ส.ส.ระยอง ประชาธิปัตย์ เผยศาลปกครองเมินไต่สวนฉุกเฉินเยียวยาแดง อ้างยังมีขั้นตอนจ่ายอีกเยอะ แต่ขอดูมติ ครม.ก่อน ยันไม่เอาเอาเท้าราน้ำ อ้างฟ้องแทนผู้เสียภาษี ชี้ต้องแยกผู้บริสุทธิ์ออกจากพวกร่วมม็อบ แฉแกนนำเมินช่วยเหลือ แนะ “ทักษิณ” ควรจ่ายเอง
วันนี้ (9 มี.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณีการยื่นคำร้องต่อศาลปกครองให้เพิกถอนมติ ครม.วันที่ 6 มีนาคม 2555 ให้เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุชุมนุมทางการเมืองปี 2548-2553 และขอให้ไต่สวนฉุกเฉินเพื่อออกคำสั่งระงับการใช้มติ ครม.ดังกล่าว โดยศาลพิจารณาเห็นว่าจำเป็นต้องเรียกมติ ครม.6 มี.ค. 2555 มาประกอบพิจารณาคำร้อง แต่ไม่ไต่สวนฉุกเฉินเนื่องจากเห็นว่ายังมีขั้นตอนอีกก่อนจะจ่ายเงินชดเชยจึงยังไม่มีเหตุฉุกเฉินให้ยกคำร้องในส่วนนี้ แต่สำหรับคำขอทุเลาบังคับมติ ครม. ศาลจะมีมติต่อไปหลังจากพิจารณามติ ครม.ก่อนและจะแจ้งให้ตนทราบอีกครั้ง นอกจากนี้ในส่วนของคดีหลักที่ขอให้ศาลเพิกถอนมติ ครม.เมื่อวันที่ 6 มี.ค. เนื่องจากไม่เป็นไปตามระเบียบ ขัดต่อกฎหมาย ไม่เสมอภาคและไม่เป็นธรรมนั้นยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง
นายสาธิตยังกล่าวถึงกรณีที่มีผู้วิจารณ์บิดเบือนการใช้สิทธิทางศาลของตนว่าเป็นการเอาเท้าราน้ำนั้น ขอยืนยันว่า หน้าที่ตัวแทนผู้เสียภาษีของคนทั้งประเทศว่าต้องใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพเท่าเทียมกัน ตนเห็นใจผู้สูญเสียทุกกรณี ถ้ารัฐมีความบริสุทธิ์ใจต้องแยกให้ชัดเจนคือ ผู้บริสุทธิ์ที่ควรเยียวยาทันที ผู้สื่อข่าวต่างประเทศ คนแก่ที่ถนนรางน้ำ เป็นต้น ควรแยกออกมา ส่วนกรณีผู้มาชุมนุมที่ให้คณะทำงานไปพิจารณานั้นเป็นกลลวงเพราะผู้เสียชีวิตจะได้ทุกรายเนื่องจากคดีอาญาระงับ เช่น กรณีบุกบ้านนายประจักษ์ แก้วกล้าหาญ อดีต รมช.คมนาคม ผู้ที่เสียชีวิตระหว่างปาระเบิดขวดใส่เจ้าหน้าที่ เป็นต้น รัฐบาลต้องประกาศว่าจะไม่เยียวยาคนเหล่านี้เพราะทำผิดกฎหมาย ต้องแยกให้ชัด
ส.ส.ระยองยังได้นำหลักฐานการลงทะเบียนของคนเสื้อแดงว่า 300 รายที่ไปลงชื่อไว้ที่พรรคเพื่อไทยแต่ไม่เคยได้รับการช่วยเหลือก่อนที่รัฐบาลจะออกมติ ครม.ตามมาในภายหลัง มาแสดงต่อสื่อมวลชน โดยชี้ว่าที่ผ่านมา แกนนำ นปช.และพรรคเพื่อไทยไม่เคยให้ความช่วยเหลือคนเสื้อแดงทอดทิ้งให้คนเหล่านี้ดิ้นรนตามลำพัง ทั้งๆ ที่มาต่อสู้เพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ขินวัตร จึงควรใช้เงินของ พ.ต.ท.ทักษิณ จ่ายเยียวยา แต่เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ยอมเสียเงินของตัวเองจึงมาใช้ภาษีประชาชนไปจ่ายแทน ซึ่งในคำร้องที่คนเสื้อแดงเหล่านี้ยื่นกับพรรคเพื่อไทยก็ขอเพียงแค่เงินทุนประกอบอาชีพค้าขาย และทุนการศึกษาบุตรหลานเท่านั้น ไม่ใช่ให้ใช้เงินจำนวนมากเยียวยาเหมือนที่รัฐบาลทำ โดยตนยืนยันว่าการเยียวยาต้องมีหลักเกณฑ์ มีความเสมอภาคและเป็นธรรม
“อยากฝากถึงนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ซึ่งความจริงผมไม่อยากพูดถึงเพราะสงสาร เนื่องจากนายพร้อมพงศ์ทำงานให้พรรคเพื่อไทยมากจนหมดเครดิต ในสมัยเป็นฝ่ายค้าน นายพร้อมพงศ์ยื่นฟ้องคนอื่นถึง 700 กว่าเรื่อง เมื่อพบกับผมก็บ่นว่าทำงานหนักแต่ไม่ได้เป็นอะไรเลย เขาให้เป็น ส.ส.อย่างเดียว ตอนนี้นายพร้อมพงศ์ก็ยังติดถือซองยื่นฟ้องคนอื่นเหมือนในขณะที่เป็นฝ่ายค้าน พฤติกรรมเหล่านี้ต่างหากที่สมควรเรียกว่า เอาเท้าราน้ำ” นายสาธิตกล่าว