ปู กระชากค่าครองชีพอีกแล้ว ค้า !!

เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด

00 หลังจากถูกสื่อต่างประเทศอย่าง วอลสตรีท เจอร์นัล ออกมาแฉว่า นายกฯปู ยิ่งลักษณ์ ก้มหน้าก้มตาอ่านโพยภาษาไทย 7 นาทีให้นักลงทุนญี่ปุ่นฟังแล้วสะบัดก้นเดินจากไปท่ามกลางความมึนงง เพราะไม่มีคำแปลให้อ่าน อีกทั้งไม่ยอมตอบข้อซักถาม ก็ได้แต่หวังว่าคนพวกนั้นไม่ถือสา ยังเชื่อมั่นอดทนลงทุนในไทยกันต่อไป ประเภทไหนๆก็ไหนๆแล้วประมาณนั้น แต่ความหมายอีกด้านหนึ่งก็คือ เรื่องตลกขบขันประเภท “โชว์โง่” ต่อไปไม่ได้รับรู้ในวงจำกัดเฉพาะคนไทยเท่านั้น แต่จะขยายวงกว้างออกไปแบบ “โง่อินเตอร์” แล้ว เนื่องจากสื่อต่างประเทศได้นำไปเผยแพร่โปรโมทให้ทราบแล้ว ไชยโย !!

00 ตั้งแต่วานนี้( 12 มี.ค.) เป็นต้นไปก็ต้องขอแสดงความยินดีอีกครั้งกับ 15 ล้านเสียงที่เลือกนายกรัฐมนตรีฉลาดเข้ามารวมทั้งคนไทยทั้งมวล เพราะล่าสุด ได้มีการปรับขึ้นราคาน้ำมันขายปลีกไปอีก ลิตรละ 60 ส.ต.ทั้งเบนซินและดีเซล ขณะที่ อี 85 ปรับขึ้นอีกลิตรละ 50 ส.ต. สรุปก็คือเวลานี้น้ำมันเบนซิน 91 ราคาลิตรละ 41.51 บาท ดีเซล ลิตรละ 32.33 บาท ขณะที่แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 38.48 บาท แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 40.23 บาท อี 20 ลิตรละ 37.18 บาท อี 85 ลิตรละ 23.98 บาท ซึ่งการปรับขึ้นราคาน้ำมันดังกล่าว เป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบเดือน มี.ค.2555 หลังจากที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องมาก่อนหน้านี้ถึง 10 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. จนครั้งล่าสุดวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยการปรับราคาครั้งนี้ ทำให้แก๊สโซฮอล์ 95 ขยับขึ้นทะลุลิตรละ 40.23 บาท ขณะที่ดีเซลทะลุลิตรละ 32.33 บาท

00 ทำให้เวลานี้ไม่ว่าจะเป็นคนเสื้อแดง หรือเสื้อไหนก็ตามกว่าเดินทางมาถึงปากซอย ออกจากหมู่บ้านมาถึงถนนใหญ่ ก็ต้องเจอกับการปรับราคาค่าโดยสารของรถจักรยานยนต์รับจ้าง รถสองแถวราคาใหม่เพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 1-2 บาท เรียบร้อยแล้ว ทีนี้ “น้องปู” ลองเดาสิคะว่าราคาสินค้า ราคาข้าวสารทั้งที่บรรจุถุงหรือไม่ขึ้นราคาไปเท่าไหร่แล้ว เพราะเมื่อราคาน้ำมัน ก๊าซปรับเพิ่มขึ้นทุกอย่างมันก็พาเหรดขึ้นตาม นี่หรือคือวิธีการ “กระชากค่าครองชีพ” ลงมา ทีหลังถ้าจะอ้างเรื่องแก้รธน.อย่าอ้างเรื่องประชาธิปไตยเป็นอันขาด แต่น่าจะอ้างเรื่อง รธน.ทำของแพง หรือ สติปัญญาของผู้นำต่ำต้อยต้องแก้ไข รธน. นั่นอาจสมเหตุสมผลกว่า ทุด อ้อ ที่พูดนี่ประชดนะเดี๋ยวทำจริงอีก !!

00 ข่าวร้ายครั้งใหญ่ที่กำลังตามมาในอนาคตอันไม่ไกลนักก็คือ การประกาศลอยตัวราคาก๊าซหุงต้มของ รมว.พลังงาน อารักษ์ ชลธาร์นนท์ ที่เปรียบเหมือนเด็กในบ้าน ทักษิณ รวมไปถึงการยกเลิกกองทุนน้ำมัน และมีแนวโน้มที่จะแปรรูป ปตท.ให้พ้นจากความเป็นรัฐวิสาหกิจ อ้างว่าเพื่อความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ แน่นอนแบบไม่ต้องคิดมากก็คือ ต่อไปนี้ผู้ถือหุ้น ปตท.ที่เป็น “อีแอบ” รวยกันพุงปลิ้น นาทีนี้สงสารก็แต่พวก “รากหญ้า” ที่หน้าดำลงทุกวัน โดยเฉพาะพวกคนเสื้อแดงที่ไม่มีสิทธิ์ได้เงินเยียวยา แต่ต้องบริโภคของแพง ขณะที่รายได้หด ครั้นจะด่ารัฐบาลทักษิณ คิดเพื่อไทยทำก็ “น้ำท่วมปาก” พูดไม่ออก เพราะ “ถลำลึก” กู่ไม่กลับ ก็ขอให้โชคดี

00 เรื่องค่าครองชีพ ข้าวของแพงนี่แหละที่เป็นเครื่องพิสูจน์สำคัญว่าฝีมือของ สองพี่น้องว่าเจ๋งแค่ไหน หากไม่สามารถบริหารจัดการเรื่องโครงสร้างพลังงานได้อย่างสมดุล ถ้าราคาน้ำมันยังปรับเพิ่มขึ้นไปหยุดแบบนี้ บรรดาสินค้าอุปโภคบริโภคก็พุ่งขึ้นไปตามไปด้วย ขณะที่น้ำยาของ รมว.พาณิชย์ บุญทรง เตริยาภิรมย์ ในการควบคุมราคามีอยู่แค่นี้ และอีกไม่กี่วันยังมีปัญหาว่างงาน การเลิกจ้างจะเริ่มปรากฏให้เห็นเรื่อยๆประดังเข้ามา ยิ่งกำลังเข้าหน้าแล้ง จ่อด้วยหน้าฝนก็ต้องลุ้นว่าน้ำจะท่วมอีก โอ้ย จะบ้าแล้ววุ้ย !!