อดีต คมช.ซัด “เพื่อไทย” กุข่าวขบวนการล้มรัฐบาล ย้อนถามใครจะเอา 3 พันล้านมาจากไหน อัดพฤติกรรมมิชอบ ไม่ฟังเสียงสะท้อนประชาชน จะทำรัฐบาลพังเอง เตือนเอาเงินภาษีเยียวยาพวกพ้องชนวนนำสู่การชุมนุมแบบล้มล้าง เชื่อหักมุมค้านนิติราษฎร์แค่คุมเกมให้เดินหน้าแก้ รธน.ได้
วันนี้ (30 ม.ค.) พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา และอดีตหัวหน้าคณะสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกระบุว่ามีขบวนการจ้องล้มรัฐบาลนั้น ตนพูดมาหลายครั้งแล้วว่ามันไม่มีใครไปล้มรัฐบาลได้ นอกจากตัวรัฐบาลเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการประพฤติมิชอบ การคอร์รัปชัน การดำเนินนโยบายโดยไม่คำนึงถึงเสียงสะท้อนของประชาชน และที่ระบุว่า มีการใช้เงิน 3 พันล้านบาทล้มรัฐบาล อยากถามว่าจะไปเอามากขนาดนี้มาจากไหน เงินมากขณะนี้ก็มีแต่นักการเมืองเท่านั้นที่มี หากมองว่ามีกลุ่มล้มรัฐบาลจริง อย่าว่าแต่ 3 พันล้านบาทเลย แม้แต่ล้านเดียวก็คงไม่มี ยังจะกุเรื่องขึ้นมาอีก หรือเกิดปัญหาอะไรในพรรค เป็นเกมเพื่อกลบการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือเปล่า
อย่างประเด็นการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงก็เช่นกัน ก็สะเทือนใจกับผู้เสียภาษี เพราะเป็นการเอาภาษีมาดูแลพรรคพวกตัวเอง เป็นการทำประกันชีวิตล่วงหน้า เท่ากับเป็นบัตรเชิญให้ผู้ชุมนุมไม่ว่าจะเป็นฝั่งรัฐบาลหรือฝ่ายตรงข้ามที่ต่อไปเมื่อมาชุมนุม ก็จะช่วยกันชุมนุมเพื่อให้เกิดการล้มล้างกันเลย เพราะถ้ามาชุมนุมก็จะได้บำเหน็จ 7.75 ล้านบาท
พล.อ.สมเจตน์กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือแม้แต่การที่พรรคเพื่อไทยพยายามยืนยันไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 ตามข้อเสนอนิติราษฎร์นั้น เกมการเมืองพรรคเพื่อไทยสูงต้องมองหลายส่วน ที่ผ่านมาเราเองจะเห็นว่ารัฐบาลไม่เคยแสดงท่าทีที่ชัดเจนถึงเรื่องนี้เลยแต่แรก โดดเดี่ยวนิติราษฎร เพราะถ้าไม่เห็นด้วยจริงก็ต้องดาหน้าออกมาคัดค้านแต่แรก เป็นเรื่องที่น่าผิดสังเกตอยู่ ซึ่งคนคัดค้านตั้งแต่ต้น ก็เห็นจะมีแต่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีคนเดียวเท่านั้นที่ออกมาพูดชัดเจนว่าไม่แก้มาตรา 112 ขณะที่เวลานั้นคนอื่นไม่พูดเลย ซึ่งก็รู้สึกแปลกใจ ดังนั้น เชื่อว่าการที่เป็นพรรคเพื่อไทยพยายามออกมายืนยันไม่แก้ไขมาตรา 112 ก็เป็นเกมที่จะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะอย่าลืมว่าพรรคเพื่อไทยมีเสียงข้างมากในสภา