กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง ออกตัวแก้ข่าว “จตุพร” ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ ส.ส.หลังศาล รธน.ประทับรับฟ้องเป็นความคลาดเคลื่อน ต่างจากกรณีถูกใบเหลือง-แดงและศาลฎีกาฯ ได้รับคำร้องไว้แล้ว
วันนี้ (13 มี.ค.) นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวชี้แจงกรณีตนเองระบุ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย จะต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ส.ส.เมื่อศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องเมื่อวันที่ 8 มีนาคม เพื่อพิจารณาวินิจฉัยความเป็นสมาชิกภาพ ส.ส.ของนายจตุพร ว่า ยืนยันว่า ตนไม่ได้ให้สัมภาษณ์ในลักษณะดังกล่าว เพราะกรณีของนายจตุพร เป็นการวินิจฉัยในเรื่องความเป็นสมาชิกภาพตามรัฐธธรรมนูญ มาตรา 91 ซึ่งแตกต่างกับการให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) หรือสั่งให้เลือกตั้งใหม่ (ใบเหลือง) ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 239 ในกรณีเมื่อปรากฏว่า มีการเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ก็ให้ กกต.ให้ใบแดงและใบเหลือง ส.ส.ได้ และเมื่อศาลฎีกาได้รับคำร้องแล้วตามกฎหมายระบุให้ ส.ส.ที่ กกต.ให้ใบเหลืองหรือใบแดง จะต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ทันทีจนกว่าศาลจะยกคำร้อง
นางสดศรี กล่าวว่า กรณีของ นายจตุพร กกต.วินิจฉัยตามมาตรา 91 อีกทั้งมาตราดังกล่าว ไม่ได้บอกว่าเมื่อศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องแล้วจะต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ด้วย ดังนั้น เมื่อ กกต.ส่งเรื่องไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร และส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว นายจตุพร ก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ได้อยู่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย และหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า นายจตุพร พ้นจากสมาชิกภาพ ก็จะทำให้นายจตุพร สิ้นสุดความเป็น ส.ส.นับแต่วันที่ศาลมีคำวินิจฉัย แต่เมื่อกฎหมายไม่ได้ระบุไว้นายจตุพรก็ยังทำปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้
เมื่อถามถึงกรณี นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดินยื่นคำร้องขอให้ กกต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคเพื่อไทย ที่รับรอง นายจตุพร ลงสมัคร ส.ส.
นางสดศรี กล่าวว่า หากมีการยื่นคำร้องเข้ามายัง กกต.ก็อาจต้องตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาไต่สวนข้อเท็จจริง แต่ทั้งนี้ กรณีของ นายจตุพร กกต.เคยมีมติรับรองไปแล้วว่า นายจตุพร มีคุณสมบัติลงรับสมัครเลือกตั้งได้ ซึ่งหากมีการยื่นคำร้องเข้ามา กกต.ก็คงต้องดูข้อเท็จจริงและรายละเอียดก่อน เพราะกรณีนี้อาจคาบเกี่ยวกับเรื่องการเมือง