กองทัพบก เดินเครื่องป้องกันน้ำท่วม ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ตามนโยบายรัฐบาล สั่งกองทัพภาค ทหารช่างเร่งดำเนินการ ขณะเดียวกัน เตรียมร่วมขุดลอกคูครอง 227 แห่งของ กทม.คาด 3 เดือนเสร็จ เตรียมเชิญ “นายกฯปู” เปิดงาน
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ร่วมแถลงข่าวการเตรียมการป้องกันปัญหาอุทกภัย ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ว่า ที่ผ่านมา หน่วยทหารทั่วประเทศได้ศึกษาสรุปบทเรียนจากการช่วยเหลือประชาชนจากมหาอุทกภัย และได้เตรียมความพร้อมของเครื่องมือ กำลังพลการวางแผนกำหนดพื้นที่เสี่ยงภัย พร้อมการประสานงานกับทุกภาคส่วนในการป้องกันและเตรียมรับสถานการณ์น้ำ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกได้สั่งการให้ทุกหน่วยของกองทัพบกได้สนับสนุนแผนงานของรัฐบาลในการบริหารจัดการน้ำอย่างเต็ความสามารถ
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า กองทัพบกได้เตรียมแผนการปฏิบัติ 3 ส่วน โดยครอบคลุมในทุกพื้นที่ตามเส้นทางน้ำ คือ 1.พื้นที่ต้นน้ำ เน้นการเพิ่มความชุ่มชื่นของผืนดินชะลอการไหลของน้ำและคงความสมดุลของป่าต้นน้ำ โดยกองทัพบกได้จัดทำโครงการฟื้นฟูป่าต้นน้ำเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนพรรษา 80 พรรษา และ 84 พรรษา เริ่มตั้งแต่ ปี 2555-2559 โดยให้ประชาชน ชุมชน เข้ามามีส่วนร่วมโครงการนี้กองทัพบกจะปลูกป่าต้นน้ำ สร้างฝายการป้องกันการบุกรุกป่าต้นน้ำโดยประสานความร่วมมือกับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ดำเนินการในพื้นที่เป้าหมาย 39 ป่าต้นน้ำทั่วประเทศ เนื้อที่ 6,900ไร่เศษ จะเปิดโครงการในวันที่ 20 ก.พ.55 ณ อุทยานแห่งชาติลำคองู อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า 2.พื้นที่กลางน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรองรับปริมาณน้ำและเก็บกักน้ำ โดยกองทัพบกได้มอบหมายให้กองทัพภาค เตรียมกำลังหน่วยทหารช่างพร้อมให้การสนับสนุนรัฐบาลและส่วนราชการต่างๆ ในการพัฒนาแหล่งน้ำและระบบโครงสร้างชลประทาน ขณะนี้กองทัพบกมีแผนสนับสนุนโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำของกรมทรัพยากรน้ำที่จะขุดลอกคูคลองและแหล่งน้ำในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการประสานรายละเอียดและจัดทำแผนงานร่วมกัน
3.พื้นที่ปลายน้ำ ซึ่งมีความจำเป็นในการเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลกองทัพบกได้มอบให้หน่วยทหารช่าง จากกรมทหารช่าง กองทัพภาคที่ 1, 2 และ 3 เข้าการสนับสนุนการชุดลอกคูคลองใน โครงการฟื้นฟูขุดลอกคลอง ลำราง และท่อระบายน้ำในพื้นที่ประสพภัย ตามนโยบายของรัฐบาลซึ่งร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร เริ่มดำเนินการ 15 ก.พ.-30 พ.ค.5
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า ขณะนี้การดำเนินการอยู่ในระหว่างการเคลื่อนย้ายเครื่องมือช่างไปยังพื้นที่ปฏิบัติงานโดยขั้นต้นจะขุดลอกคลอง ใน 26 เขต จำนวน 277 คลอง ของ กทม.ซึ่งในจำนวนนี้ไม่รวมกับในส่วนของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนาที่จะต้องได้รับแบ่งพื้นที่รับผิดชอบด้วย โดย กองทัพภาคที่ 1 รับผิดชอบในพื้นที่ย่านกลาง กทม.กองทัพภาคที่ 2 รับผิดชอบพื้นที่ฝั่งตะวันออก ของ กทม.กองทัพภาคที่ 3 รับผิดชอบพื้นที่ด้านเหนือของ กทม.และ กรมการทหารช่าง รับผิดชอบพื้นที่ฝั่งตะวันตกของ กทม.ปัจจุบันกองทัพบกได้แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการ โครงการฟื้นฟูขุดลอกคลอง เพื่อกำกับดูแลให้การขุดลอกคูคลองในพื้นที่ประสบภัยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งคุณภาพของงานและระยะเวลาใการดำเนินการ
ทั้งนี้ กองทัพบก จะเชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานในการเปิดโครงการอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม การขุดลอกคูคลองเป็นสิ่งหนึ่งที่กองทัพบกสามารถดำเนินการได้โดยเร็วภายในระยะเวลาที่จำกัด เช่น โครงการขุดลอกคูคลองใน กทม.จะใช้เวลา 3 เดือน ซึ่งทางผู้บังคับบัญชา มีความห่วงใยในเรื่องคุณภาพเนื้องาน สิ่งที่จะปรากฏเป็นผลงานต้องเรียบร้อยโดยต้องประสานงานอย่างเต็มที่ระหว่างกองทัพบก และ กทม.ซึ่งจะเชิญผู้บริหารระดับสูง กทม.มาเป็นที่ปรึกษาและคณะกรรมการดำเนินการ
ด้าน พ.อ.วินธัย กล่าวเสริมว่า นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มีการสั่งการให้กองทัพบกกำหนดพื้นที่เป้าหมายการปลูกป่าในพื้นที่ชายแดนโดยลำดับความเร่งด่วนในการดำเนินการตามเส้นทางการไหลของน้ำ และให้ประสานงานกับคณะกรมการพิเศษในโครงการการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งกองทัพบกได้กำหนดพื้นที่ป่าต้นน้ำตามแนวชายแดนไว้แล้ว คือ 3 จังหวัดทางภาคเหนือ จำนวน 57 พื้นที่ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ฐานปฏิบัติการของชนกลุ่มน้อย โดยอยู่ในความรับผิดชอบของกองกำลังนเรศวร 35 พื้นที่ กองกำลังผาเมือง 22 พื้นที่
