทียน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการขุดลอกลำรางคลองสนามชัย เขตบางขุนเทียน กทม.เพื่อให้กำลังใจทหารกรมการทหารช่าง โดยมี พ.อ.เฉลิมพล นุตรักษ์ ผู้บังกองพันพลทหารช่างเครื่องมือพิเศษกองพลทหารช่าง กล่าวรายงานความคืบหน้าการขุดลอก
โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า วันนี้มาตรวจเยี่ยมเพื่อให้กำลังใจ ซึ่งหากมีโอกาสภายหลังจากเสร็จภารกิจประจำวันก็จะลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจ ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่อยากให้จัดเตรียมอะไรเป็นพิเศษ เนื่องจากเห็นว่าเจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งการมาในวันนี้ก็ได้นำเครื่องดื่ม ขนม มามอบให้เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การขุดลอกคูคลองในส่วนของกองทัพดำเนินการไปแล้ว 25 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่กรุงเทพมหานครยังไม่ได้มีการรายงานข้อมูลเข้ามา แต่ก็ได้มีการติดตามและประสานงานกันตลอด รวมถึงในทุกมหาวิทยาลัย เราจะมีโครงการที่จะทำสัญญาในการตรวจสุ่มติดตามทุกหน่วยงาน โดยจะนำข้อมูลทั้งหมดบันทึกลงในระบบทุกแผนงาน หากมีปัญหาตรงไหนก็จะได้แก้ได้ถูกทาง ในส่วนของ กทม.ตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้าต้องขอติดตามความคืบหน้า รวมถึงแต่ละจังหวัดก็ได้มีการดำเนินการในส่วนของจังหวัด ส่วนทำคลองลัดในฝั่งแม่น้ำท่าจีนในการระบายน้ำซึ่งอยู่ในพื้นที่ปลายน้ำ กรณีคลองลัดโพธิ์ตามแนวพระราชดำริช่วยได้มาก โดยเฉพาะในฝั่งตะวันตก เป็นการเปิดคลองให้กว้างและทำให้น้ำไหลเร็วมากที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า แม่น้ำท่าจีนมีความคดเคี้ยวจะจัดการอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า จะต้องมีการขุดลอกคลองให้ทแยงตามแนวตั้งให้มากที่สุด เพราะทางฝั่งตะวันตกมีปัญหาคลองแคบ ขณะเดียวกัน ต้องให้คลองมีความลึก รวมถึงโครงการพระราชดำริสนามชัยที่จะรองรับน้ำได้มาก
เมื่อถามว่า วันนี้ ในส่วนของ กทม.ทำงานตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ยังไม่มีความคืบหน้า แต่ขอติดตามความคืบหน้า เพราะต้องไล่ดูตั้งแต่งบประมาณที่จัดสรรลงไปแล้วว่ามีการดำเนินงานอย่างไร ทั้งนี้ จะต้องเห็นงานจากทุกระบบให้มีความเชื่อมโยงกันให้มากที่สุด เชื่อว่า ในต้นเดือนหน้าทุกหน่วยงานจะต้องรายงานผลความคืบหน้ามาที่รัฐบาล ซึ่งจะดูว่าการดำเนินงานมีการติดขัดในส่วนใดบ้าง แต่ที่สำคัญการทำงานทุกอย่างจะต้องมีการประสานงานกัน
ส่วนการขุดลอกคูคลองของ กทม.หากมีความล่าช้าจะส่งผลกระทบต่อการประกาศพื้นที่รองรับน้ำหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า จะต้องมีการประเมินผลการทำงานและจะต้องติดตามการทำงานของ กทม.อย่างใกล้ชิด การขุดลอกคูคลองเป็นส่วนที่อยู่ปลายทาง ซึ่งจะทำให้น้ำไหลเร็วที่สุด หาก กทม.ทำไม่ทันจะต้องมีการเพิ่มกำลัง เพิ่มศักยภาพ กทม.ให้ผ่านไป เพราะวันนี้ไม่สามารถปล่อยคลองให้ตื้นเขินได้อีก เชื่อว่า วันนี้มีเวลาเตรียมตัว และจะต้องเตรียมแต่เนิ่นๆ ขณะเดียวกัน ที่ผ่านมา คลองต่างๆ ปล่อยที่ไว้ไม่ได้อยู่ในลักษณะคลองระบายน้ำ อาจจะเป็นเพราะว่าไม่คาดคิดว่าจะเกิดอุทกภัย และจะส่งผลกระทบต่อความเสียหายต่อประเทศมากขนาดนี้
“การดำเนินงานทุกอย่างจะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ให้ความร่วมมือ แผนการดำเนินงานก็จะเดินไม่ได้ ดังนั้น จึงจะต้องทำให้เต็มที่และมีประสิทธิภาพ เชื่อว่า ทุกคนไม่อยากเห็นฝันร้ายเหมือนเช่นปีที่ผ่านมา หากท้ายที่สุดไม่ได้รับความร่วมมือจาก กทม.เราไม่มีการแยกว่าอะไรเป็นของ กทม.อะไรเป็นของรัฐบาล แต่หน้าที่ของรัฐบาล คือ การสานต่องานให้เสร็จ หากหน่วยงานใดทำงานไม่เสร็จรัฐบาลพร้อมที่จะรับมาดำเนินงานเอง” นายกรัฐมนตรี กล่าว
เมื่อถามว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ออกมาระบุว่า ไม่มีอำนาจในการสั่งการ หลังจากที่รัฐบาลสั่งงานลงไป นายกฯ กล่าวว่า จริงๆ แล้วท้องถิ่นได้มีการทำงานกับทางผู้ว่าราชการจังหวัด ในส่วนของท้องถิ่นก็มีงบของท้องถิ่น ส่วนการทำงานร่วมกับจังหวัด ได้มีการปลูกงบประมาณหลักไว้แล้ว แต่ในส่วนของรายละเอียดคลองเล็กคลองน้อยงบประมาณอาจจะลงไปไม่ถึง เนื่องจากงบประมาณมีจำกัด จึงต้องเลือกคลองที่มีความสำคัญที่จะรองรับน้ำในการผันลงทะเล อยากให้ทุกภาคส่วนมีความร่วมมือกันและเข้าใจรัฐบาล