“ศรีสุข-ประจิตต์” งานเข้าส่อพ้น ส.ว. เหตุไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง

เปิด 2 ส.ว. “ศรีสุข-ประจิตต์” ส่อหลุดเก้าอี้เพิ่มเหตุไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เผยแจ้งคณะ กก.สรรหาแล้วว่าทั้งคู่ขาดคุณสมบัติ แต่ไม่รู้ยังโผล่เข้ามาได้ไง ด้าน กกต.หวั่นเจอเล่นงานฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ตั้ง คกก.สอบข้อเท็จจริงเช็คหมด 73 ราย คาดแล้วเสร็จใน 15 วัน

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการพิจารณาคำร้องคัดค้านการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีการพิจารณาสำนวนร้องคัดค้าน ส.ว.สรรหารวม 7 สำนวน โดยเป็นสำนวนที่นายเรืองไกร และพวกร้องคัดค้าน 4 สำนวน แยกเป็น 1. ร้องคัดค้านผู้ได้รับการสรรหาเป็น ส.ว. 32 ราย 2. ร้องคัดค้านผู้ได้รับการสรรหาเป็น ส.ว. 37 ราย 3. ร้องคัดค้านผู้ได้รับการสรรหาเป็น ส.ว. 15 องค์กร และ 4. ร้องคัดค้านกรณี พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม และ พล.อ.เลิศฤทธิ์ เวชสรรค์ ส่วนอีก 3 สำนวน แยกเป็น กรณีนายสุวันชัย แสงสุขเอี่ยม กับพวกรวม 3 คนคัดค้านการสรรหา ส.ว.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีนายประสิทธิ์ จันทร์ประทีปฉาย และนายเกรียง วิศิษฎ์สรอรรถ ร้องคัดค้านผู้ได้รับการสรรหาเป็น ส.ว.จำนวน 49 ราย และกรณีนายประมุท สูตะบุตร ร้องคัดค้านคณะกรรมการสรรหา ส.ว. โดยทุกสำนวน กกต.มีมติให้ยกคำร้องทั้งหมด ยกเว้นรายของนายสัก กอแสงเรือง ที่ กกต.มีมติให้เพิกถอนสิทธิการสรรหา

อย่างไรก็ตาม ในการประชุม กกต.ดังกล่าว กกต.ยังได้มีการพิจารณากรณีที่มีร้องเข้ามาว่า นายศรีสุข รุ่งวิสัย ส.ว.สรรหา ขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา เนื่องจากไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งในการสอบสวนมีหลักฐานเป็นหนังสือที่นายศรีสุขมีถึงนายทะเบียนอำเภอใน จ.นนทุบรี แจ้งเหตุแห่งการไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งมาแสดง แต่ทาง กกต.ก็เห็นว่าในหลักปฏิบัติของการแจ้งเหตุแห่งการไม่ไปใช้สิทธินั้นสามารถให้บุคคลอื่นไปแจ้งแทนได้ รวมทั้งจำเป็นต้องมีการตรวจสอบว่าการแจ้งเหตุฯ ดังกล่าวอยู่ในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ประกอบกับเห็นว่า กฎหมายให้อำนาจ กกต.ในกรณีที่ความปรากฏต่อ กกต.ได้โดยไม่จำเป็นที่จะต้องมีผู้ร้อง ซึ่งขณะนี้ใกล้จะครบกำหนดระยะเวลา 1 ปี ที่สามารถร้องคัดค้านการสรรหา ส.ว.ได้ คือในวันที่ 12 เม.ย. จึงเห็นว่าเพื่อให้เกิดความรอบคอบในการพิจารณา และไม่เกิดปัญหากรณีความปรากฏในภายหลังกำหนดระยะเวลา 1 ปี ที่อาจทำให้ กกต.ถูกดำเนินการฐานะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้ จึงมีมติตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งก่อนระยะเวลายื่นลงทะเบียนเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็น ส.ว. หรือกรณีวันที่ 25 ก.พ.54 เพื่อตรวจสอบการใช้สิทธิเลือกตั้งของนายศรีสุข และ ส.ว.สรรหาอีก 72 คน โดยมีนายสมชาติ เจศรีชัย รองเลขาธิการด้านบริหารทั่วไป เป็นประธาน โดยดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 15 วันนับแต่วันได้รับคำสั่งแต่งตั้ง

ทั้งนี้รายงานแจ้งว่า กรณีนายศรีสุข ทางอนุกรรมการตรวจสอบประวัติผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นสมาชิกวุฒิสภา ได้เคยทำความเห็นเสนอไปยังคณะกรรมการสรรหาในขณะนั้นแล้วว่ามีปัญหาไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยเสนอไปพร้อมกับนายประจิตต์ โรจนพฤกษ์ ที่ปัจจุบันก็ได้รับการสรรหาเป็น ส.ว.ในสัดส่วนภาครัฐ แต่ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเหตุใดจึงยังได้รับการสรรหาเข้ามา