xs
xsm
sm
md
lg

“เต้น” โบ้ยฝ่ายตรงข้ามพยาบาท ปิดทาง “นช.แม้ว” กลับบ้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ภาพจากแฟ้ม)
“ณัฐวุฒิ” ตีฝีปากป้ายสีฝ่ายตรงข้ามพยาบาท ปิดทาง “ทักษิณ” กลับบ้าน อ้างนายใหญ่ควรได้รับความเป็นธรรมในฐานะคนไทย เลี่ยงตอบจะกล้าพิสูจน์ตัวเองในชั้นศาลหรือไม่ โบ้ยถูกดำเนินคดีเพราะการปฏิวัติ ไม่อายปาก ยก“นช.แม้ว” เทียบ “ป๋วย-ปรีดี”


เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 มี.ค. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์กรณีจะใช้ พ.ร.บ.ปรองดอง เพื่อพา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่หลบหนีคดีกลับประเทศไทยว่า ในกรณีของกฎหมายสร้างความปรองดอง มีคนพูดอยู่ 2-3 กลุ่ม คือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กรรมาธิการฯ ปรองดองของรัฐสภา หรือกลุ่มอื่นๆ แต่ตนยังไม่ทราบรายละเอียดเนื้อหาสาระ หรือรายละเอียดของกฎหมาย ในเมื่อยังไม่ทราบจึงไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์เพราะเกรงว่าจะสร้างความสับสนให้สังคมมากขึ้นไปอีก ฉะนั้นจะรอดูหากมีการพูดรายละเอียดและเนื้อหาสาระก็จะแสดงความเห็น

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาในเดือน เม.ย.นี้ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ตนไม่ทราบในระยะเวลา แต่เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณควรได้รับโอกาสและความเป็นธรรมจากประเทศไทยในการกลับเข้ามา และท่านเป็นคนไทยคนหนึ่งที่กระบวนการยุติธรรมจะปฏิเสธ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ วันนี้คิดว่าสังคมไทยต้องหาคำตอบร่วมกันคือ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้รับความเป็นธรรมจากระบวนการรัฐประหารที่ผ่านมาใช่หรือไม่ และหาก พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการดังกล่าว สังคมไทยวันนี้ควรคืนความยุติธรรมให้ทักษิณใช่หรือไม่ ตนเห็นว่าหากบ้านเมืองมีนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่มิอาจได้รับความเป็นธรรม มันจะไม่มีหลักเลยว่าประชาชนคนอื่นจะมีโอกาสเข้าถึงความยุติธรรมในประเทศ ตรงนี้ต่างหากที่เป็นสาระสำคัญเป็นสิ่งที่เราต้องพูดกัน ส่วนทักษิณจะได้กลับบ้านเมื่อไหร่ ส่วนตัวก็อยากให้ท่านกลับมา เป็นแต่เพียงแต่ว่าสถานการณ์เงื่อนไขเวลา เป็นเรื่องที่ตัวท่านจะพิจารณาว่าเมื่อไหร่อย่างไร คิดว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้ตั้งข้อรังเกียจหรือความเป็นปฏิปักษ์กับทักษิณอยู่แล้ว ตรงกันข้ามก็รอคอยทักษิณกลับมายังประเทศไทยเช่นเดียวกันอย่างที่บอกทุกอย่างขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ เหตุผลและสถานการณ์ในเวลานั้นด้วย

เมื่อถามว่าทักษิณควรจะกลับถูกดำเนินคดีตามขั้นตอนก่อนหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ในบริบทนั้น พ.ต.ท.ทักษิณควรได้รับการพิสูจน์ตัวเองในกระบวนยุติธรรมที่เป็นประชาธิปไตยปกติ นี่เป็นหลักการพื้นฐาน อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การเมืองจะเอาความเห็นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพียงลำพังไม่ได้ ก็คงต้องรอกระบวนการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ และมันเกี่ยวเนื่องกับสถานการณ์ความขัดแย้งของประเทศไทยมาโดยตลอดในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา คงจะไปแยก พ.ต.ท.ทักษิณออกจากการคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมืองคงไม่ได้ เพราะถือเป็นตัวละครหลักสำคัญที่สุดตัวละครหนึ่งในสถานการณ์นี้ และเวลานี้มีบางคนบางฝ่ายที่พยายามอธิบายว่าความขัดแย้งทางการเมืองกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนละเรื่องกัน แต่ความเห็นตนทั้งหมดเป็นเรื่องเดียวกัน และเมื่อทั้งหมดเป็นเรื่องเดียวกัน การจะพิจารณากรณีดังกล่าวก็น่าจะมองในภาพรวมพร้อมๆ กันด้วย

นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า การให้ความยุติธรรมกับคนใดคนหนึ่งไม่น่าจะมีกระบวนการสกัดขัดขวาง ยกเว้นว่ากระบวนการเหล่านั้นพร้อมที่จะสร้างประเด็นต่อต้านกลุ่มเคลื่อนไหว หรือการดำเนินของฝ่ายตรงข้ามอยู่ตลอดเวลา นั่นก็เรื่องหนึ่ง การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ตนก็เคารพและยืนยันว่าทำได้ภายใต้รัฐบาลชุดนี้ การจัดชุมนุมแสดงออกทางการเมืองโดยสันติวิธีที่ไหนอย่างไรเป็นสิทธิเสรีภาพ

เมื่อถามว่า การรีบนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณกลับจะทำให้อายุรัฐบาลสั้นลงหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณประเด็นหลักไม่อยู่ที่เงื่อนไขเวลา แต่อยู่ที่สถานการณ์การเมืองในภาพรวมมากกว่า และยืนยันว่าตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ถูกกระทำอย่างร้ายแรงที่สุดคนหนึ่งในหลายๆ ที่เป็นผู้ถูกกระทำและได้รับความเสียหายใน 6 ปีแห่งความขัดแย้งที่ผ่านมา แต่วันนี้ก็บอกว่าทุกคนต้องได้รับความเป็นธรรม แต่การกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ออกนอกวงของความเป็นธรรมนี้ตนไม่เห็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องคิดกันเช่นนั้น นอกจากว่าเป็นความคิดเห็นของฝ่ายตรงข้ามที่ปฏิเสธ การดำรงอยู่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเองเท่านั้นเอง ส่วนใครจะเป็นเจ้าภาพในเรื่องนี้ ตนคิดว่าหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเขากำลังพูดคุยกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นกรรมาธิการฝ่ายสภา คอป.เราคงไม่ได้แยกว่าเรื่องของการสร้างความปรองดองเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง มันแยกอย่างนั้นไม่ได้ เพราะสถานการณ์ใหญ่เป็นเรื่องเดียวกัน ฉะนั้นกระบวนการค้นหาข้อเท็จจริง การสร้างความปรองดองก็ย่อมประเด็นของ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นองค์ประกอบในการคิดหรือพูดคุยกัน เหมือนกับความเสียหายของเสื้อแดง เสื้อเหลือง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร หรือผู้ประกอบการต่างๆ จะต้องเป็นองค์ประกอบในการพิจารณาทั้งสิ้น

เมื่อถามว่าจะบอกได้หรือไม่ว่ารัฐบาลชุดนี้จะนำ พ.ต.ท.ทักษิณกลับบ้านเหมือนที่หาเสียงไว้ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า คงสรุปอย่างนั้นไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องใหญ่ หากรัฐบาลจะดำเนินการสิ่งใดต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ด้านหลักของประเทศ ถ้าเราเข้าใจสถานการณ์ตรงกันเรื่องนี้จะไม่เป็นประเด็นความขัดแย้งเลย แต่มีการอธิบายแยกส่วน ปรองดองต้องทำ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับบ้านไม่ได้ ทั้งที่เป็นเรื่องเดียวกัน จะแก้ปัญหาต้องบูรณาการในภาพรวมคิดแยกส่วนไม่ได้ เราต้องเปิดใจกว้าง มีคนบางกลุ่มพยายามบอกว่าต้องปิดทาง พ.ต.ท.ทักษิณทุกกรณี ตนไม่อยากให้คิดอย่างนั้น เราต้องพยายามเปิดบ้านเมืองทุกทางเพื่อให้ออกจากความขัดแย้ง

เมื่อถามว่ามีการระบุว่าก้าวไม่พ้น พ.ต.ท.ทักษิณ เรื่องปรองดองก็ไม่จบ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า บางกลุ่มพยายามทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นสุดยอดจักรวาลชีวิต มีอะไรก็ทักษิณ ทั้งๆ ที่เรื่องนี้เป็นเรื่องของประเทศไทย หากเราไม่ช่วยกันแก้ไขสถานการณ์อาจวิกฤตบานปลาย หลายประเทศในโลกเคยบาดหมางรุนแรงกว่านี้ มีเรื่องเชื้อชาติ ศาสนา เป็นเรื่องละเอียดอ่อนกว่านี้ เขายังหาทางปรองดองกันได้ เพราะทุกคนเปิดใจกว้าง เดินจับมือข้ามความขัดแย้งด้วยกัน แต่ของเรามีความขัดแย้งทางการเมืองเป็นหลัก เป็นเรื่องผลประโยชน์ทางการเมืองเป็นหลัก บางฝ่ายจึงไม่ยอมเปิดใจกว้าง แล้วหาหนทางให้กลับประเทศมากกว่าการปิดหนทางกับคนที่ตนเองคิดว่าเป็นปฏิปักษ์ทางการเมืองเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะให้ พ.ต.ท.ทักษิณมาพิสูจน์ตัวที่ชั้นศาลหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ต้องเข้าใจกระบวนการก่อนว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคดีความที่เกิดขึ้นโดยอำนาจของคณะปฏิวัติ และคณะปฏิวัติก็ตั้ง คตส.มาทำหน้าที่พนักงานสอบสวนและ คตส.หลายคน สื่อเองก็ทราบบทบาททางการเมืองเป็นปฏิปักษ์อย่างชัดแจ้ง และจนถึงปัจจุบันยังแสดงความเป็นปฏิปักษ์ชัดเจนกับ พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ ฉะนั้นกระบวนการยุติธรรมแบบนั้นเป็นปัญหา

นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า 1 ใน 4 เหตุผลที่ คมช.ยึดอำนาจในขณะนั้นคือ พ.ต.ท.ทักษิณทุจริตคอร์รัปชั่นก็ตั้ง คตส.ขึ้นมาตรวจสอบว่าทุจริตจริงหรือไม่ ซึ่ง คตส.ต้องมีหน้าที่ชี้ว่าทุจริตหรือไม่ ถ้าชี้ว่าสุจริตเหตุผลในการยึดอำนาจก็ตกไป เท่ากับทำลายความชอบธรรมในการยึดอำนาจ ฉะนั้นจึงเห็นได้ว่าเมื่อ คมช.ยึดอำนาจแล้ว ก็มีผู้รับเหมาแบ่งงานกันทำ รับเหมาร่างรัฐธรรมนูญ รับเหมาจัดการ พ.ต.ท.ทักษิณก็ทำ รับเหมาในการวางแผนสืบทอดอำนาจก็ว่ากันไป เขาจึงเรียกว่ามีผู้รับเหมาทำบันได 4 ขั้นให้กับ คมช.ในเวลานั้น ฉะนั้น สถานการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เกิดขึ้นจากตรงนั้น แตกต่างจากกระบวนการยุติธรรมโดยปกติ แล้วเราจะยอมให้กลไกระบอบเผด็จการมาสร้างสิ่งที่ล้ำค่าในประวัติศาสตร์ทางการเมือง แล้วต้องปกปักรักษาไว้ หรือจะทำให้ทุกสิ่งที่ระบอบเผด็จการสร้างถูกคลี่คลายสลายลงด้วยประชาธิปไตยและให้บ้านเมืองเดินหน้าไปต่อ ตนเชื่อว่าประชาชนมีวิจารณญาณ แต่บางฝ่ายไม่มีอะไรนอกจากวิญญาณพยาบาทเท่านั้นเอง เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมต่อสู้ในการกระบวนการยุติ หากบ้านเมืองกลับสู่ประชาธิปไตย และให้ความเชื่อมั่นว่าต้องได้รับความเป็นธรรมเหมือนคนไทยได้รับ

นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า ตนเชื่อมั่นสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณต้องการคืออยากเห็นบ้านเมืองกลับไปสู่ประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ คลี่คลายความขัดแย้ง แน่นอนความเจ็บปวดต้องมี ท่านเป็นมนุษย์ ต้องการกลับบ้าน กลับสู่ประเทศไทย เป็นเรื่องปกติ แต่เบื้องลึกของหัวใจเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ดำรงภายใต้จุดยืนที่เรียนมา ตัว พ.ต.ท.ทักษิณเองจะพิจารณาสถานการณ์ถึงจะได้มีโอกาสกลับมา เราเคยมีคนที่เจ็บปวดทางการเมืองมาแล้ว คือ นายปรีดี พนมยงค์ นายป๋วย อึ้งภากรณ์ วันที่ท่านเหล่านั้นต้องลาลับในช่วงที่ใช้ชีวิตต่างแดน หลังจากนั้นหลายสิบปี ลูกหลานก็มายกย่อง วันนี้สถานการณ์ตนคิดว่าเราไม่ควรปล่อยให้เป็นอย่างนั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น