ASTVผู้จัดการรายวัน - จารุพงศ์เมินไม่ทบทวนค่าเช่าจตุจักร ขีดเส้นตายให้ผู้ค้าทำสัญญา 13 มี.ค.นี้ก่อนเล่นบทเฮี๊ยบ หลังผู้ค้าจตุจักรร้องนายกฯปู ช่วยกล่อมร.ฟ.ท.ลดค่าเช่าแผงเหลือเดือนละ 1พันบาทและต่ออายุสัญญาออกไป 30ปี ขู่หากยึดแผง "จตุจักร" ยอมนองเลือด หากเจรจาไร้ผลเตรียมร้องศาลปกครอง-ถวายฎีกา ยันไม่มีกลุ่มการเมืองหนุนหลัง นายกฯปู เข้าข้างร.ฟ.ท.บอกราคาค่าเช่าเหมาะสมแล้ว "ชวนนท์"ชี้ร.ฟ.ท.ยึดจตุจักร แผนทุบหม้อข้าวปชป.
เมื่อเวลา 10.00 น.วานนี้ (5 มี.ค.) ผู้ค้าตลาดนัดสวนจตุจักร ประมาณ 100 คน นำโดยนายสงวน ดำรงค์ไทย ประธานสหกรณ์บริการผู้ค้าตลาดนัดสวนจตุจักร นายวีระพงษ์ เพชรชำนาญ รองประธานฯ และนางนฤมล แซ่หุ้น กลุ่มจตุจักรรวมใจ เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ร้องขอความเป็นธรรมกรณี การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ขึ้นค่าเช่าแผงค้า โดยมี นพ.ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรับเรื่อง
นอกจากนี้ยังมีพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการร.ฟ.ท. มาร่วมเจรจากับผู้ค้าด้วย
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.คมนาคม กล่าวว่า การที่กลุ่มผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรบางส่วน ชุมนุมเรียกร้องให้ร.ฟ.ท.ทบทวนการขึ้นค่าเช่านั้น คงไม่สามารถยกเลิกประกาศของ ร.ฟ.ท.ตามที่กลุ่มผู้ค้าเรียกร้องได้ และอยากให้กลุ่มผู้ค้าให้ความร่วมมือ หากไม่มีความร่วมมือก็มีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด และคงไม่ปรับเปลี่ยนอัตราค่าเช่าที่ 3,157 บาทต่อเดือน ไม่มีค่าแป๊ะเจี๊ยะ
จากนั้น 2 ปีแล้วค่อยมาปรับกันใหม่ โดยร.ฟ.ท.จะมีแผนการพัฒนาตลาดที่ชัดเจนก่อน ซึ่งจะเชิญผู้ค้ามาหารือด้วย จึงขอให้มั่นใจว่าผู้ค้าทั้งหมดที่มีแผงอยู่ในตลาดแล้วจะได้รับการดูแลต่อไป
นายจารุพงศ์ กล่าวว่า ขณะนี้อยากให้ผู้ค้าที่ไม่พอใจค่าเช่ามาลงทะเบียนก่อน ซึ่งกำหนดไว้ให้มาลงทะเบียนแจ้งความจำนงในวันที่ 13 มี.ค.นี้ หากรายใดยังไม่มีเงินก็สามารถมาชำระในภายหลังได้ ส่วนเมื่อครบกำหนดแล้ว ผู้ค้าไม่มาลงทะเบียน จะต้องให้ยกเลิกหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังมีเวลาคุยกัน ซึ่งไม่ห่วงว่าปัญหานี้จะบานปลาย
อย่างไรก็ตามจากข้อมูลที่มีเชื่อได้ว่ากลุ่มที่เคลื่อนไหวมีเบื้องหลัง เพราะมีภาพถ่าย และทะเบียนรถก็เชื่อมโยงกับกลุ่มการเมืองบางกลุ่มด้วย
** "ปู"ยันค่าเช่าแผงเหมาะสมแล้ว
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า รัฐบาลมีความเห็นใจผู้ที่ทำการค้าขายในจตุจักรมาก ซึ่งได้ทราบการร้องขอตั้งแต่แรก ในเรื่องการเก็บเงินมัดจำ หรือการเรียกค่าใช้จ่ายครั้งแรก ก็ได้มีการประสาน สุดท้ายทางการรถไฟ ไม่เก็บ ยกเว้นในส่วนของ 2 หมื่นบาท และ 5 หมื่นบาท ดังนั้นจะเหลือแต่ค่าเช่ารายเดือนๆละ 3 พันกว่าบาท อันนี้ต้องขอความเห็นใจ ตรงนี้ถ้าเทียบกับราคาต่างๆในท้องตลาด อันนี้ถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมแล้ว
อย่างไรก็ตาม ได้ส่งตัวแทนไปพูดคุยกับกลุ่มที่มาร้องขอแล้ว ซึ่งคงจะมีการนัดหารือกันในรายละเอียดต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ค้าส่วนใหญ่เป็นผู้เช่าช่วงต่อ จะแก้ไขปัญหาอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ขออนุญาตไม่บอกรายละเอียดถึงมาตรการ แต่เราเน้นให้ความสำคัญกับผู้ที่ค้าขายโดยตรง ผู้ที่รับเช่าช่วง คงจะต้องหาทางออกให้ ซึ่งคงต้องอยู่ในขอบข่ายที่จะทำได้ โดยจะต้องมีการหารือกันในระดับหนึ่ง
ส่วนที่ถามว่า มีเรื่องอื่นๆ หรือเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น ตนไม่อยากสรุปแบบนั้น หวังว่าการทำงานทุกอย่าง ขอความร่วมมือ เราคุยกันด้วยเหตุผลที่สำคัญขอความกรุณาในเรื่องการเรียกร้องต่างๆ เรานัดคุยกันได้ อยากจะขอ เพราะการจราจรต่างๆ จะติดขัดและเป็นอุปสรรคกับประชาชนในการเดินถนน
***ขู่ยึดแผงยอมนองเลือดในจตุจักร
ด้านนายสงวน ดำรงค์ไทย ประธานสหกรณ์บริการผู้ค้าตลาดนัดสวนจตุจักร กล่าวว่า เราไม่สามารถต่อสู้ด้วยตัวเองได้ หากไม่มีมวลชนหรือผู้ค้าจึงอยากบอกต่อสื่อและผู้ที่เกี่ยวข้องว่า 30 ปีที่อยู่มา ในวันนี้กลุ่มผู้ค้าไม่สามารถรับราคาเช่ากว่า 3,000 บาท ต่อเดือนได้ ก็จะไล่ เรื่องนี้ถูกต้องหรือไม่ ตนไม่เคยคิดทำความเดือดร้อนให้ประชาชน แต่เรียกร้องให้มาพูดคุยกัน
ทั้งนี้อยากให้ร.ฟ.ท.ชะลอการเซ็นต์สัญญาออกไปก่อน จนกว่าจะได้ข้อยุติเรื่องค่าเช่า รวมทั้งการประกาศทั้งทางเอกสาร และทางเสียงให้ผู้ค้าออกมาทำสัญญาภายในระยะเวลาที่กำหนด ไม่อย่างนั้นจะยึดแผงเช่า เรื่องนี้สร้างความไม่สบายใจกับผู้ค้า ถ้าแผงโดนยึดเรายอมนองเลือดในจตุจักรแน่ แต่เราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ จึงเดินทางมาขอความเมตตาจากนายกรัฐมนตรี และอยากเสนอให้มีการเลือกตั้งตัวแทนผู้ค้า เข้าไปปรึกษาหารือ เพื่อให้การปรึกษาหารือยอมรับความคิดเห็นของกันและกัน
** ขู่ร้องศาลปกครอง- ถวายฎีกา
ส่วนการยื่นเรื่องต่อศาลปกครองหรือไม่นั้น จะรอความชัดเจนจากนายกฯ ก่อน และถ้าอายุสัญญาติดขัดระเบียบราชการ ไม่สามารถกำหนดสัญญาได้ยาว 30 ปี ก็น่าที่จะทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันให้มีการต่อสัญญาคราวละ 2 ปี ก็ได้ และสามารถขึ้นค่าเช่าแบบขั้นบันได
"มีการประกาศทุก 5 นาที ให้ผู้ค้าออกมาทำสัญญา มีเจ้าหน้าที่ถืออาวุธด้วย ทำให้ผู้ค้ากลัว จนบางคนยอมออกมาทำสัญญา จึงอยากขอว่าอย่ากดดันกัน และยืนยันว่าเราคือผู้ค้าตัวจริงไม่มีกลุ่มเสื้อหลากสี กลุ่มพันธมิตรฯ ไม่มีพรรคการเมืองใดหนุนหลัง หากมีการตรวจสอบแล้วพบว่าใครหนุนหลัง เราพร้อมยุติทันที" นายสงวนกล่าว
ด้านนายวีระพงษ์ กล่าวว่า ถ้าถึงที่สุดแล้วหากไม่มีข้อสรุปออกมา เราจะยื่นถวายฎีกา ซึ่งขณะนี้มีรายชื่อ 3,000-4,000 คนแล้ว แต่เราไม่อยากทำอย่างนั้น เพราะเป็นการทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท เราอยากให้มีการพูดคุยกันแบบประชาธิปไตย ไม่ใช่เผด็จการ เพราะมีการประกาศเหมือนพรรคคอมมิวนิสต์
" ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 มอบที่ดินให้การรถไฟฯเพื่อสร้างประโยชน์แก่สาธารณะ ไม่ใช่มาหากำไรสูงสุด หรือนำเงินไปกลบในส่วนที่ขาดทุน ส่วนเรื่องที่ท่านประกาศว่า ภายใน 10 วัน ถ้าไม่ชะลอการทำสัญญา หรือให้ผู้เช่าช่วงมาทำสัญญาแทนเรา ตลาดนัดจะต้องลุกเป็นไฟ น้ำตาจะหลั่งทั้งประเทศ ท่านอยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นหรือ ซึ่งการกระทำของท่านวันนี้ มันจะทำให้เกิดการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นแน่ในอนาคต หากไม่ชะลอการทำสัญญาออกไปก่อน” นายวีระพงษ์ กล่าว และว่า การทำสัญญาเหมือนเป็นการฆ่าตัวตาย เราจะทำได้อย่างไร และหากคำนวณกันแล้วจะพบว่า ค่าเช่าจตุจักรแพงกว่าเซ็นทรัลลาดพร้าว เสียอีก
**ขอลดค่าเช่าเหลือเดือนละ 1,000
นางวิภาทิพย์ กุลดิษย์พรพงษ์ หนึ่งในกลุ่มผู้ค้า กล่าวว่า การรถไฟฯขึ้นราคาค่าเช่าแผงร้านค้าในตลาดนัดสวนจตุจักร รวมภาษีตกเดือนละ 3,652 บาทซึ่งแพงเกินไป อยากเรียกร้องให้ ร.ฟ.ท.พิจารณาปรับราคาค่าเช่าไม่เกิน 1,000 บาทต่อเดือน และให้มีระยะเวลาเช่า 30 ปี รวมทั้งให้ตัวแทนผู้ค้าเข้าไปมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรด้วย หากยื่นข้อเรียกร้องดังกล่าวไม่เป็นผล ภายในไม่เกินวันที่ 7 มี.ค.นี้ จะมีการยื่นข้อเรียกร้องต่อศาลปกครองต่อไป
นางวิภาทิพย์ กล่าวว่า การที่ ร.ฟ.ท.ได้เปิดให้ผู้ค้าลงทะเบียนภายใน 10 วันทำการนั้น อาจผิดกฎหมาย เนื่องจากไม่เปิดโอกาสให้ผู้ค้าได้มีเวลาคิด และผู้ค้าจำนวนมาก มารับสัญญาไม่ทัน ทั้งนี้อยากเรียกร้องให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา อย่าบิดเบือนข้อเท็จจริง เนื่องจาก พวกตนเป็นผู้ค้าในตลาดนัดสวนจตุจักร ไม่ใช่กลุ่มเสื้อหลากสี หรือพรรคประชาธิปัตย์แต่อย่างใด การชุมนุมในครั้งนี้ ไม่มีเรื่องของการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง และพร้อมที่จะสาบานในเรื่องดังกล่าวได้
นพ.ประสิทธิ ชัยวิรัตนะ กล่าวว่า ตนจะนำเรื่องดังกล่าวเรียนต่อนายกรัฐมนตรี โดยเร่งด่วน หากมีบัญชาอย่างไร คงจะมีการสั่งการไปยังการรถไฟฯ ทั้งนี้อยากให้ทั้ง 2 ฝ่าย พูดคุยกันจะดีที่สุด เพราะเรื่องนี้มีการต่อรองกันไปเรื่อยๆ.
เมื่อเวลา 10.00 น.วานนี้ (5 มี.ค.) ผู้ค้าตลาดนัดสวนจตุจักร ประมาณ 100 คน นำโดยนายสงวน ดำรงค์ไทย ประธานสหกรณ์บริการผู้ค้าตลาดนัดสวนจตุจักร นายวีระพงษ์ เพชรชำนาญ รองประธานฯ และนางนฤมล แซ่หุ้น กลุ่มจตุจักรรวมใจ เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ร้องขอความเป็นธรรมกรณี การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ขึ้นค่าเช่าแผงค้า โดยมี นพ.ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรับเรื่อง
นอกจากนี้ยังมีพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการร.ฟ.ท. มาร่วมเจรจากับผู้ค้าด้วย
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.คมนาคม กล่าวว่า การที่กลุ่มผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรบางส่วน ชุมนุมเรียกร้องให้ร.ฟ.ท.ทบทวนการขึ้นค่าเช่านั้น คงไม่สามารถยกเลิกประกาศของ ร.ฟ.ท.ตามที่กลุ่มผู้ค้าเรียกร้องได้ และอยากให้กลุ่มผู้ค้าให้ความร่วมมือ หากไม่มีความร่วมมือก็มีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด และคงไม่ปรับเปลี่ยนอัตราค่าเช่าที่ 3,157 บาทต่อเดือน ไม่มีค่าแป๊ะเจี๊ยะ
จากนั้น 2 ปีแล้วค่อยมาปรับกันใหม่ โดยร.ฟ.ท.จะมีแผนการพัฒนาตลาดที่ชัดเจนก่อน ซึ่งจะเชิญผู้ค้ามาหารือด้วย จึงขอให้มั่นใจว่าผู้ค้าทั้งหมดที่มีแผงอยู่ในตลาดแล้วจะได้รับการดูแลต่อไป
นายจารุพงศ์ กล่าวว่า ขณะนี้อยากให้ผู้ค้าที่ไม่พอใจค่าเช่ามาลงทะเบียนก่อน ซึ่งกำหนดไว้ให้มาลงทะเบียนแจ้งความจำนงในวันที่ 13 มี.ค.นี้ หากรายใดยังไม่มีเงินก็สามารถมาชำระในภายหลังได้ ส่วนเมื่อครบกำหนดแล้ว ผู้ค้าไม่มาลงทะเบียน จะต้องให้ยกเลิกหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังมีเวลาคุยกัน ซึ่งไม่ห่วงว่าปัญหานี้จะบานปลาย
อย่างไรก็ตามจากข้อมูลที่มีเชื่อได้ว่ากลุ่มที่เคลื่อนไหวมีเบื้องหลัง เพราะมีภาพถ่าย และทะเบียนรถก็เชื่อมโยงกับกลุ่มการเมืองบางกลุ่มด้วย
** "ปู"ยันค่าเช่าแผงเหมาะสมแล้ว
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า รัฐบาลมีความเห็นใจผู้ที่ทำการค้าขายในจตุจักรมาก ซึ่งได้ทราบการร้องขอตั้งแต่แรก ในเรื่องการเก็บเงินมัดจำ หรือการเรียกค่าใช้จ่ายครั้งแรก ก็ได้มีการประสาน สุดท้ายทางการรถไฟ ไม่เก็บ ยกเว้นในส่วนของ 2 หมื่นบาท และ 5 หมื่นบาท ดังนั้นจะเหลือแต่ค่าเช่ารายเดือนๆละ 3 พันกว่าบาท อันนี้ต้องขอความเห็นใจ ตรงนี้ถ้าเทียบกับราคาต่างๆในท้องตลาด อันนี้ถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมแล้ว
อย่างไรก็ตาม ได้ส่งตัวแทนไปพูดคุยกับกลุ่มที่มาร้องขอแล้ว ซึ่งคงจะมีการนัดหารือกันในรายละเอียดต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ค้าส่วนใหญ่เป็นผู้เช่าช่วงต่อ จะแก้ไขปัญหาอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ขออนุญาตไม่บอกรายละเอียดถึงมาตรการ แต่เราเน้นให้ความสำคัญกับผู้ที่ค้าขายโดยตรง ผู้ที่รับเช่าช่วง คงจะต้องหาทางออกให้ ซึ่งคงต้องอยู่ในขอบข่ายที่จะทำได้ โดยจะต้องมีการหารือกันในระดับหนึ่ง
ส่วนที่ถามว่า มีเรื่องอื่นๆ หรือเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น ตนไม่อยากสรุปแบบนั้น หวังว่าการทำงานทุกอย่าง ขอความร่วมมือ เราคุยกันด้วยเหตุผลที่สำคัญขอความกรุณาในเรื่องการเรียกร้องต่างๆ เรานัดคุยกันได้ อยากจะขอ เพราะการจราจรต่างๆ จะติดขัดและเป็นอุปสรรคกับประชาชนในการเดินถนน
***ขู่ยึดแผงยอมนองเลือดในจตุจักร
ด้านนายสงวน ดำรงค์ไทย ประธานสหกรณ์บริการผู้ค้าตลาดนัดสวนจตุจักร กล่าวว่า เราไม่สามารถต่อสู้ด้วยตัวเองได้ หากไม่มีมวลชนหรือผู้ค้าจึงอยากบอกต่อสื่อและผู้ที่เกี่ยวข้องว่า 30 ปีที่อยู่มา ในวันนี้กลุ่มผู้ค้าไม่สามารถรับราคาเช่ากว่า 3,000 บาท ต่อเดือนได้ ก็จะไล่ เรื่องนี้ถูกต้องหรือไม่ ตนไม่เคยคิดทำความเดือดร้อนให้ประชาชน แต่เรียกร้องให้มาพูดคุยกัน
ทั้งนี้อยากให้ร.ฟ.ท.ชะลอการเซ็นต์สัญญาออกไปก่อน จนกว่าจะได้ข้อยุติเรื่องค่าเช่า รวมทั้งการประกาศทั้งทางเอกสาร และทางเสียงให้ผู้ค้าออกมาทำสัญญาภายในระยะเวลาที่กำหนด ไม่อย่างนั้นจะยึดแผงเช่า เรื่องนี้สร้างความไม่สบายใจกับผู้ค้า ถ้าแผงโดนยึดเรายอมนองเลือดในจตุจักรแน่ แต่เราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ จึงเดินทางมาขอความเมตตาจากนายกรัฐมนตรี และอยากเสนอให้มีการเลือกตั้งตัวแทนผู้ค้า เข้าไปปรึกษาหารือ เพื่อให้การปรึกษาหารือยอมรับความคิดเห็นของกันและกัน
** ขู่ร้องศาลปกครอง- ถวายฎีกา
ส่วนการยื่นเรื่องต่อศาลปกครองหรือไม่นั้น จะรอความชัดเจนจากนายกฯ ก่อน และถ้าอายุสัญญาติดขัดระเบียบราชการ ไม่สามารถกำหนดสัญญาได้ยาว 30 ปี ก็น่าที่จะทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันให้มีการต่อสัญญาคราวละ 2 ปี ก็ได้ และสามารถขึ้นค่าเช่าแบบขั้นบันได
"มีการประกาศทุก 5 นาที ให้ผู้ค้าออกมาทำสัญญา มีเจ้าหน้าที่ถืออาวุธด้วย ทำให้ผู้ค้ากลัว จนบางคนยอมออกมาทำสัญญา จึงอยากขอว่าอย่ากดดันกัน และยืนยันว่าเราคือผู้ค้าตัวจริงไม่มีกลุ่มเสื้อหลากสี กลุ่มพันธมิตรฯ ไม่มีพรรคการเมืองใดหนุนหลัง หากมีการตรวจสอบแล้วพบว่าใครหนุนหลัง เราพร้อมยุติทันที" นายสงวนกล่าว
ด้านนายวีระพงษ์ กล่าวว่า ถ้าถึงที่สุดแล้วหากไม่มีข้อสรุปออกมา เราจะยื่นถวายฎีกา ซึ่งขณะนี้มีรายชื่อ 3,000-4,000 คนแล้ว แต่เราไม่อยากทำอย่างนั้น เพราะเป็นการทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท เราอยากให้มีการพูดคุยกันแบบประชาธิปไตย ไม่ใช่เผด็จการ เพราะมีการประกาศเหมือนพรรคคอมมิวนิสต์
" ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 มอบที่ดินให้การรถไฟฯเพื่อสร้างประโยชน์แก่สาธารณะ ไม่ใช่มาหากำไรสูงสุด หรือนำเงินไปกลบในส่วนที่ขาดทุน ส่วนเรื่องที่ท่านประกาศว่า ภายใน 10 วัน ถ้าไม่ชะลอการทำสัญญา หรือให้ผู้เช่าช่วงมาทำสัญญาแทนเรา ตลาดนัดจะต้องลุกเป็นไฟ น้ำตาจะหลั่งทั้งประเทศ ท่านอยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นหรือ ซึ่งการกระทำของท่านวันนี้ มันจะทำให้เกิดการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นแน่ในอนาคต หากไม่ชะลอการทำสัญญาออกไปก่อน” นายวีระพงษ์ กล่าว และว่า การทำสัญญาเหมือนเป็นการฆ่าตัวตาย เราจะทำได้อย่างไร และหากคำนวณกันแล้วจะพบว่า ค่าเช่าจตุจักรแพงกว่าเซ็นทรัลลาดพร้าว เสียอีก
**ขอลดค่าเช่าเหลือเดือนละ 1,000
นางวิภาทิพย์ กุลดิษย์พรพงษ์ หนึ่งในกลุ่มผู้ค้า กล่าวว่า การรถไฟฯขึ้นราคาค่าเช่าแผงร้านค้าในตลาดนัดสวนจตุจักร รวมภาษีตกเดือนละ 3,652 บาทซึ่งแพงเกินไป อยากเรียกร้องให้ ร.ฟ.ท.พิจารณาปรับราคาค่าเช่าไม่เกิน 1,000 บาทต่อเดือน และให้มีระยะเวลาเช่า 30 ปี รวมทั้งให้ตัวแทนผู้ค้าเข้าไปมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรด้วย หากยื่นข้อเรียกร้องดังกล่าวไม่เป็นผล ภายในไม่เกินวันที่ 7 มี.ค.นี้ จะมีการยื่นข้อเรียกร้องต่อศาลปกครองต่อไป
นางวิภาทิพย์ กล่าวว่า การที่ ร.ฟ.ท.ได้เปิดให้ผู้ค้าลงทะเบียนภายใน 10 วันทำการนั้น อาจผิดกฎหมาย เนื่องจากไม่เปิดโอกาสให้ผู้ค้าได้มีเวลาคิด และผู้ค้าจำนวนมาก มารับสัญญาไม่ทัน ทั้งนี้อยากเรียกร้องให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา อย่าบิดเบือนข้อเท็จจริง เนื่องจาก พวกตนเป็นผู้ค้าในตลาดนัดสวนจตุจักร ไม่ใช่กลุ่มเสื้อหลากสี หรือพรรคประชาธิปัตย์แต่อย่างใด การชุมนุมในครั้งนี้ ไม่มีเรื่องของการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง และพร้อมที่จะสาบานในเรื่องดังกล่าวได้
นพ.ประสิทธิ ชัยวิรัตนะ กล่าวว่า ตนจะนำเรื่องดังกล่าวเรียนต่อนายกรัฐมนตรี โดยเร่งด่วน หากมีบัญชาอย่างไร คงจะมีการสั่งการไปยังการรถไฟฯ ทั้งนี้อยากให้ทั้ง 2 ฝ่าย พูดคุยกันจะดีที่สุด เพราะเรื่องนี้มีการต่อรองกันไปเรื่อยๆ.
