“ปู” สั่งเคลียร์ใจ ปชช.ฟ้องศาล ปล่อยเงินกู้นิคมฯ สร้างพนังกั้นน้ำ

นายกฯ อ้อนชาวบ้านจำเป็นปล่อยเงินกู้นิคมอุตสาหกรรมเร่งสร้างพนังกั้นน้ำ เรียกความเชื่อมั่นป้องกันอุทกภัยซ้ำสอง สั่งผู้ว่าฯเคลียร์ใจชาวบ้านหลังเตรียมยื่นเรื่องศาลปกครองร้องรัฐไม่ศึกษาอีไอเอ ยันพร้อมแจงนักลงทุนญี่ปุ่นแล้ว พร้อมเปิดให้ซักถาม วอนยุติเผาป่า หลังทางเหนือเจอปัญหาหมอกควันเข้าขั้นวิกฤต ขู่พบ จนท.เอี่ยวเผาป่าจัดการขั้นเด็ดขาด

วันนี้ (5 มี.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ชาวบ้านยื่นเรื่องต่อศาลปกครองฟ้องร้องกรณีรัฐบาลปล่อยเงินกู้ธนาคารออมสิน เพื่อให้นิคมอุตสาหกรรมสร้างพนังกั้นน้ำ โดยยังไม่มีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม อีไอเอ เนื่องจากหวั่นกระทบชุมชน ว่า ได้ฝากทีมงานด้านกระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงคมนาคม ศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว ขณะเดียวกัน ขอความเห็นใจมีภาระความจำเป็นเร่งด่วนในการก่อสร้าง แต่ไม่ได้หมายความว่า สิ่งที่เราทำแนวป้องกันนิคมอุตสาหกรรม โดยไม่ห่วงใยพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลงไปอธิบายมาตรการในการดูแลช่วยเหลือประชาชนบริเวณนั้นด้วย เพราะถ้าความมั่นใจของภาคธุรกิจ โดยเฉพาะต่างชาติไม่มีความมั่นใจ แล้วถอนการลงทุนไป สิ่งที่สะท้อนกลับมาคือ ไม่มีการจ้างงานคนในบริเวณนั้น ดังนั้น เป็นวิธีที่เรามีความจำเป็นต้องเลือกวิธีนี้เพื่อเป็นการป้องกันมาตรการระหว่างที่จะมีการแก้ไขปัญหาอย่างยั้งยืน หากเรารอแต่การแก้ไขปัญหาอย่างยั้งยืน เราไม่อยากให้ทุกคนผวากับน้ำ ฉะนั้นมาตรการป้องกันคงต้องทำในจุดพื้นที่สำคัญ

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะส่งผลกระทบต่อการเดินทางไปสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุนที่ประเทศญี่ปุ่นหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ณ วันนี้คงต้องดำเนินการตามแผนเดิม ตราบใดถ้ามีผลคำพิพากษาออกมาอย่างไรก็คง

ต้องกลับมาดูในรายละเอียดว่า เนื้อหาเป็นอย่างไร เมื่อถามว่า การที่นายกรัฐมนตรีจะไปโรดโชว์เรียกความเชื่อมั่นที่กรุงโตเกียว และนาโกยา ประเทศญี่ปุ่น จะมีการเสนอมาตรการอะไรเพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา นายกฯ กล่าวว่า คงจะเอาแผนมาตรการป้องกันน้ำ ทั้งเร่งด่วน และยั่งยืน รวมถึงการป้องกันแนวนิคมอุตสาหกรรม และมาตรการดูแลช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเวลานี้มีแผนในการอธิบายอยู่แล้ว โดยทางบีโอไอได้มีการจัดสัมมนาภาคธุรกิจที่มีความประสงค์จะลงทุนในประเทศไทย หรือถือหุ้นอยู่ในเมืองไทยอยู่แล้ว ซึ่งตรงนี้เรามีโอกาสจะชี้แจงแผนให้รับทราบด้วย

เมื่อถามว่า มั่นใจได้หรือไม่จะเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาได้ นายกฯ กล่าวว่า เราต้องทำอย่างดีที่สุด ซึ่งรัฐบาลยืนยันในการสร้างความมั่นใจ แต่ต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการช่วยกันสร้างความมั่นใจ ซึ่งวันนี้เราต้องสร้างความมั่นใจให้ต่างประเทศได้มากที่สุด ถ้าเรายังเห็นไม่ตรงกัน คนที่มาลงทุนจะเกิดความลังเล เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องชี้แจงทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วน เมื่อถามต่อว่า จะเปิดโอกาสให้กลุ่มนักลงทุนได้ซักถามในมาตรการของรัฐบาลด้วยหรือไม่ ตามที่ฝ่ายค้านเสนอแนะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยินดีเปิดโอกาสให้กับภาคเอกชนในการซักถาม รวมถึงเราจะรับฟังข้อกังวลใจของภาคเอกชน ซึ่งจะมีทั้งการจัดสัมมนาโดยรวมของภาคเอกชนที่เป็นกลุ่มลงทุนอยู่แล้วกับกลุ่มที่ตั้งใจจะมาลงทุนในประเทศไทย และสำหรับรายใหญ่ๆที่มีความสนใจจริงๆ เราจะมีการพบปะเป็นรายบริษัทด้วย จะทำทั้ง 2 รูปแบบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในเวทีการเจรจาเขตการค้าเสรีไทย-ญีุ่ปุ่น เจเทปบ้า จะมีพูดถึงนโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และเรื่องน้ำอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า จะพูดถึงมาตรการเร่งด่วน แนวทางบริหารจัดการน้ำ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ

ปลายน้ำ และการบริหารจัดน้ำในเขื่อน การหาพื้นที่รับน้ำ รวมถึงมาตรการเยียวยา และแผนป้องกัน โดยเฉพาะพื้นที่โซนเศรษฐกิจหรือนิคมอุตสาหกรรม คือแนวพนังกั้นน้ำถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต่างประเทศจะเห็นเป็นรูปธรรมในการป้องกัน รวมถึงมาตรการการเงินที่ช่วยให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ สำหรับผู้ประกอบการ

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีปัญหาหมอกควันในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือว่า เราได้ติดตาม และสั่งการในที่ประชุม ครม.ถึง 2 ครั้ง โดยในพื้นที่ได้ให้มีการพ่นน้ำ ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัด ได้รับนโยบายไปดำเนินการแล้ว และได้สั่งการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และปลัดกระทรวงมหาดไทยบูรณาการนำแผนต่างๆ และปัญหาปัจจุบันที่เกิดขึ้น และมาตรการชี้แจงประชาชนในช่วงบ่ายวันจันทร์ที่ 5 มี.ค.นี้ สิ่งที่ต้องการขอความร่วมมือคือการเผาขยะ เพราะช่วงนี้อยู่ในช่วงฤดูกาล ทำเกษตรกรรมใหม่ อยากขอความร่วมมือประชาชน กรุณาอย่าเผาช่วงนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือเป็นพื้นที่ที่มีแอ่ง ทำให้การระบายอากาศเป็นไปค่อยข้างยาก ซึ่งมีหลายวิธี โดยการเอาฟ่างข้าวไปแช่น้ำเพื่อเปลี่ยนเป็นปุ๋ยต่างๆ คงจะให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปทำความเข้าใจ ชี้แจงแนะแนวทางในพื้นที่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูเหมือนว่า วันนี้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องการเผาป่า นายกฯ กล่าวว่า เราได้สั่งให้มีการตรวจสอบถ้าเจ้าหน้าที่มีส่วนในการร่วมกระทำนี้ คงต้องมีมาตรการลงโทษ เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ถ้าชาวบ้านต้องการเผาป่าเพื่อทำเกษตรกรรม ควรจะต้องแจ้งทางการให้เข้าไปช่วยดูแล นายกฯ กล่าวว่า ต้องทำซึ่งวันนี้จะมีการหารือเพื่อออกมาตรการป้องกันการเผา รวมถึงการทำลายป่าด้วย โดยจะวางมาตรการ 2 อย่างควบคู่กันไป