ทนายเพื่อไทย หวั่นคดี “ตุ๊ดตู่” พ่นพิษถลำลึกยุบพรรค ดิ้นหาช่องช่วยก่อนพ้นสภาพ ส.ส. ตั้งแง่ กกต.รู้ดีถูกคุมขัง แต่รับรองให้ลงสมัครเลือกตั้ง แสดงว่าคุณสมบัติถูกต้อง ด้าน “ไพจิต” เสียวสันหลัง โวยมีคนเดินแผนบันได 4 ขั้น สร้างอำนาจนอกระบบ ขู่ให้หยุดเดี๋ยวนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่รัฐสภา นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย ในฐานะทีมกฎหมายของพรรค กล่าวยืนยันว่า ทีมกฎหมายของพรรคเพื่อไทยจะหาทางช่วยเหลือนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย แกนนำ นปช.ในการต่อสู้คดี จะพยายามช่วยอย่างสุดความสามารถ หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้พ้นจากสมาชิกภาพการเป็น ส.ส.กรณีขาดคุณสมบัติในการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย แต่เรื่องนี้ต้องรอคำวินิจฉัยรวมอย่างเป็นทางการของ กกต.ออกมาก่อน เพราะทราบว่ายังไม่เสร็จกว่าส่งเรื่องมาถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร คงใกล้สิ้นเดือนธันวาคมนี้ และทราบว่ามี กกต.บางคนติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศด้วย เมื่อได้ทราบคำวินิจฉัยเป็นทางการก็จะรู้ชัดเจนว่ามีประเด็นอะไรบ้าง จะเกี่ยวกับข้อกฎหมายความผิดตามรัฐธรรมนูญ หรือ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ทั้งนี้ ก็มีข้อสังเกตว่า ที่ กกต.ระบุว่าขาดคุณสมบัติการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เพราะถูกคุมขังอยู่ อยากถาม กกต.ว่าแล้วทำไมในวันสมัครลงเลือกตั้งจึงรับรองให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ทั้งที่รู้ว่าถูกคุมขังและมีเวลาพิจารณาคุณสมบัติ ซึ่งเมื่อให้ลงสมัครได้ก็แสดงว่าเห็นว่าคุณสมบัติถูกต้อง ถ้าไม่ถูกต้องก็จะได้ไปต่อสู้ในเวลานั้น
ส่วนที่ประธานศาลรัฐธรรมนูญออกมาระบุว่านายจตุพรรู้ว่าผลวินิจฉัยจะออกมาเป็นอย่างไร ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เห็นเรื่องนั้น เป็นเพียงการให้ความคิดเห็นของนายจตุพรที่มีสิทธิ์คิดได้ ในเรื่องนี้ก็ขอให้พิจารณาโดยยึดตัวบทกฎหมาย และดูที่เจตนารมณ์ของกฎหมายด้วย ต้องอ่านกฎหมายหลายมาตรา อย่าดูแค่มาตราเดียว
เมื่อถามว่าในคดีดังกล่าวจะนำไปสู่การยุบพรรคเพื่อไทย นายพีรพันธุ์ตอบว่า เป็นแค่การคาดการณ์กันไป โดยเฉพาะกรณีการขาดคุณสมบัติของนายจตุพรก็จะพยายามโยงถึงเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ว่าแจ้งเท็จในการส่งลงรับสมัครเลือกตั้ง เป็นการพยายามหาช่องทางที่นำไปสู่การมีอำนาจรัฐไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญจนนำไปสู่การยุบพรรคได้
ด้าน นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวเสริมว่า ถึงวันนี้มีความพยายามจะดำเนินการให้มีการยุบพรรคหวังให้กลับมาจัดรัฐบาลใหม่อีกครั้ง ก็ขอให้คำนึงถึงความรู้สึกของประชาชนและความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ซึ่ง ส.ส.พรรคเพื่อไทยไม่ยอมทิ้งอุดมการณ์และเป็นเครื่องมือของใคร ขอให้ยุติการดำเนินการตามแผนบันได 4 ขั้น เพื่อสร้างอำนาจนอกระบบอย่างที่เคยกระทำมา และเชื่อว่าประชาชนจะไม่ยอมให้มีการใช้อำนาจไม่ชอบธรรมเกิดขึ้นอีก