โฆษกประชาธิปัตย์ แฉ “ยิ่งลักษณ์” ต้มคนดูกลางจอ สั่งแม่ค้าขายแกงธงฟ้า ชี้น่าเสียใจ “นช.แม้ว” ปลุกปั่นแดงไม่เลิก วอนตาสว่างอย่าสนองตัณหาแกนนำ หยันสั่งเยียวยาให้เสร็จใน 3 เดือน ทำยาก ท้าเอาเงินตัวเองจ่ายฐานหลอกคนมาตายแทน ปูดถกรัฐจีนหวังเอาสินค้าเกษตรแลกหัวรถจักร สับคอนเสิร์ต นปช.ตั้งโต๊ะล่าแก้ ม.112 ด้วย “เทพไท” เชื่อบันได 3 ขั้นสู่อำนาจ ชี้ นัดชุมนุมแสดงพลังกดดันกองทัพ
วันนี้ (26 ก.พ.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไปสำรวจตลาดสดมีนบุรี พร้อมกับแสดงการควบคุมราคาสินค้า โดยสั่งให้แม่ค้าขายข้าวแกงในราคาที่ตนเองกำหนด และให้นำธงฟ้ามาติดที่หน้าร้าน โดยพูดถึงราคาไข่ไก่ว่ามีราคาถูกแล้ว แต่ขั้นตอนจากราคาหน้าฟาร์มมาถึงมือประชาชน ทำให้มีราคาสูงขึ้นนั้น ไม่ใช่ข้อเท็จจริง แต่เป็นเพราะนโยบายเสรีการนำเข้าแม่พันธุ์ไก่ ทำให้ราคาไข่ถูกลง เพราะมีผลผลิตมากขึ้น แต่ขณะนี้ราคาไข่สูงขึ้น เพราะพ่อค้าคนกลางรวมมือกันดึงราคาให้สูงขึ้นมาเพื่อบีบให้รัฐบาลยกเลิกนโยบายดังกล่าว
นายชวนนท์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ สื่อมวลชนบางฉบับยังได้รายงานการให้สัมภาษณ์เบื้องหลังของโครงการธงฟ้าในตลาดมีนบุรี โดยแม่ค้าคนหนึ่งพูดชัดว่า มีการบังคับให้ลงทะเบียนและขายข้าวแกงในราคาที่นายกฯกำหนด และเป็นไปไม่ได้ที่จะขายได้ในราคาจานละ 20-25บาท โดยพูดชัดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับไปแล้วก็จะดึงป้ายออก ถือเป็นการออกทีวีโกหกตบตาประชาชนเป็นเรื่องเป็นราว เพราะแม่ค้ายืนยันว่า ราคานี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซื้อได้คนเดียวไม่มีใครซื้อได้ เป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่า รัฐบาลชุดนี้ใช้การตลาดตบตาประชาชนปิดเบือนข้อเท็จจริง เอาตัวรอดไปวันๆ ประชาชนต้องรับรู้และไม่ยอมตกเป็นเบี้ยล่างให้ถูกหลอกอีกต่อไป
“ข้างหนึ่งพี่ชายก็ไปหลอกประชาชนที่โบนันซ่า อีกข้างหนึ่งน้องสาวก็มาหลอกที่ตลาดมีนบุรี ให้ประชาชนหลงเชื่อหลงผิด สนับสนุน เพื่อที่ตัวเองจะได้กอบโกยผลประโยชน์กันต่อไป ถือเป็นบทสรุปของความเสียหายของรัฐบาลและความน่าเสียใจของประเทศไทยในวันนี้” นายชวนนท์ กล่าว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงกรณีการวิดีโอลิงก์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีที่ดินรัชดาฯ มายังเวทีคอนเสิร์ตของคนเสื้อแดงที่โบนันซ่า ว่า ยินดีที่ยังเห็น พ.ต.ท.ทักษิณ สุขสบายอยู่ต่างประเทศ หลังจากที่ใช้มวลชน หรือกองกำลังของตนเองปลุกปั่นล้มล้างรัฐบาลที่แล้ว ส่งผลให้น้องสาวได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่สิ่งที่น่าเสียใจ คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังโกหกปลุกปั่นมวลชนซ้ำซาก ใช้คำพูดหวานหลอกล่อพี่น้องประชาชน แต่ที่ข้อเท็จจริงขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ต่างถึงเป้าหมายของแต่ละคน
นายชวนนท์ กล่าวต่อว่า กลุ่มคนเสื้อแดงควรตาสว่าง อย่าเชื่อคำพูดเหล่านั้นเพื่อสนองตอบตัณหาของคนระดับแกนนำเท่านั้น ข้อเท็จจริงพี่น้องเสื้อแดงจำนวนมากยังติดคุก ถูกดำเนินคดี ไม่ได้รับการช่วยเหลือ และการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดว่าให้เร่งรัดการชดเชย เยียวยาให้เสร็จภายใน 3 เดือน พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะทราบดีว่าจริงแล้วอาจจะเป็นไปได้ยาก ก็เป็นการสร้างความหวังให้พี่น้องประชาชนว่าคนเหล่านี้ยังดูแลเขาได้ แต่ข้อเท็จจริงเงิน 7.75 ล้าน ที่จะมาดูแลประชาชน ขั้นตอนในการพิจารณายังไม่คืบหน้าและเป็นไปตามที่พูด และเงินเหล่านั้นก็เป็นเงินภาษีของทุกคนไม่ใช่เงินของ พ.ต.ท.ทักษิณ
นายชวนนท์ กล่าวต่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังพูดไปถึง นายชวน หลีกภัย ว่า ถ้าอยากจะให้ชดเชยให้นั้น ก็ให้ประชาธิปัตย์ยอมรับว่าเป็นผู้กระทำ คงไม่ได้หรอกครับ เพราะข้อเท็จจริงพี่น้องประชาชนเหล่านี้ถูกหลอกเข้ามา และใช้ชีวิตของคนเหล่านี้เป็นบันไดให้ตนเองเหยียบขึ้นสู่อำนาจ ตนเชื่อว่า นายชวน เป็นผู้อาวุโสที่มีอำนาจ ถ้ามีประชาชนแม้แต่คนเดียวที่ล้มเจ็บตายไปเพราะท่าน ตนเชื่อว่า ท่านจะดูแลประชาชนเหล่านั้น แต่ นายชวน ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเหตุที่เกิดขึ้น พ.ต.ท.ทักษิณ เองที่เป็นผู้ทำให้ประชาชนต้องสูญเสีย
จากนั้น นายชวนนท์ ได้เปิดคลิปปราศรัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ตนเองจะเดินเข้ากรุงเทพฯพร้อมนำประชาชนเข้ามา รวมถึงนำบทสัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เรื่องการชดเชยเยียวยาคนเสื้อแดงมาแสดงด้วย พร้อมกล่าวต่อว่า เป็นการปลุกปั่นให้คนเข้ามาในกรุงเทพฯ สร้างความแตกแยก ให้มีการเผาบ้านเผาเมือง สุดท้ายจบลงโดยการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประเทศ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องรับผิดชอบตามที่ได้สัญญาไว้
“เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นลูกผู้ชายเมื่อพูดแล้วต้องทำได้ 7.75 ล้านต่อคน ไม่ระคายผิวอยู่แล้ว กล้าที่จะเสียสละคุณทรัพย์ส่วนตัวบ้าง ไม่ใช่ว่าหลอกเขามาเข้าสู่อำนาจรัฐ ตนเองกอบโกยผลประโยชน์ และนำเอาเงินภาษีไปชดเชยให้กับคนเหล่านี้” นายชวนนท์ กล่าว
นายชวนนท์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่แปลกนอกจากนี้ในการปราศรัยที่สะท้อนให้เห็น คือ พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามที่จะพูดถึงนโยบายขายฝันต่างๆ แต่ก็สะท้อนให้เห็น คือ 1.การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องไม่เปิดองค์กรที่มีอำนาจเหนือกว่ารัฐบาล หรือมีอำนาจอิสระในการตรวจสอบ แสดงว่าพ.ต.ท.ทักษิณ มีเจตนาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และยกเลิกองค์กรอิสระ 2.จะเห็นว่าคนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ คิดเป็นแต่เรื่องหาเงิน การสร้างหนี้ และพูดชัดว่าการสร้างรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ที่จะได้เห็นปลายปี เป็นความพยายามหลอกล่อ เพื่อนำสินค้าเกษตรไปแลก เป็นสินค้าเกษตรที่ไปรับจำนำมาและขายไม่ได้ ประเภทที่รับจำนำโดยใช้งบประมาณหลวงแพงๆ และมีนักการเมืองรวมหัวกันทุกจริตและปล่อยออกสู่ตลาดไม่ได้ ล้วนเป็นแผนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะเอาสินค้าไปแลกกับรถไฟ สอดคล้องกับข่าวลือเมื่อปลายเดือนที่แล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่เมืองจีนและพยายามต่อรองกับรัฐบาลจีนที่จะเอาสินค้าเกษตรไปแลกกับหัวรถจักร แสดงให้เห็นถึงตัวตนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่คิดแต่เรื่องเงิน
นายชวนนท์ กล่าวอีกว่า แต่แปลกใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่พูดเลยที่น้องสาวตนเองตระบัดสัตย์ไม่พูดเรื่องการขึ้นราคาน้ำมันหรือโครงการจำนำข้าวล้มเหลว และค่าแรง 300 บาท เงินเดือน 15,000 บาท ที่ไม่เป็นไปตามสัญญา มีแต่พูดเป็นลมปากผ่านไปและปลุกปั่นยุยงประชาชนให้มีความเกลียดชังและใช้เป็นเกาะกำบังการทุจริตของตนเองเท่านั้น
“ขอให้ทำบุญสักครั้งด้วยการให้ประชาชนที่ลำบากแทนสุขสบายบ้าง ด้วยการรักษาสัญญา และทำบุญให้ประเทศไทยสักครั้ง เลิกปลุกปั่นสร้างความแตกแยก ให้ประเทศสงบสุขสักครั้งเราคนไทยทุกคนขอร้อง” นายชวนนท์ กล่าว
นายชวนนท์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีการตั้งโต๊ะรับลงชื่อแก้ไขกฎหมายอาญา ม.112 ของคณะนิติราษฎร์ ที่โบนันซ่า แต่ก่อนหน้านี้ กลับบอกว่า คนเสื้อแดงไม่เกี่ยวข้องกับการแก้ ม.112 แต่กลับมีการตั้งโต๊ะอย่างเปิดเผย ดังนั้น ข้อสงสัยในการแก้รัฐธรรมนูญคือเรื่องพระมหากษัตริย์ องค์กรอิสระ การล้างความผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เราเคยตั้งข้อสงสัยนั้นไม่ผิด เพราะพฤติกรรมหลุดมาตลอดว่ามีเจตนาอะไร ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ วิดีโอลิงก์เข้ามาหลังจากมีการเสนอรัฐธรรมนูญเข้าสภาแล้ว เพราะต้องการให้มวลชนสนันสนุนตามวิถีทางที่ต้องการ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องเลือกวันนี้ ถือเป็นการโกหกหลอกลวงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะยังทำต่อไป ด้วยการทำร้ายประเทศไทยจากประเทศต่างๆ แต่ตัวเองสุขสบายอยู่คนเดียว
“ท่านสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนและเกษตรกรเพื่อตอบสนองตัณหาของตนเอง และขอยืนยันว่า ท่านจะต้องเป็นคนจ่ายเงินให้กับประชาชนที่ล้มตายเพราะฝีมือท่าน” นายชวนนท์ กล่าว
ด้าน นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การจัดงานคอนเสิร์ตที่โบนันซ่า ถือเป็นกิจกรรมที่คนเสื้อแดงต้องการเปิดเวทีให้ พ.ต.ท.ทักษิณ สื่อสารกับมวลชนของตนเอง โดยหยิบยกเรื่องบรัฐประหารมาเป็นประเด็น เชิญชวนให้คนเสื้อแดง เพราะถ้าเป็นการชุมนุมคนทั่วไปไม่สามารถที่จะรวมพลกันได้ขนาดนี้ สิ่งที่เห็นบนเวทีครั้งนี้ คือพ.ต.ท.ทักษิณ เดินแผนบันได 3 ขั้น เพื่อให้ตนเองประสบความสำเร็จ คือ บันได้ขั้นที่ 1 การเคลื่อนไหวเข้าไปคุมอำนาจรัฐ โดยส่งน้องสาวเข้าไปเป็นนายกฯตามที่ตนเองต้องการ ขั้นที่ 2 ที่กำลังทำขณะนี้ คือ เตรียมการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แก้กติกาเพื่อตนเอง เชื่อว่า ก็คงจะประสบความสำเร็จหากมวลชนที่ต่อต้านไม่เข้มแข็งพอ และบันไดขั้นที่ 3 คือ จะได้กลับบ้านโดยถูกต้อง และได้คืนสิทธิทางการเมือง รวมถึงได้คืนเงินที่ถูกยึดไป 4.6 หมื่นล้านบาท เมื่อถึงวันนั้นความปรองดองที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดคงจะเป็นจริงขึ้นมาได้ และหากดูจากทวิตเตอร์กลุ่มคนที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ บางคนถึงขนาดพูดว่าทนฟังไม่ไหวเพราะเยอะเกินไป นั้นหมายถึง พ.ต.ท.ทักษิณ แสดงความเป็นผู้นำเป็นนายกฯตัวจริงบนเวทีคนเสื้อแดงอย่างชัดเจน เป็นการทำลายภาวะผู้นำของน้องสาวตนเองและตอกย้ำว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ คือ นอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณ
นายเทพไท กล่าวว่า ปรากฎการณ์ที่โบนันซ่า เป็นสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และแกนนำคนเสื้อแดงต้องการแสดงพละกำลังข่มขู่กลุ่มการเมืองภาคประชาชนกลุ่มอื่น รวมไปถึงกดดันกองทัพเพื่อให้เห็นว่าพวกตนมีความสามัคคีอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตอบย้ำเรื่องความมีเอกภาพของแกนนำกลุ่ม