โฆษก ปชป.เชื่อ รบ.ทุศีล ไม่เคยแยแสต่อศีลธรรมและจริยธรรม หลังผู้ตรวจการฯ เสนอแนะให้กลับไปพิจารณาประมวลจริยธรรมแต่งตั้ง “นลินี-ณัฐวุฒิ” ใหม่ภายใน 30 วัน แต่มั่นใจสวมบทศรีธนญชัยเลี่ยงบาลีไปเรื่อย เหน็บ “ปู” บริหาร 6 เดือน เจอคดีร้องศาลปกครอง4 คดี ดัชนีความสุขคนรอบข้างปู พุ่งสูงสวนทางดัชนีความทุกข์ ปชช.
วันนี้ (7 มี.ค.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีผู้ตรวจการแผ่นดินตัดสินการแต่งตั้งนางนลินี ทวีสิน รมต.ประจำสำนักนายกฯ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรฯ ไม่ผิดจริยธรรมว่า การที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาตีปี๊บเฉลิมฉลองราวกับว่าผลการตัดสินของผู้ตรวจการแผ่่นดินเป็นการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของทั้ง 2 คน ตนอยากให้พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลศึกษารายละเอียดการใช้ภาษาไทยของผู้ตรวจการแผ่นดิน เพราะถึงแม้จะออกมาระบุชัดว่า ถึงจะไม่ขัดต่อประมวลจริยธรรมโดยตรง แต่ว่าการแต่งตั้งทั้ง 2 คนนั้น นายกฯ ไม่ได้คำนึงถึงรัฐธรรมนูญมาตรา 279 วรรค 4 ในเรื่องของจริยธรรมความเหมาะสมของผู้ที่จะดำรงตำแหน่งข้าราชการทางการเมือง โดยเฉพาะบุคคลที่ถูกขึ้นบัญชีดำจากสหรัฐอเมริกา ที่นำมาซึ่งความเสื่อมเสียต่อประเทศชาติ และกรณีนายณัฐวุฒิที่ถูกดำเนินคดีอาญาข้อหาก่อการร้าย ทำให้ภาพลักษณ์ของคณะรัฐมนตรีเสียหาย
ถ้านายพร้อมพงศ์พูดว่านี่คือบรรทัดฐานใหม่ ก็ควรไปบอก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าผู้ตรวจการฯ ได้สร้างบรรทัดฐานขึ้นมาให้ใหม่แล้ว ที่ขอให้ท่านกลับไปพิจารณาประมวลจริยธรรมและให้แจ้งกลับมาใหม่ภายใน 30 วัน
นายชวนนท์กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ควรกลับไปทบทวนการแต่งตั้งบุคคลทั้งสองคน เพื่อไม่ให้ถูกกล่าวหาว่าเป็นรัฐบาลทุศีลอย่างที่ประชาชนคนไทยเห็นอยู่ในปัจจุบัน ถ้ายังหลงเหลือจริยธรรมอยู่บ้างก็ขอให้ปฏิบัติตามบรรทัดฐานทางการเมืองที่ผู้ตรวจการฯ ได้แนะนำ สร้างบรรทัดฐานทางการเมืองด้านจริยธรรมให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย แต่คิดว่าคำตัดสินนั้นแสดงให้เห็นว่าพวกท่านถูกและใช้ความเป็นศรีธณญชัยเลี่ยงบาลีทางกฎหมาย อย่างนี้ก็แสดงให้เห็นว่าเป็นรัฐบาลที่ขาดจริยธรรม
“แสดงให้เห็นว่าจริยธรรม คุณธรรม ความถุูกต้องไม่เคยอยู่ในสารบบของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ เห็นได้จากกรณีภารกิจ ว.5 ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ในเวลาราชการ การประพฤติที่อ้างเฉพาะข้อกฎหมาย แต่หลีกเลี่ยงการตรวจสอบด้านจริยธรรม ศีลธรรม เป็นสิ่งที่ปฏิบัติกันมาตลอดตั้งแต่รัฐบาลพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรคเพื่อไทย ผมขอทำนายล่วงหน้าว่า สุดท้าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็จะเพิกเฉยต่อข้อเสนอของผู้ตรวจการแผ่นดิน เพราะบทสรุปไม่มีความผิดต่อกฎหมาย ฉะนั้น ภายใน 30 วัน ผู้ตรวจการฯ ให้โอกาสแล้วในการที่จะปรับตัวและแก้ไขถึงจะไม่ขัดกฎหมายก็จริง แต่ขัดต่อประมวลจริยธรรมตามรัฐรรมนูญ หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ดำเนินการก็แสดงว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ประชาชนและเยาวชนได้” นายชวนนท์กล่าว
นายชวนนท์กล่าวถึงปัญหาสินค้าราคาแพงว่า การบริหารแผ่นดินของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผ่านมา 6 เดือนประเทศ อยู่ในภาวะ “แพงทั้งแผ่นดินทั่วประเทศ” และเป็นรัฐบาลชุดแรกที่ถูกฟ้องร้องศาลปกครองจากประชาชนมากที่สุดเป็นประว้ติการณ์ถึง 4 คดี คือ 1. เรื่องของการบริหารจัดการน้ำ 2. นโยบายบัตรเครดิตพลังงาน 3. กำลังจะถูกประชาชนฟ้องร้องอีกจากการสร้างเขื่อนรอบนิคมอุตสาหกรรม และ 4. กรณีตลาดนัดสวนจตุจักรที่ถูกยึดโดยกระทรวงคมนาคม ซึ่งบรรดาพ่อค้าแม่ค้าตลาดนัดจตุจักรก็อาจเตรียมไปฟ้องศาลปกครองเช่นเดียวกัน การที่ประชาชนหมดทางพึ่ง หมดทางไป จนต้องใช้ศาลปกครองมาเป็นที่พึ่ง แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ใช่ที่พึ่งของประชาชนอีกต่อไป รัฐบาลมีหน้าที่เพียงตอบสนองนายทุน และผู้มีอำนาจที่อยู่เบื้องหลัง
นายชวนนท์กล่าวว่า รัฐบาลละทิ้งปัญหาของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ และตนยืนยันได้ว่า ดัชนีความทุกข์ของประชาชนจะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นตามจำนวนวันของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ และตนก็เชื่อว่าดัชนีความุขของผู้ที่ใกล้ชิดกับรัฐบาลความสุขก็จะเพิ่มมากขึ้น การชดเชยเยียวยา การดูแลผู้ที่สนับสนุนให้ล้มล้างรัฐบาลชุดที่แล้วก็จะเพิ่มสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว ฉะนั้น ตนขอเตือนประชาชนว่า ความทุกข์ของเราจะยังเพิ่มต่อไป เช่น การรอคอยปัญหาค่าครองชีพ เพราะนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และ รมว.คลังพูดเองว่าไม่สามารถควบคุมได้เพราะประเทศไทยเป็นเศรษฐกิจเปิด พูดง่ายๆ ว่าประชาชนต้องไปตายเอาดาบหน้ากันเอง และรวมไปถึงการที่นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รมว.พลังงาน ที่ออกมาระบุว่าจะลอยตัวราคาแก๊สหุงต้มภาคครัวเรือน ภาคขนส่ง ภาคอุตสาหกรรม ประชาชนจึงต้องเตรียมรับราคาข้าวแกงจานละ 100 บาทได้เลย
นอกจากนี้ นายชวนนท์ยังกล่าวถึงกรณีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ สั่งกรรมสรรพากรตรวจสอบร้านอาหารฟูดคอร์ดที่ขายเกินราคาที่กำหนดว่า ตนคิดว่าหากนายบุญทรงลำบากมากให้ไปเปิดร้านขายข้าวเองดีว่า พ่อค้าแม่ค้าเขาขายตามราคาที่กำหนด 25-30 บาทไม่ได้เพราะต้นทุนแพง จะรังแกเขาไปถึงไหน นี่หรือรัฐบาลที่ทำเพื่อประชาชน รัฐบาลที่สัญญาจะไปดูแลพี่น้องเกษตรกร เป็นรัฐบาลของไพร่ แต่วันนี้ไพร่นั่งรถเบนซ์กันหมด ใช้ใจอะไรไปสั่งกรมสรรพากรตรวจสอบร้านข้าวแกงที่ขายราคา 35 บาท ตนอยากฝากถึงประชาชนว่าเราอยู่ในยุคมืดซึ่งถูกคุกคามทุกรูปแบบแล้ว
นอกจากนี้ ในระหว่างการแถลงข่าว นายชวนนท์ยังได้นำตารางเปรียบเทียบราคาสินค้าเกษตรช่วงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกฯ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ คนปัจจุบัน โดยในช่วงที่นายอภิสิทธิ์ดำรงตำแหน่งนายกฯ ราคามันสำปะหลังมีราคา 3.30 บาทต่อ กก. กระเทียม 16 บาทต่อ กก. หอมแดง 38 บาทต่อ กก. ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรในยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ มันสำปะหลังราคา 1.50 บาทต่อ กก. กระเทียม 6 บาทต่อ กก. และหอมแดง 8-12 บาทต่อ กก.