รมว.คมนาคม ลั่นไม่ทบทวนประกาศ ร.ฟ.ท.ขู่ “ผู้ค้าจตุจักร” รีบทำสัญญาก่อนเดตไลน์ แย้มหลัง 13 มี.ค.เล่นบทเฮี้ยบ แจงขอใช้ค่าเช่าอัตราใหม่ 2 ปีก่อน เชื่อ มีการเมืองอยู่เบื้องหลัง เร่งตรวจความแข็งแรง “โฮปเวลล์” หวังใช้เชื่อมแอร์พอร์ตลิงก์ จ่อดันโครงการยกถนนเป็นคันกั้นน้ำ 3.1 หมื่นล้านบาท เข้า ครม.พรุ่งนี้
วันนี้ (5 มี.ค.) นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงปัญหากลุ่มผู้ค้าที่ชุมนุมเรียกร้องให้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ทบทวนการขึ้นราคาค่าเช่าแผงร้านค้าในตลาดนัดสวนจตุจักรว่า ยืนยันว่าไม่สามารถยกเลิกประกาศของ ร.ฟ.ท.ตามที่กลุ่มผู้ค้าเรียกร้องได้ ซึ่งเรื่องนี้ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นผู้ดูแลเรื่องนี้ตั้งแต่ก่อนที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่ง คงมีขั้นตอนดำเนินการอยู่แล้ว ส่วนตัวอยากให้กลุ่มผู้ค้าให้ความร่วมมือ แต่หากไม่มีความร่วมมือก็มีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มที่คัดค้านที่ไม่ยอมทำสัญญากับ ร.ฟ.ท.จะต้องออกจากพื้นที่ในวันที่ 13 มี.ค.55 ตามกำหนดหรือไม่ นายจารุพงศ์กล่าวว่า ตนอยากให้ผู้ค้าเหล่านั้นมาลงทะเบียนก่อน หากรายใดยังไม่มีเงินก็สามารถมาชำระในภายหลังได้ ส่วนเมื่อถึงเวลาแล้วจะมีการขับไล่หรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ค่อยมาว่ากัน ซึ่งตนไม่ห่วงว่าปัญหาเรื่องนี้จะบานปลาย อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลที่มีเชื่อได้ว่ากลุ่มที่เคลื่อนไหวมีเบื้องหลัง เพราะมีภาพถ่าย และทะเบียนรถก็เชื่อมโยงกับกลุ่มการเมืองบางกลุ่มด้วย
“ยันยืนยันอัตราค่าเช่าที่ 3,000 กว่าบาทต่อเดือน แต่จะไม่มีค่าแปะเจี๊ยะ จากนั้นขอเวลา 2 ปีแล้วค่อยมาปรับกันใหม่ โดยจะมีแผนชัดเจนว่าจะพัฒนาตลาดไปในทิศทางไหน รวมทั้งจะเชิญผู้ค้ามาพูดคุยกันว่าจะใช้เงินเท่าไร และลงทุนอย่างไรด้วย” รมว.คมนาคมระบุ
ส่วนกรณีคานปูนตอม่อโฮปเวลล์พังถล่มลงมาเมื่อสัปดาห์ก่อนนั้น นายจารุพงศ์กล่าวว่า เบื้องต้นก็จะให้รื้อในส่วนที่พังลง โดยให้วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยเข้าไปศึกษาตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของคาน หรือเสาของโฮปเวลล์ทั้งหมดที่มีอยู่ 120 เสา ทั้งนี้ ยืนยันว่า ส่วนที่พังไม่เกี่ยวกับตอม่อหรือเสาหลัก เป็นเพียงเหล็กนั่งร้านที่ตั้งมากว่า 14 ปีพังลงมา เดิมมีแผนที่ใช้ตอม่อในการก่อสร้างส่วนต่อขยายเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดง เพื่อเชื่อมรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ จากสถานีพญาไทไปยังท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อให้ 2 ท่าอากาศยานใน กทม.เชื่อมต่อกัน ทั้งนี้ ในส่วนของงบประมาณคงยังไม่สามารถระบุได้ อีกทั้งยังติดปัญหาเรื่องคดีความเดิม แต่ก็อยากได้เส้นนี้ให้เร็วที่สุด
สำหรับการประชุมเพื่อนำเสนอผลการประชุมเชิงปฏิบัติการตามประเด็นยุทธศาสตร์สำคัญ ร่วมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น นายจารุพงศ์ เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้รายงานต่อที่ประชุมถึงแผนการกู้ยืมเงิน 3.1 หมื่นล้านบาท จากวงเงินกู้ทั้งหมด 3.5 แสนล้านบาทของรัฐบาล โดยจะมีการเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพรุ่งนี้ (6 มี.ค.) ต่อไป ซึ่งงบประมาณ 3.1 หมื่นล้านบาทนั้น จะนำมาใช้ดำเนินการใน 75 โครงการ เพื่อยกระดับถนนในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม เพื่อใช้เป็นคันกั้นน้ำ โดยความสูงของคันกั้นน้ำขึ้นอยู่กับพื้นที่จุดนั้นๆด้วย และตั้งเป้าให้แล้วเสร็จก่อนเดือน ก.ย.นี้ที่จะถึงฤดูน้ำหลาก ทั้งนี้หลังพ้นช่วงน้ำหลากแล้ว ต้องมาพิจารณาอีกครั้งว่าถนนเหล่านั้น จะใช้วิธีดการลาดยาง หรือทำเป็นถนนคอนกรีต โดยมี 3 หน่วยงานเป็นผู้รับผิดชอบ ได้แก่ กรมเจ้าท่า กรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท
นายจารุพงศ์กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรียังได้กำชับเรื่องการทำโครงการพัฒนาระบบขนส่งโลจิกติกส์ เพื่อลดต้นทุนการขนส่งจากเดิมที่คิดเป็น 17.9 เปอร์เซ็นต์ งบประมาณรายจ่ายประจำปี ให้ลดลงเป็น 15.9 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2559 โดยจะเน้นในการพัฒนาประสิทธิภาพการขนส่งระบบราง และขนส่งทางน้ำ ที่มีต้นทุนน้อยกว่าการขนส่งทางบก โดยจะทำให้เกิดความชัดเจนของโครงการรถไฟฟ้า 10 สาย และรถไฟความเร็วสูง รวมไปถึงการขนส่งทางน้ำ ในการขยายท่าเรือ เช่น มาบตาพุด สมุทรสาคร ชุมพร และตรัง พร้อมกับเร่งดำเนินการในส่วนท่าเรือน้ำลึกปากบารา จ.สตูล เพื่อเตรียมในการเชื่อมต่อโครงการท่าเรือน้ำลึกทวายของประเทศพม่า และทำเส้นทางเชื่อมต่อต่างๆ จาก จ.กาญจนบุรี เข้าสู่ประเทศพม่าอีกด้วย