โฆษกประชาธิปัตย์ ชี้ ครก.โยงแดงชัด รับคนสงสัยรัฐปั่นแก้ รธน.-112 แค่พาสังคมหลงประเด็นลืมตามดูกู้ 3.5 แสนล้าน แฉ “บ.-ด.” นายหน้าโครงการฟื้นฟูน้ำท่วม พร้อมโชว์ข้าวหมูอบไข่พะโล้ราคา 60 บาท สะท้อนค่าครองชีพสูง ฉะพาณิชย์บีบราคาข้าวแกงไม่ยุติธรรมต่อพ่อค้า
วันนี้ (6 ก.พ.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของครก. 112 ที่จะออกรณรงค์ทั่วประเทศให้มีการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า การที่บุคคลกลุ่มนี้ใช้อิมพีเรียลลาดพร้าวซึ่งเป็นถิ่นของคนเสื้อแดงเป็นสถานที่แจกเอกสารรณรงค์ให้แก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ขณะที่พรรคเพื่อไทยก็คือคนเสื้อแดง ย่อมแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงก้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่ควรปฏิเสธในเรื่องนี้ พร้อมกับยืนยันว่าผู้ที่คัดค้านการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ไม่ได้ต่อต้านโดยไร้เหตุผล ตรงกันข้าม กลุ่มนิติราษฎร์กลับไม่สามารถโต้แย้งกลุ่มที่คัดค้านได้ว่าการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 จะเป็นการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไร และตนอยากเห็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีบทบาทในการให้สติและรับฟังข้อมูลทางวิชาการเพื่อลดความขัดแย้ง โดยปราศจากธงที่จะปลุกปั่น หรือปลุกระดมเพื่อให้เกิดความแตกแยกจนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงประเทศ
นายชวนนท์กล่าวด้วยว่า มีคนตั้งข้อสงสัยว่ารัฐบาลพยายามทำให้สังคมหลงทางไปกับประเด็นทางการเมือง ทั้งเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ การแก้กฎหมายอาญามาตรา 112 เพราะสิ่งที่รัฐบาลกำลังมุ่งมั่นทำ คือ การกู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท และยังมีแผนที่จะกู้เงินเพิ่มในอนาคต ซึ่งต้องจับตาการทุจริตมหาศาลที่จะเกิดขึ้น สะท้อนจากผลสำรวจหลายสำนักที่ห่วงว่าการกู้เงินของรัฐบาลจะมีการทุจริตเกิดขึ้น เช่น หอการค้าระบุว่าอาจมีการทุจริตถึง 1 แสนล้านบาทจากการกู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท และในขณะนี้ก็เริ่มมีข่าวแล้วว่า มีการตั้งโต๊ะเป็นนายหน้ารับผิดชอบทำโครงการฟื้นฟูหลังน้ำท่วมของรัฐบาลชุดนี้ทั้งหมด โดยคนที่รับผิดชอบคือคนที่ใกล้ชิดบ้านใหญ่ของรัฐบาล อักษรย่อ นาย บ.ใบไม้ และ เจ๊ ด.เด็ก ที่มีความเชื่อมโยงกับคนที่อยู่เบื้องหลังรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดเพราะเป็นข่าวที่มีมูล
นายชวนนท์ยังได้นำข้าวหมูอบไข่พะโล้ราคา 60 บาทมาแสดงต่อสื่อมวลชนเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่รัฐบาลไม่สนใจจะแก้ปัญหา และไม่เชื่อว่ากระทรวงพาณิชย์จะคุมราคาข้าวแกงได้จริง เนื่องจากนโยบายพลังงานของรัฐบาลซ้ำเติมต้นทุนราคาสินค้าให้สูงขึ้น เมื่อรัฐบาลไม่สามารถลดต้นทุนที่ต้นทางได้ก็ไม่ควรไปบังคับพ่อค้า แม่ค้าข้าวแกงที่ต้องซื้อวัตถุดิบในราคาแพงให้ต้องขายอาหารในราคาที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด เพราะไม่ยุติธรรมต่อพ่อค้าแม่ค้าที่หากินโดยสุจริต เพราะไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหาที่ “รัฐบาลคิดเป็นทำเป็นจะทำ” ทั้งนี้ยังเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ลงพื้นที่สำรวจราคาสินค้าในตลาดด้วยตัวเอง เหมือนกับที่เคยไปจับไข่ที่ตลาดบางกะปิในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง อย่าเดินแต่ตลาด อ.ต.ก.ที่เป็นตลาดคนรวย
