รายงานการเมือง
การประชุม ครม.หนล่าสุด “บัณฑูร สุภัควณิช” เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เด้งออกจากตำแหน่งไปแขวนลอยอยู่ในตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ท่ามกลางความงุนงงสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับบุคคลระดับใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี นายกรัฐมนตรีประเทศไทยตัวจริง
“บัณฑูร” ผู้ซึ่งเคยเป็นเพื่อนสนิทกับ พ.ต.ท.ทักษิณ สมัยข้ามน้ำข้ามทะเลไปเรียนอยู่ที่สหรัฐอเมริกา และถูกวางตัวให้มาดำรงตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ช่วยกรองงานด้านเอกสารราชการ กฎหมาย และงบประมาณต่างๆ เนื่องจากมีความรู้ความเชี่ยวชาญ เพราะเคยเป็น ผอ.สำนักงบประมาณมาก่อน
วันนี้ต้องจำใจจากลาจากตำแหน่งนายกฯ น้อย...
หลายคนหลายข่าวออกมาระบุว่า “บัณฑูร” ไขก๊อกเพราะปัญหาเรื่องสุขภาพที่ไม่สู้ดีนัก ต้องเข้าโรงหมอซ่อมร่างกายอยู่บ่อยครั้ง และคนในครอบครัวต้องการให้พักผ่อน แต่ทว่ายังไม่มีใครเชื่อสนิทใจ!!
สิ่งที่คนเชื่อมากกว่า มีสัญญาณที่ชัดเจนกว่า คือ “บัณฑูร” ถูกล้วงลูก!!
นับตั้งแต่ชายร่างอวบ “สุรนันทน์ เวชชาชีวะ” อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย เข้ามาเป็นทีมงานของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี หลายสิ่งหลายอย่างในทีมงานรอบข้างนายกฯ ต้องเปลี่ยนแปลงไป
นี่เองน่าจะเป็นสาเหตุสำคัญของการตัดสินใจของ “บัณฑูร” เพราะระยะหลัง “ยิ่งลักษณ์” ให้ความสำคัญ “สุรนันทน์” มากกว่า
“สุรนันทน์” โดดหนีพรรคไทยรักไทย ไปเป็นแนวร่วมพรรคเพื่อแผ่นดิน ทั้งยังตั้งกลุ่มกรุงเทพฯ 50 มาสู้กับต้นสังกัดเก่า สร้างความขุ่นเคืองให้พลพรรคเพื่อนเก่ารวมไปถึงนายใหญ่ พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อรู้ตัวว่าไปไม่รอดก็ซมซานหาช่องทางกลับบ้านเก่า เมื่อสบโอกาส ช่วงวิกฤตน้ำท่วม สมาชิกบ้านเลขที่ 111 ปรากฏกายที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) กันเอิกเกริก ก็สวมรอยอาศัยจังหวะโผล่หน้ามาโชว์ตัวกับเขาบ้าง จากนั้นก็ค่อยๆ แซะค่อยๆ แทรกเข้าไปคลุกวงในคลุกคลีกับ “ยิ่งลักษณ์” หวังโตทางลัดในฐานะคนใกล้ชิดนายกฯ
หวังได้เป็นรัฐมนตรีตอนสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ปลดล็อก
ด้วยความเป็นคนที่มีฝีไม้ลายมือพอสมควร รู้ว่าใครต้องการอะไร อย่างไร ก็ทำงานจนเข้าขาเป็นที่โปรดปรานของ “ยิ่งลักษณ์” กลายเป็นพิธีกรหลักประจำรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน” ในรูปแบบเรียลิตีโชว์ จ้อกันมันปาก คนหนึ่งชงคนหนึ่งตบ อวยกันสนุกสนาน จนต้องขยายเวลาเพิ่มเติมจากเดิมครึ่งชั่วโมง เป็นหนึ่งชั่วโมงเต็ม..
“สุรนันทน์” ได้รับความไว้วางใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทำหน้าที่คล้ายเป็นเลขาธิการนายกฯ กลายๆ นั่งประจำการตึกไทยคู่ฟ้าคอยสกรีนงานแทบทุกเรื่อง โครงการต่างๆ ที่บรรดานักการเมือง ส.ส.เสนอมา หลายโครงการโดนตีตกไปจากผู้ชายร่างอวบคนนี้!!
ไม่ต้องถาม “สุรนันทน์” ใหญ่ขนาดไหน เอาเป็นว่าพูดอะไรตอนนี้นายกฯ ปู โฟร์ซีซั่นส์เชื่อหมด กลายเป็นคนสนิทในเร็ววัน สร้างความเดือดแค้นเอือมระอาให้ใครหลายฝ่าย โดยเฉพาะทีมงานรอบข้างนายกฯ รวมไปถึงทีมโฆษกฯ เพราะ “หนูปุ้ม-สุรนันทน์ ออกลายเจ้ากี้เจ้าการ ยกตนเป็นหัวหน้าใหญ่ ถึงขนาดชี้นิ้วสั่งการว่าจะให้ความสำคัญกับสื่อมวลชนค่ายไหนอย่างไรมากน้อยแค่ไหน จนทีมงานส่ายหัวไปตามๆ กัน เพราะไม่เห็นด้วยกับแนวทางนั้น
“ปุ้ม-สุรนันทน์” ใหญ่คับทำเนียบ!! หวังทำคะแนนรีบสร้างผลงานให้เป็นที่ชื่นชอบของนายกฯ เพื่อความเป็นใหญ่ในอนาคตเพราะรู้ตัวดีว่าตัวเองมาทีหลัง ต่อคิวรั้งท้าย คนในจ่อคิวอยู่เพียบ
ใครไม่ชอบไม่เป็นไร “นายใหญ่” ไม่โปรดเดี๋ยวค่อยไปกราบ แต่ตอนนี้ต้องครองใจ “ยิ่งลักษณ์” ให้ได้ไว้ก่อน ความเคลื่อนไหวแทรกซึมกลับเข้ามาแบบเนียนๆ ของ “สุรนันทน์” คนในพรรคเพื่อไทยกำลังจับตาอย่างใกล้ชิด แทบทุกฝ่ายออกอาการต่อต้านอย่างเห็นได้ชัด เพราะมองว่ากำลังหวังเข้ามาชุบมือเปิบแบบน่าเกลียด
ภาค กทม.ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ซึ่งเคยเป็นรังเก่าของ “สุรนันทน์” ประกาศ “ไม่เอา” ชัดเจน ชี้หน้าเป็นคนทรยศตัดช่องน้อยทิ้งกลุ่มไปเมื่อยามเดือดร้อนลำบาก ซ้ำยังตั้งกลุ่มก้อนมาแข่งกับอู่ข้าวอู่น้ำเดิมอย่างไม่กระดากใจ จะเอากลับมาให้เปลืองโควตา เปลืองตำแหน่งทำไม ในขณะที่กลุ่มก๊วนอื่นๆ ก็ต่อต้านแน่นอน ใครที่ทรยศแล้วจะกลับเข้ามาแย่งเก้าอี้ แย่งตำแหน่ง ยอมไม่ได้ ต้องโหวกเหวกโวยวายลั่นพรรคแน่
“สุรนันทน์” สมัยอยู่พรรคไทยรักไทยก็สังกัดแต่ภาค กทม.จะไปกลุ่มอื่นก็ไม่ได้ ส.ส.ในมือไม่มี พรรคพวกก็ไม่มี โอกาสจะกลับมายังพรรคเพื่อไทยนั้นเหมือนปิดตาย ที่ทำการพรรคเพื่อไทยยังไม่กล้าเหยียบเข้าไปจนถึงตอนนี้
การกลับเข้ามาโดยอาศัย “ยิ่งลักษณ์” จึงเป็นหนทางที่แนบเนียนและสวยงามที่สุด เพราะอดีตทีมงานของตัวเองตอนนี้ก็ทำงานใกล้ชิดอยู่กับนายกฯ จึงมีช่องทางกลับมาได้สะดวก เมื่อทำงานระยะหนึ่งได้รับความไว้วางใจจากนายกฯแล้ว ก็ค่อยๆ ซึมกลับเข้าสู่พรรค เข้ามาบริหารจัดการอะไรบางอย่าง เหมือนกับที่เกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ “สุรนันทน์” ใหญ่คับทำเนียบ เป็นเลขาธิการนายกฯ ตัวจริง นายกฯ ออกอาการให้ความไว้วางใจมากเป็นพิเศษ จนคนรอบข้างอื่นๆ สังเกตเห็น แต่ทำอะไรไม่ได้
วันนี้ “สุรนันทน์” ยังติดล็อกสมาชิกบ้านเลขที่ 111 แต่กลับกลายเป็นคนโปรดถึงขั้นแต่งตั้งให้เป็นโฆษกประจำตัวนายกฯ คอยเป็นปากเป็นเสียงในเรื่องส่วนตัว บ่งบอกถึงระดับความใกล้ชิดระหว่าง “ยิ่งลักษณ์-สุรนันทน์” เป็นอย่างดี ด้วยความที่เป็นวัยเดียวกัน พูดจาภาษาเดียวกัน จบนอกเหมือนกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลงานการเมืองกันได้ ยิ่งเข้าขากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย
ทำไปทำมามันดูคลับคล้ายคลับคลากับ พ.ต.ท.ทักษิณ พี่ชายนายกฯ
ที่ในอดีตมีความสนิทสนมไว้วางใจ “เนวิน ชิดชอบ” เป็นพิเศษ “ทักษิณ” อยู่ไหน “เนวิน” อยู่นั่น แทบจะเป็นเงาไม่ห่างกาย ทักษิณมอบงานให้ทำหลายเรื่อง รับฟังแต่ความเห็น “เนวิน” จนลืมฟังเสียงสมุนคนอื่นๆ หรือฟังก็ฟังแบบขอไปที เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา นานวันเข้านานวันไป เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณเริ่มเป๋ ไปตามแรงชักจูงของคนสนิท ก็ไม่มีใครทัดทานได้ เหมือนต้องมนต์เขมรอย่างที่คนนินทากัน
บางครั้งคนรอบข้างได้ออกมากระตุ้นเตือนด้วยความหวังดีแต่ระคายหู “ทักษิณ” กลับมองว่าแข็งข้อ คิดต่าง ไม่เชื่อฟัง แต่เมื่อคนสนิทอรรถาธิบายด้วยคำหวาน ป้อยอ ก็เชื่อสนิทใจ เรื่องลักษณะนี้เกิดขึ้นแล้ว และทำให้คนรอบข้างเอือมระอา ตีตัวออกห่างในที่สุด “หวานเป็นลม ขมเป็นยา” นายใหญ่เคยเจอมาแล้ว
วันนี้ “ยิ่งลักษณ์” กำลังเพลินกับการบริโภคของหวาน ออกอาการอี๋อ๋อให้ความสำคัญใครเป็นพิเศษ โดยไม่ฟังคนอื่นรอบข้าง ลุ่มหลงมัวเมากับของหวานที่วางตรงหน้า
ถ้า “ยิ่งลักษณ์” ไปไกลถึงกลางปีนี้ “สุรนันทน์” คงมีหวังได้เก้าอี้สำคัญในรัฐบาลแน่