นครปฐม - ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมมั่นใจปีนี้น้ำไม่ท่วมพื้นที่ แต่ชาวบ้านยังไม่เชื่อ โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่อำเภอบางเลน พุทธณพล สามพราน และนครชัยศรี ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมอย่างหนักมาแล้วเมื่อปี 2554
นายนิมิต จันทน์วิมล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า ภายใน 3 เดือนที่จะถึงนี้จังหวัดนครปฐมได้นำเสนอนายกรัฐมนตรีให้ทราบถึงการบริหารจัดการน้ำในช่วงปี 2555 โดยจังหวัดนครปฐม มีพื้นที่ในการรับน้ำตามธรรมชาติอยู่แล้วประมาณ 150,000 ไร่ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเขตอำเภอบางเลน ในเขตทุ่งพระยาบันลือ และทุ่งพระพิมล พื้นที่ของจังหวัดนครปฐม จึงเป็นพื้นที่ปิดล้อม ซึ่งนายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ดร.วงศ์ศักดิ์ สวัสดิพาณิชย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะได้เดินทางมาตรวจสภาพปัญหาวัชพืชในคลองบางเลน ประตูระบายน้ำตำบลบางระกำ
โดยเฉพาะการรักษาระบบระบายน้ำและการกำจัดวัชพืชในคลองเข้ คลองสวิตชาติ และคลองควาย รวมทั้งที่บริเวณประตูระบายน้ำคลองภาษี และในแม่น้ำท่าจีน ซึ่งทางจังหวัดนครปฐม ได้รับความร่วมมือจากกรมการทหารช่างจังหวัดราชบุรี มาช่วยในการขุดลอกแม่น้ำท่าจีน
ทั้งนี้ จังหวัดนครปฐมได้ดำเนินการตามแนวทางของรัฐบาล ทั้งในภาพรวมพื้นที่ในเขตปลายน้ำ และในภาพรวมของจังหวัด โดยมีการขุดลอกคลองทุกคลอง มีการกำจัดขยะมูลฝอย โดยเฉพาะการใช้แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำบางปะกง ในการช่วยระบายน้ำจากทางภาคเหนือลงสู่ทะเล โดยแม่น้ำท่าจีนของจังหวัดนครปฐม มีการจัดสร้างถนนริมแม่น้ำท่าจีนทั้งสองฝั่ง โดยการยกระดับถนนเดิมที่สูง 3 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลางให้สูงขึ้นอีก 1.5 เมตร ทำให้น้ำสามารถไหลลงทะเลได้อย่างรวดเร็ว และไม่ล้นตลิ่งออกมาท่วมพื้นที่
นอกจากนี้ สิ่งที่กีดขวางทางน้ำ ทั้งแม่น้ำและคลองสายหลัก ทางจังหวัดนครปฐมจะได้บอกกล่าวให้ประชาชนที่บุกรุกพื้นที่ลำรางสาธารณะ ได้รับทราบถึงผลเสียของการกีดขวางทางน้ำ ซึ่งเป็นปัญหาของส่วนรวม และพบว่าชาวนครปฐมมีความเข้าใจ และให้ความร่วมมือมาอย่างต่อเนื่อง หากมีบางรายที่ยังไม่เข้าใจ ทางจังหวัดนครปฐมจะได้ใช้มาตรการทางกฎหมายผ่านทางสำนักงานอัยการจังหวัด เพราะปัญหาอุทกภัยเป็นปัญหาของทุกคนที่จะต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ เพื่อทำให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด จึงมั่นใจว่าในปีนี้จังหวัดนครปฐมจะผ่านวิกฤตไปได้อย่างแน่นอน
โดยจากการออกมาเปิดเผยดังกล่าวยังเป็นสิ่งที่ชาวจังหวัดนครปฐมหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอำเภอบางเลน พุทธมณฑล สามพราน และอำเภอนครชัยศรี ซึ่งได้ประสบปัญหาดังกล่าวเมื่อสถานการณ์มหาอุทกภัยที่ผ่านมายังมีการตั้งคำถามถึงการยืนยันดังกล่าว ท่ามกลางการเร่งดำเนินการการจัดการน้ำของรัฐบาลที่กำลังมีข้อมูลออกมาที่ไม่ตรงกันและหวังจะให้มีการออกมาชี้แจงการเตรียมตัวรับสถานการณ์อย่างชัดเจนก่อนที่น้ำจะมาในปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะเร็วกว่าทุกปี
นายนิมิต จันทน์วิมล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า ภายใน 3 เดือนที่จะถึงนี้จังหวัดนครปฐมได้นำเสนอนายกรัฐมนตรีให้ทราบถึงการบริหารจัดการน้ำในช่วงปี 2555 โดยจังหวัดนครปฐม มีพื้นที่ในการรับน้ำตามธรรมชาติอยู่แล้วประมาณ 150,000 ไร่ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเขตอำเภอบางเลน ในเขตทุ่งพระยาบันลือ และทุ่งพระพิมล พื้นที่ของจังหวัดนครปฐม จึงเป็นพื้นที่ปิดล้อม ซึ่งนายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ดร.วงศ์ศักดิ์ สวัสดิพาณิชย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะได้เดินทางมาตรวจสภาพปัญหาวัชพืชในคลองบางเลน ประตูระบายน้ำตำบลบางระกำ
โดยเฉพาะการรักษาระบบระบายน้ำและการกำจัดวัชพืชในคลองเข้ คลองสวิตชาติ และคลองควาย รวมทั้งที่บริเวณประตูระบายน้ำคลองภาษี และในแม่น้ำท่าจีน ซึ่งทางจังหวัดนครปฐม ได้รับความร่วมมือจากกรมการทหารช่างจังหวัดราชบุรี มาช่วยในการขุดลอกแม่น้ำท่าจีน
ทั้งนี้ จังหวัดนครปฐมได้ดำเนินการตามแนวทางของรัฐบาล ทั้งในภาพรวมพื้นที่ในเขตปลายน้ำ และในภาพรวมของจังหวัด โดยมีการขุดลอกคลองทุกคลอง มีการกำจัดขยะมูลฝอย โดยเฉพาะการใช้แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำบางปะกง ในการช่วยระบายน้ำจากทางภาคเหนือลงสู่ทะเล โดยแม่น้ำท่าจีนของจังหวัดนครปฐม มีการจัดสร้างถนนริมแม่น้ำท่าจีนทั้งสองฝั่ง โดยการยกระดับถนนเดิมที่สูง 3 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลางให้สูงขึ้นอีก 1.5 เมตร ทำให้น้ำสามารถไหลลงทะเลได้อย่างรวดเร็ว และไม่ล้นตลิ่งออกมาท่วมพื้นที่
นอกจากนี้ สิ่งที่กีดขวางทางน้ำ ทั้งแม่น้ำและคลองสายหลัก ทางจังหวัดนครปฐมจะได้บอกกล่าวให้ประชาชนที่บุกรุกพื้นที่ลำรางสาธารณะ ได้รับทราบถึงผลเสียของการกีดขวางทางน้ำ ซึ่งเป็นปัญหาของส่วนรวม และพบว่าชาวนครปฐมมีความเข้าใจ และให้ความร่วมมือมาอย่างต่อเนื่อง หากมีบางรายที่ยังไม่เข้าใจ ทางจังหวัดนครปฐมจะได้ใช้มาตรการทางกฎหมายผ่านทางสำนักงานอัยการจังหวัด เพราะปัญหาอุทกภัยเป็นปัญหาของทุกคนที่จะต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ เพื่อทำให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด จึงมั่นใจว่าในปีนี้จังหวัดนครปฐมจะผ่านวิกฤตไปได้อย่างแน่นอน
โดยจากการออกมาเปิดเผยดังกล่าวยังเป็นสิ่งที่ชาวจังหวัดนครปฐมหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอำเภอบางเลน พุทธมณฑล สามพราน และอำเภอนครชัยศรี ซึ่งได้ประสบปัญหาดังกล่าวเมื่อสถานการณ์มหาอุทกภัยที่ผ่านมายังมีการตั้งคำถามถึงการยืนยันดังกล่าว ท่ามกลางการเร่งดำเนินการการจัดการน้ำของรัฐบาลที่กำลังมีข้อมูลออกมาที่ไม่ตรงกันและหวังจะให้มีการออกมาชี้แจงการเตรียมตัวรับสถานการณ์อย่างชัดเจนก่อนที่น้ำจะมาในปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะเร็วกว่าทุกปี