โฆษกประจำตักนายกฯ อ้างเฉย “ยิ่งลักษณ์” ไม่เคยปล่อยไก่เพราะอ่อนด้อยภาษาอังกฤษ เผยการปาฐกถาหอการค้าญี่ปุ่นเป็นภาษาไทยเพราะได้ตกลงกันไว้ล่วงหน้า แต่ “ปู” สั่งตรวจสอบมีความผิดพลาดเรื่องการประสานงานหรือไม่
วันนี้ (9 มี.ค.) นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ โฆษกประจำตัวนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่หนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ใช้ภาษาไทยในการแสดงปาฐกถาหอกาค้าญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมาโดยไม่ใช้ภาษาอังกฤษและไม่มีล่ามแปลภาษา เพียงแต่แจกเอกสารเป็นภาษาอังกฤษว่า ขอชี้แจงกรณีนี้หลังมีกระแสวิจารณ์ว่า ตนตรวจสอบไปยังญี่ปุ่น ทีมงานนายกฯ และกระทรวงการต่างประเทศแล้วว่า งานนี้เป็นการจัดขึ้นระหว่างหอการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่นร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ แต่มีเวลาจำกัด รูปแบบการเปิดงานนั้นเป็นการเปิดสัมมนาระหว่างนักธุรกิจไทยและญี่ปุ่น โดยมีตัวแทนของหอการค้าฯ ญี่ปุ่นกล่าวก่อน 7 นาทีที่พูดภาษาญี่ปุ่นแล้วแจกคำแปลเป็นภาษาอังกฤษ จากนั้นนายกฯ กล่าวอีก 7 นาที โดยกล่าวเป็นภาษาไทยและแจกคำแปลเป็นภาษาอังกฤษและญี่ปุ่น เรื่องนี้มันเป็นข้อตกลงของสองเจ้าภาพ
นายสุรนันทน์กล่าวว่า การแจกคำแปลนั้นแจกตั้งแต่ผู้เข้าร่วมสัมมนาลงทะเบียนและเป็นระเบียบปฏิบัติที่หอการค้าฯดำเนินการเป็นประจำในกรณีที่มีเวลาจำกัด ฉะนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้โดนวิจารณ์ว่าพูดภาษาอังกฤษไม่ได้และเหตุใดไม่มีการแปลภาษา เรื่องนี้มีการยืนยันจากญี่ปุ่นแล้วว่ามีคำแปลและดำเนินการตามที่ตกลงไว้กับเจ้าภาพ ทั้งนี้อาจเป็นไปได้ว่าสื่อต่างประเทศบางฉบับที่เสนอข่าวนี้ กระทรวงการต่างประเทศจะส่งจดหมายไปชี้แจงว่ากระบวนการเป็นอย่างไร และยืนยันว่าได้ทำหน้าที่ครบถ้วนในการแจกจ่าย หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ต้องชี้แจง
“เรื่องนี้ไม่มีอะไรและทำกันตามข้อตกลงที่มีมา การสัมมนานั้นประสบความสำเร็จเพราะผู้เข้าร่วมสัมมนามีการเจรจาหารือกัน ทั้งสองฝ่ายก็ดำเนินกิจกรรมต่อไป วันนั้นและวันต่อๆ มานายกฯ มีหลายภารกิจ ฉะนั้นการดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอนที่ตกลงไว้”
นายสรุนันทน์กล่าวว่า ในญี่ปุ่นนั้นส่วนหนึ่งตัวแทนไทยจะกล่าวเป็นภาษาไทยและญี่ปุ่น ล่ามก็จะแปลสองภาษา และชาวญี่ปุ่นนั้นส่วนใหญ่ไม่พูดภาษาอังกฤษ ฉะนั้นการพูดภาษาไทยที่นอกจากแสดงเอกลักษณ์ไทย มันก็ยังไม่แตกต่างจากการพูดภาษาอังกฤษ ยืนยันเป็นข้อตกลงเพราะฝ่ายนั้นพูดภาษาญี่ปุ่น นายกฯ จึงพูดภาษาไทย หากมีข้อตกลงว่าต้องพูดภาษาอังกฤษคงต้องกระทำตามนั้น แต่ข้อตกลงดังกล่าวเป็นแบบนั้นจึงไม่มีอะไรที่คิดว่านายกฯพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เพราะคำแปลก็มีอยู่ในเอกสารแล้วครบถ้วน
ผู้สื่อข่าวถามว่าข้อตกลงดังกล่าวระบุไว้หรือไม่ว่าจะเป็นการกล่าวเปิดสัมมนาอย่างเดียวหรือเปิดให้มีการสอบถามได้ นายสุรนันทน์กล่าวว่า เป็นการกล่าวเปิดสัมมนาอย่างเดียว เหมือนการกล่าวต้อนรับและเปิดสัมมนา ไม่มีอย่างอื่น และไมมีการแถลงข่าว เมื่อถามว่า กรณีนี้เกิดข้อบกพร่องของฝ่ายประสานงานและอาจเข้าใจกันผิด นายสุรนันทน์กล่าวว่า ตอนนี้มีการไล่เรียงขั้นตอนกัน นายกฯ สั่งการแล้วว่าต้องไม่ให้เกิดความผิดพลาดและเข้าใจผิดเช่นนี้อีก กระทรวงการต่างประเทศได้รับนโยบายนี้ไปแล้ว และอย่าไปมองกันเลยว่ากรณีนี้เป็นความผิดของใคร ตนคิดว่าเป็นข้อตกลงที่เกิดขึ้นโดยแต่ละฝ่ายมีเจตนาที่ดีที่ต้องการให้งานนี้ที่มีเวลาจำกัด รวมทั้งเป็นการเปิดสัมมนาปกติที่ต้องการให้เอกชนมีเวลาหารือมากขึ้นกว่าการนั่งฟังการพูดแล้วแปลกันไปมา จึงมีการประหยัดเวลาคือพูดภาษาหนึ่งแล้วมีคำแปลออกมาเป็นเอกสาร
ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อเป็นแบบนี้นายกฯจะโดนโจมตีเรื่องคำพูดในการสื่อสารเช่นเคย นายสุรนันทน์กล่าวว่า ขอความเห็นใจเพราะนายกฯไปญี่ปุ่นก็เหนื่อยเพราะภารกิจค่อนข้างแน่น พบนักการเมือง นักธุรกิจ และอื่นๆ แบบต่อเนื่อง การที่นายกฯ เดินทางไปด้วยความตั้งใจดีและสิ่งที่สื่อสารออกไปกับผู้ร่วมเจรจาและผู้ร่วมสัมมนานั้นตนติดตามแล้วพบว่าได้ผลดีเลิศ เพราะการหารือต่างๆ มีการนำเสนอข่าวครบถ้วน นายกฯอยากให้การสื่อสารเข้าใจจริงๆ แต่หากมีข้อบกพร่องในการปฏิบัติก็กำชับฝ่ายปฏิบัติไปแล้วว่าให้เกิดความเข้าใจที่ดีและขั้นตอนต้องไม่บกพร่องและมีช่องโหว่
ส่วนที่สื่อต่างประเทศเสนอข่าวนี้ขึ้นนั้นมีเบื้องหลังใดๆหรือไม่ นายสรุนันทน์กล่าวว่า ไม่อยากมองแบบนั้นเพราะบางครั้งอาจเกิดช่องโหว่ขึ้นได้ บางครั้งเวลาไปร่วมงานแล้วไม่ได้คำแปลหรือได้รับเอกสารมาทั้งหมดในช่วงลงทะเบียนแต่อาจไม่ทราบว่าในนั้นมีอะไรและอาจเห็นหรือไม่เห็นบ้าง ตนคิดว่าอย่าไปตำหนิใครเป็นพิเศษเลยเพียงแต่มีช่องโหว่ตรงนี้ กระทรวงการต่างประเทศก็กำลังส่งจดหมายไปชี้แจง
เมื่อถามว่าเหตุที่มาชี้แจงนั้นเป็นเพราะนายกฯมีจุดอ่อนด้านการใช้ภาษาอังกฤษและการสื่อสาร นายสุรนันทน์กล่าวว่า ไม่มี เวทีต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศจะพบว่านายกฯพูดภาษาอังกฤษและสื่อสารทำความเข้าใจได้ จึงไม่มีปัญหาตรงนี้ นายกฯ ไม่มีปัญหาการพูดภาษาไทยและอังกฤษ และแน่นอนว่านายกฯไม่ได้พูดภาษาญี่ปุ่น ฉะนั้นตรงนี้ไม่ได้เป็นข้อบกพร่องของนายกฯ แต่การประสานงานอาจมีช่องโหว่บ้างจึงต้องทำความเข้าใจกัน
ต่อข้อถามว่านายกฯ ปล่อยไก่บ่อยมากเพราะนายกฯ มักมีข้อผิดพลาดแบบนี้บ่อยๆ นายสุรนันทน์กล่าวว่า “ยังไม่เห็นไก่ ไก่วิ่งที่ไหน ไม่มี ยืนยันว่านายกฯ มีเจตนาที่ดีที่ทำงานเพื่อประเทศ สิ่งที่ทำในทุกวันนี้นายกฯ พยายามสื่อสารทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายในการทำงานนั้นแน่นอนว่าการทำงานอาจเกิดข้อบกพร่องและเข้าใจผิดกันได้บ้างไม่ว่าในระดับใดก็ตาม ขอความเห็นใจให้นายกฯ ด้วย เพราะนายกฯ ทำงานเพื่อประเทศเต็มที่”
เมื่อถามว่าการออกมาชี้แจงในช่วงนี้จะทันต่อเหตุการณ์หรือไม่ เพราะเทคโนโลยีการสื่อสารวันนี้รวดเร็ว นายสุรนันทน์กล่าวว่า ต้องพึ่งสื่อไทยในวันนี้ที่ให้โอกาสและช่วยกันเผยแพร่ มันเป็นเรื่องของประเทศไทย กระบวนการนี้ในญี่ปุ่นนั้นกระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่าหอการค้าฯ จะทำจดหมายชี้แจงเรื่องนี้ด้วยจึงไม่น่ามีปัญหา
ส่วนการจัดรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชนในช่วงเช้าวันที่ 10 มี.ค.นั้น นายสุรนันทน์กล่าวว่า มีการบันทึกเทปรายการไว้แล้วโดยจะให้นางนลินี ทวีสิน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ มาออกรายการแทน ส่วนการแถลงข่าวหลังกลับมาจากญี่ปุ่นนั้น คงต้องดูอีกครั้งว่านายกฯ จะแถลงข่าวเมื่อใด