ประชุมสภาฯ ล่ม ภารกิจปู ว.5 ทำเหตุ เจ้าตัวชิ่งหนีกระทู้สด ส่ง “ยุทธศักดิ์” ตอบแทน “สมศักดิ์” ใช้อำนาจประธานบีบ “รังสิมา” ให้ตั้งคำถามถามตัวแทน แถมตีตกกระทู้ พร้อมชิงปิดประชุมหนีฝ่ายค้านสงสัยตัวแทนร่วมปฏิบัติภารกิจที่โฟร์ซีซั่นส์ ชั้น 7 ด้วยหรือ พร้อมฮือประท้วงวอล์กเอาต์ “เผด็จการรัฐสภา”
วันนี้ (16 ก.พ.) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างการพิจารณาวาระกระทู้สดของ น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ที่กระทู้สดเรื่องการปฏิบัติภารกิจของนายกรัฐมนตรีในระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ถามนายกรัฐมนตรี แต่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมได้ชี้แจงว่านายกรัฐมนตรีติดภารกิจไปต่างจังหวัด และได้มอบหมายให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ตอบแทน
น.ส.รังสิมากล่าวว่า ตนต้องการกระทู้ถามนายกฯ แต่กลับมอบหมายให้รองนายกฯ มาตอบ ก็แปลกใจว่าจะตอบได้หรือไม่ เพราะไปอยู่ชั้น 7 กับนายกฯ หรืออย่างไร และรู้หรือไม่ว่านายกฯ ได้พูดคุยอะไรบ้าง หรือพูดคุยอยู่กับท่าน ฉะนั้นตนจึงต้องการถามนายกฯ และอยากให้นายกฯ มาตอบเท่านั้น
ด้าน นายสมศักดิ์กล่าวว่า การตั้งกระทู้ถามสดจะไม่ถามเรื่องส่วนตัว และคนรู้กันทั้งประเทศว่าตอนนี้นายกฯ ไม่อยู่ ไปปฏิบัติภารกิจป้องกันน้ำท่วม และนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาคนที่ 2 ได้รายงานตนว่าได้ตกลงกับเจ้าของกระทู้ว่านายกฯ ติดภารกิจจะให้คนอื่นมาตอบแทน ซึ่งก็ไม่ขัดข้อง และต้องไม่เป็นเรื่องของส่วนตัวด้วย เพราะถ้าเกี่ยวข้องกับภารกิจ รักษาการนายกฯ ก็น่าจะตอบแทนได้
ขณะที่ น.ส.รังสิมากล่าวว่า ตนไม่ได้ถามเรื่องส่วนตัว เพราะของของท่านตนไม่สนใจอยู่แล้ว ขณะที่นายสมศักดิ์ได้รีบตัดบทให้ถามเลยอย่าเสียเวลา
แต่ ส.ส.ฝ่ายค้าน นพ.วรงค์ เดิชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ประท้วงว่า ตามข้อบังคับการประชุม และรัฐธรรมนูญเขียนชัดว่า ให้เป็นนายกฯ หรือรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และกระทู้ถามปัญหาการไปปฏิบัติภารกิจนอกสถานที่ในเวลาราชการของนายกฯ จะให้รองนายกฯ ตอบไม่ได้ เพราะนายกฯ เป็นคนไปปฏิบัติราชการ และประธานจะต้องบอกกับคณะรัฐมนตรีว่าทุกวันพฤหัสบดีทำตัวให้ว่างด้วยเพื่อมาร่วมประชุมสภา ถ้าอ้างติดภารกิจก็จะเกิดปัญหาแบบนี้เรื่อยๆ ดังนั้น ถ้า น.ส.รังสิมายืนยันจะถามนายกฯ ก็ต้องมีสิทธิ์
ด้าน นายสมศักดิ์เถียงว่า โดยข้อบังคับการประชุมตนไม่ขอแย้ง แต่ตามการปฏิบัติก็ทำมาแบบนี้ตลอด สามารถมอบหมายรัฐมนตรี หรือผู้รับผิดชอบตอบแทนได้ และอ้างว่ากรณีนี้ผู้นำฝ่ายค้านเห็นชอบด้วย ทำให้นายอถิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ลุกขึ้นชี้แจงว่า ความจริงนายกฯ ไม่ว่าท่านใดจะต้องทราบอยู่แล้วว่าเวลา 11.00 น.ทุกวันพฤหัสบดีจะมีกระทู้ถามสด ประธานควรช่วยแจ้งรัฐบาลให้ทราบด้วยและควรให้ความสำคัญ ยอมรับว่าไม่ใช่ทุกเรื่องที่นายกฯ ต้องตอบเอง โดยมอบหมายให้ท่านหนึ่งท่านใดตอบแทนได้ แต่ปัญหาคือสมาชิกถามเรื่องการปฏิบัติภารกิจของนายกฯ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ที่ได้รับมอบหมายให้มาตอบ เมื่อประธานยอมรับในข้อบังคับ ง่ายที่สุดก็ควรเลื่อนไป และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ไม่ถือว่าเป็นรักษาการนายกฯ เพราะนายกฯ ไม่ได้เดินทางออกนอกประเทศ ดังนั้นถ้าถือว่ามีรักษาการนายกฯ แสดงว่า ณ เวลานี้นายกฯ จะไปสั่งการน้ำท่วมไม่ได้
อย่างไรก็ตาม นายสมศักดิ์ยังคงยืนยันว่ามีข้อตกลงกันแล้ว แต่เมื่อมากลับลำเช่นนี้ก็คงไม่ได้ ขณะที่ ส.ส.เพื่อไทยหลายคนพยายามกล่าวสนับสนุนการวินิจฉัยของนายสมศักดิ์ และกล่าวหาว่าฝ่ายค้านมีเจตนาเล่นการเมืองเพราะรู้อยู่แล้วว่านายกฯ ไม่อยู่และเมื่อถามถึงการปฏิบัติภารกิจ ผู้ได้รับมอบหมายก็มีสิทธิ์ตอบแทนได้
แต่ นายประเสิรฐ พงษ์สุวรรณศิริ ส.ส.ยะลา พรรคประชาธิปัตย์ แย้งว่า เวลานี้นายกฯ อยู่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และน.ส.รังสิมา มีสิทธิ์ที่จะยื่นกระทู้ถามสดในวันประชุมก่อนเวลาเริ่มการประชุมตามข้อบังคับ ถ้านายกฯ เข้าใจก็ควรรีบกลับมาสภาฯ เพื่อตอบกระทู้ให้จบเพราะใช้เวลาไม่มาก และเรื่องนี้ถูกต้องตามข้อบังคับทุกอย่าง และยังเป็นที่สนใจของประชาชนอย่างมาก ส่วนที่นายสมศักดิ์ อ้างถึงคำพูดของนายวิสุทธิ์ นั้นไม่เป็นความจริง เพราะตนก็อยู่ระหว่างที่ น.ส.รังสิมายื่นกระทู้ด้วย อยู่ในความสนใจของประชาชน แต่ความผิดพลาดอยู่ที่นายกฯ ติดภารกิจไม่มาตอบ
ส่วน นพ.ประกิต อัถโถปกรณ์ ส.ส.ตรัง กล่าวสนับสนุนว่า ไม่มีการตกลงว่าให้รองนายกฯ มาตอบแทนได้ เพราะในระหว่างหารือมีสมาชิกอยู่เพียง 4 คน คือ ตน น.ส.รังสิมา นายประเสิรฐ และนายวิสุทธิ์ ดังนั้นต้องมีคนใดคนหนึ่งโกหก แต่นายสมศักดิ์ยังคงยืนยันว่าเชื่อตามคำพูดของนายวิสุทธิ์ และบังคับให้ น.ส.รังสิมาเริ่มคำถามได้ แต่ น.ส.รังสิมายังไม่ขอตั้งคำถามจนกว่าจะมีความชัดเจนในเรื่องข้อตกลง ทำให้นายสมศักดิ์วินิจฉัยว่าถ้าไม่ถามตนก็จะให้กระทู้นี้ตกไป
ด้าน นายวิสุทธิ์ได้ใช้สิทธิ์ถูกพาดพิง ชี้แจงว่า ในช่วงเช้า น.ส.รังสิมามายื่นกระทู้จริง แต่ตนได้ถามว่าเป็นการถามเรื่องส่วนตัวหรือไม่ เพราะตามรัฐธรรมนูญ ม.157 และข้อบังคับการประชุมสภาฯ ข้อ 143 ห้ามไว้ชัดเจน แต่ ส.ส.รังสิมายืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว แต่เป็นเรื่องการปฏิบัติภารกิจนายกฯ และทราบว่านายกฯ ไม่อยู่ ตนก็บรรจุให้ถามได้ และรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายก็น่าจะตอบแทนได้
ด้าน ส.ส.พรรคเพื่อไทยต่างพยายามสนับสนุนให้นายสมศักดิ์ วินิจฉัยให้กระทู้นี้ตกไป โดยอ้างว่าเจ้าของกระทู้ไม่ยอมตั้งคำถามและเลยเวลาไป 20 นาที และใช้วาจาไม่สุภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายสมศักดิ์ และส.ส.พรรคเพื่อไทย รุมบีบให้ถาม น.ส.รังสิมา ได้กล่าวว่า ตนอยากถามว่าในวันนั้นที่นายกฯ ไปปฏิบัติภารกิจที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ชั้น 7 พล.อ.ยุทธศักดิ์ได้ขึ้นไปด้วยหรือไม่ และทราบหรือไม่ว่ามีการพูดเรื่องอะไร ถ้าไม่ทราบก็ไม่ต้องตอบ และขอให้เลื่อนกระทู้ไปครั้งต่อไป
แต่นายพิชิต ชื่นบาน ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นประท้วงให้ถอนคำพูดที่ว่า นายกฯ ไปปฏิบัติภารกิจในห้องส่วนตัวชั้น 7 เพราะถือว่าเป็นการพูดที่เสียดสี ใส่ร้าย และคนที่เป็นลูกผู้หญิงไม่น่าพูดแบบนี้ เพราะทำให้ดูไม่ดี โดยเฉพาะคำว่า “ถ้าเป็นฉัน ฉันไม่ทำ”
ปรากฏว่านายสมศักดิ์ได้รีบสั่งให้ น.ส.รังสิมาถอนคำพูดทันควัน สร้างความงุนงงให้กับ น.ส.รังสิมา ที่พยายามอธิบายว่าตนไม่ได้พูดตามที่นายพิชิตให้ถอน และขอร้องให้นายสมศักดิ์ทำหน้าที่เป็นตัวของตัวเอง แต่นายสมศักดิ์ได้ชิงปิดไมค์ไม่ให้อธิบาย โดยยืนยันแต่เพียงว่าต้องถอนคำพูดก่อน ไม่เช่นนั้นจะไม่ให้พูดต่อไป และเมื่อ น.ส.รังสิมาย้อนถามว่าจะให้ตนถอนคำไหน นายสมศักดิ์ตอบไม่ได้ โดยได้แต่อ้อมแอ้มว่า “ผมขอให้ถอนตามที่ท่านพิชิต พูดถึงเรื่องภารกิจส่วนตัว และที่ว่าถ้าเป็นฉัน ฉันไม่ทำ ไม่เช่นนั้นผมจะไม่ให้ถามต่อไป”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อมาถึงช่วงนี้บรรยากาศในห้องประชุมเริ่มวุ่นวาย โดย ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์พากันยกมือประท้วงการทำหน้าที่ประธานของนายสมศักดิ์ ที่พยายามบีบให้ น.ส.รังสิมาถอนคำพูดทั้งที่ไม่ได้เอ่ย แต่นายสมศักดิ์ไม่อนุญาตให้ประท้วง และสั่งให้นั่งลง ทำให้ฝ่ายค้านหลายคนเดินออกจากห้องไป ขณะที่บางส่วนพยายามยืนประท้วงต่อไป ทำให้นายสมศักดิ์ลุกขึ้นยืนและเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งชายและหญิงมาเชิญตัวผู้ที่ไม่ยอมนั่งออกจากห้องประชุม และพยายามจะดำเนินการประชุมต่อไปหลังจากที่วินิจฉัยให้กระทู้ของ น.ส.รังสิมา ตกไป
ขณะที่ ส.ส.ฝ่ายค้านที่เดินออกไปได้เดินกลับเข้ามาร่วมยืนประท้วงกันวุ่นวาย พร้อมเสียงตะโกนตำหนิว่าเผด็จการรัฐสภา ที่นี่ไม่ใช่การประชุมพรรคเพื่อไทย ส่วนเจ้าหน้าที่ก็ไม่กล้าควบคุมตัวสมาชิกออกไปแม้นายสมศักดิ์ พยายามสั่งให้คุมตัวออกไปก็ตาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประท้วงวุ่นวายจนนายสมศักดิ์ ควบคุมการประชุมไม่ได้ จนในที่สุดได้สั่งให้พักการประชุม 15 นาที แต่เมื่อเริ่มเปิดประชุมอีกครั้งในเวลา 13.45 น. นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาคนที่ 1 ได้ขึ้นมาทำหน้าที่ประธานการประชุม และได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าได้ประชุมมาพอสมควรแล้วจึงเห็นสมควรให้ปิดการประชุม
