“ปานเทพ” เปิดหลักฐาน หลังพันธมิตรฯนัดประชุม อัยการเพิ่มข้อหาอย่างเร่งด่วนทันที ลั่นเตรียมเอาผิด “ศิษฐา วงศ์สุเมธ” รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา เหตุเข้าข่ายผิดกฎหมายอาญามาตรา 200 ซึ่งโทษหนักสุดถึงขั้นจำคุกคลอดชีวิต พร้อมแจง ทหารก็โดนบีบ ผ่านทางคดี 16 ศพเช่นกัน ชี้รัฐบาลจุดชนวนไว้หมดแล้ว รอจังหวะให้ทุกฝ่ายยอมรับนิรโทษกรรม เพื่อช่วย “ทักษิณ” พ้นผิดให้ได้
วันที่ 13 มี.ค. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ ผศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองคณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้ร่วมรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV
โดยนายปานเทพกล่าวว่า ตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้เข้าบริหารประเทศ ได้มีความพยายามให้พันธมิตรฯ ยอมรับกระบวนการนิรโทษกรรม โดยมีทนายฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ มาพูดกับทนายสุวัตร แล้วจะลบล้างคดีก่อการร้ายให้ทั้งหมดทั้งสองฝ่าย แต่พันธมิตรฯ ไม่ยอม และยังจัดการประชุมเพื่อต่อต้านด้วย จากนั้นจึงเกิดปรากฏการณ์คือมีการเพิ่มข้อกล่าวหาให้แก่พันธมมิตรฯ ซึ่งวันพุธที่ผ่านมาได้ไปรายงานตัว ตนได้เห็นเอกสาร มันมีเบื้องหลังน่าสนใจ
อัยการส่งหนังสือเลขที่ อส.0016. 9/364 ลงวันที่ 17 ก.พ. 2555 ฝ่ายกองปราบเองโดยฝ่ายอำนวยการบริการปราบปราม งาน 1 ฝอ.บกป. รับเลขที่ 074 วันที่ 17 ก.พ. 2555 เวลา 11 นาฬิกา ปรากฏว่า งานที่ 7 ที่เป็นฝ่ายกฎหมาย ฝ่ายบริการปราบปราม ส่งเรื่องต่อทันทีภายใน 6 นาที ข้ามฝ่ายเร็วมาก หลังจากนั้นในวันเดียวกันก็ส่งให้งานคดีสอบสวนเวลา 13 นาฬิกา 50 นาที ปกติเราไม่ค่อยเห็นกระบวนการเร่งรัดส่งหนังสือข้ามฝ่ายกันอย่างรวดเร็วนับนาทีต่อนาที แสดงให้เห็นว่าเขาเร่งรีบจริงๆ ที่อยากจะดำเนินคดีเพิ่มให้แก่พันธมิตรฯ
ซึ่งในความเห็นของอัยการท่านนี้ เขียนไว้ว่า เห็นว่าพนักงานสืบสวนยังมีการแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาบางคนไม่ครบถ้วน เพราะฉะนั้นจึงให้พนักงานสืบสวน พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ทำการสอบสวนเพิ่มเติม โดยให้พนักงานสืบสวนแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม แก่ผู้ต้องหาดังนี้ ... ทั้งนี้ ให้พนักงานสืบสวนแจ้งข้อกล่าวหา และสืบคำให้การผู้ต้องหาใหม่ด้วย โดยให้ดำเนินการให้ถูกต้องครบถ้วนตามกระบวนกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และส่งผลให้การสืบสวนเพิ่มเติมมาให้ ภายในวันที่ 10 มี.ค. 2555 คือวันที่เราประชุมกัน
โดยคนที่ลงนาม คือ นายศิษฐา วงศ์สุเมธ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา ตนก็อยากจะเรียนว่าท่านสามารถเพิ่มคดีให้พันธมิตรฯ ได้แต่เราก็จะไปสู้ในชั้นถัดไป ตนได้เปิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 200 เขียนไว้ว่า “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งพนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสืบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา หรือจัดการให้เป็นไปตามกฎหมายอาญา กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดๆ ในตำแหน่งอันมิชอบ เพื่อช่วยเหลือบุคคลหนึ่งบุคคลใด มิให้ต้องได้รับโทษ หรือรับโทษน้อยลง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน - 7 ปี และปรับตั้งแต่ 1 พัน - 1 หมื่น 4 พันบาท แต่ถ้าการกระทำหรือไม่กระทำนั้น เป็นการเพื่อจะแกล้งให้บุคคลหนึ่งบุคคลใด ต้องรับโทษ รับโทษหนักขึ้น หรือต้องถูกบังคับตามวิธีการเพื่อความปลอดภัย ผู้กระทำการต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 1-20 ปี และปรับตั้งแต่ 2 พัน - 4 หมื่นบาท”
คือถ้าช่วยทำให้โทษลดลง ติดคุก 7 ปี แต่หากไปทำให้โทษที่ได้รับเกินความจริง มีโทษจำคุกตลอดชีวิต ซึ่งก็ได้ตกลงกับทนายแล้วว่า พันธมิตรฯจะฟ้องดำเนินการประมวลกฎหมายอาญามาตรา 200 ให้กับท่านรองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา จะได้รับเกียรตินั้น
นายปานเทพกล่าวอีกว่า มาดูฝั่งทหารน่าสงสารกว่า คดี 16 ศพ ที่ถูกยื่นตามความผิดประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 150 ขั้นตอนคืออัยการรับจากตำรวจ แล้วอัยการต้องยื่นต่อศาลอาญาภายใน 30 วัน ซึ่งครบรอบครั้งที่หนึ่งคือ 15 ม.ค. จากนั้นขอเลื่อนมาเป็น 16 ก.พ. และเลื่อนครั้งที่สอง ไปที่ 16 มี.ค. ระหว่างนี้ไม่มีใครรู้เลย ว่าอัยการได้ยื่นฟ้องต่อศาลแล้วประมาณ 2 คดี ตั้งแต่กลาง ก.พ. พอปลาย ก.พ.ก็มีนักการเมืองที่ชอบพูดไทยคำอังกฤษคำ ได้ควงอัยการท่านหนึ่งไปเจรจากับฝ่ายทหาร บอกว่าอย่ากังวล เตรียมไว้แล้วว่าผลจะออกมาว่าทหารไม่ผิด กระทำการเป็นไปตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งทหารก็เชื่อ
ปรากฏว่าความเชื่อดำเนินมาตั้งแต่ปลาย ก.พ. จนกระทั่งสัปดาห์ก่อน ร.ต.อ.เฉลิมแพลมออกมาว่าเดี๋ยวคอยดูวันที่ 12 มี.ค. ว่าอะไรเป็นอะไร พูดแบบนี้มันเป็นเชิงฟาดฟันฝ่ายตรงข้าม ก็ปรากฎว่าศาลนัดไต่สวนคดีนายชาญณรงค์ พลศรีลา ผู้ชุมนุมเสื้อแดงที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ก่อความไม่สงบ แต่ไม่ครบ 30 วัน ตามกฎหมายกำหนด ศาลจึงเลื่อนไปเป็นวันที่ 18 มิ.ย. ครั้งนี้ทำให้ทหารเริ่มรู้ว่ากระบวนการพิจารณาของศาลอาญาเป็นอย่างไร อีกคดีกำลังจะไต่ 19 มี.ค. และก่อน 16 มี.ค. อีก 14 คดี อัยการต้องตัดสินว่าจะยื่นทั้งหมดหรือไม่ สรุปคือไม้ขีดได้ถูกจุดทุกชนวนหมดแล้ว ปัญหาคือเขาเขียนว่าเจ้าหน้าที่รัฐไม่ผิดจริงหรือเปล่า
มันเป็นเกมที่จะกดทหารให้อยู่ในอำนาจ เพราะเมื่อเข้าสู่กระบวนการนี้แล้ว ก็เท่ากับถูกจับเป็นตัวประกัน เพื่อบีบให้เข้าร่วมในเกมปรองดอง ยอมรับนิรโทษกรรม รอจังหวะให้ทุกฝ่ายยอมกระบวนการดังกล่าวให้ได้