“มท.1” เอาหัวเป็นประกัน ไม่มีรายงานกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อล้มล้างสถาบันใน ตจว.ย้ำแก้ รธน.รัฐบาลไม่แตะหมวดกษัตริย์ วอนสื่อเลิกถามเรื่องไม่จงรักภักดี ยันไม่มีในหัว ลั่นใครคิดก็ไม่มีแผ่นดินจะอยู่ แก้ รธน.ให้เคารพเสียงผู้แทนฯ ปชช.ในสภา
วันนี้ (24 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวว่า มีการกลุ่มล้มล้างสถาบันเคลื่อนไหวในพื้นที่ต่างจังหวัดหลายแห่ง เช่น ที่ จ.อุดรธานี ว่า ยืนยันหัวเด็ดตีนขาดว่าไม่มีเลย กระทรวงมหาดไทยมีเครือข่ายทุกหย่อมหญ้าระดับตำบล และตนก็เพิ่งเดินทางกลับจากไปประชุม ครม.สัญจร ที่ จ.อุดรธานี และขณะนี้ก็ยังไม่มีใครมายื่นเรื่องขอให้ตรวจสอบ คน 63 ล้านคนถ้าจะมีคนบ้าๆ บอๆ ไม่สบาย ไม่สมประกอบสักคนหนึ่งออกมาพูด แล้วก็ขยายกันต่อ ยืนยันว่า ไม่มี ขอให้เลิกคิดเลิกถามได้เลย เพราะเรื่องความไม่จงรักภักดี ไม่มีอยู่ในศีรษะของคนปกติหรอก แต่คนไม่ปกติเราก็ไม่ทราบ เพราะมันเป็นตัวตน อยู่ในสายเลือดของคนไทย ตนในฐานะ รมว.มหาดไทย เคยเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย เคยเป็น ผวจ.มาก่อน บอกได้เลยว่าเรื่องนี้ไม่มี เครือข่ายของกระทรวงมหาดไทยมีทุกหย่อมหญ้าตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน เรามีข้อมูลทุกตารางนิ้วของประเทศไทย ไม่เคยได้ยินข่าวพวกนี้ ก็อย่าได้พยายามสร้างกระแสความขัดแย้ง สร้างความคิดนี้ขึ้นมาเพราะมันไม่มี ตนตอบได้ชัดเจนและไม่ลังเล ยืนยันแทนพี่น้องประชาชนได้ทั่วประเทศ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้ตรวจเช็กอยู่แล้ว ถามไปก็ไม่มี ตนออกไปต่างจังหวัดเยอะก็ไม่เคยมีใครมาให้ข้อมูลเรื่องนี้เลย มีแต่ความจงรักภักดี ซึ่งก็ทราบข่าวดีมาว่าพระองค์ทรงมีพลานามัยแข็งแรงขึ้นเป็นข่าวดีของพสกนิกร
เมื่อถามว่า ตั้งแต่ช่วงที่บ้านเมืองเกิดความวุ่นวายในปี 2552-2553 ที่ผ่านมา มีการสาดโคลนกันไปมาว่าบางกลุ่มจะล้มล้างสถาบัน นายยงยุทธ กล่าวว่า แล้วมีหรือไม่ ดูจากการที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี มางานรักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรฯ มารับหรือไม่ ถ้า นายจตุพร พรหมพันธุ์ เป็นรัฐมนตรีก็ต้องมายืนรับเหมือนกัน นี่ระดับประธานองคมนตรีทุกคนก็เคารพ สำหรับสถาบันที่สูงส่งกว่านั้นยิ่งไม่มีปัญหา ทั้ง นายขวัญชัย ไพรพนา นพ.เหวง โตจิราการ นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธาน นปช.ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันหมดแล้วว่าเรื่องพวกนี้ไม่มี
เมื่อถามว่า มองว่า บางกลุ่มชูประเด็นนี้ขึ้นมาไปโยงกับการต่อต้านการที่รัฐบาลเดินหน้า แก้รัฐธรรมนูญ โดยพรรคประชาธิปัตย์โจมตีว่าจะไปแก้ไขโยงหมวดพระมหากษัตริย์หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า “ก็ลองไปแตะดูเถอะ เขาจะพูดก็พูดไป แต่เราก็ยืนยันว่าเราไม่แตะ ใครก็ตามที่ลองไปแตะดู จะไม่มีแผ่นดินจะอยู่ และผมคิดว่าคนที่มาแตะไม่มีด้วย ยืนยันว่า ไม่มี แต่ก็พยายามที่จะพูดใส่ร้ายป้ายสีกันมา มีมาตั้งแต่อดีต ในยุคปัจจุบันนี้คนเข้าใจเท่าเทียมกันหมด การสื่อสารเร็วจี๋ ประเด็นพวกนี้สื่อเองไม่ต้องมาถามพรรคเพื่อไทย และไม่ต้องไปถามใครที่เป็นคนไทยว่ามีความคิดเรื่องนี้อย่างไร เสียเวลา คุยเรื่องอื่นดีกว่า เพราะไม่มีอยู่ในความคิด” นายยงยุทธ กล่าวว่า
รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ตนเชื่อมั่นว่า ประเด็นเรื่องนี้จะไม่มีผลเป็นอุปสรรคต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ คอยดูแล้วกัน ถ้าดูจากผลคะแนนเสียงในสภาฯจากการโหวตลงมติเลือนหรือไม่เลื่อนการพิจารณา ญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ผลออกมา 341 เสียง ต่อ 180 ให้พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งถ้าเราต้องการระบอบการปกครองอย่างนี้ก็ต้องเคารพประชาชน โดยผ่านทางเสียงของผู้แทนประชาชนในรัฐสภา เมื่อตอนที่มีการรัฐประหาร ทำไมบางฝ่ายเงียบกริบ แต่พอพรรคเพื่อไทยหาเสียงและแจ้งว่าเราจะแก้รัฐธรรมนูญ เราก็ทำตามพันธะสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ทำตามนโยบาย มันจะเอาตรงไหนมาเกี่ยวว่าจะมาช่วยคนๆ เดียว จะไปลดพระราชอำนาจหรือไปแตะต้องหมวดพระมหากษัตริย์หรือจะไปเกี่ยวกับประมวล กฎหมายอาญา ม.112
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองบทบาทนายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายอย่างไรที่ออกมาคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยขอให้รอร่างรัฐธรรมนูญภาคประชาชนก่อน นายยงยุทธ กล่าวว่า ไม่อยากวิจารณ์ท่านอื่น คิดว่าการทำอะไรของใครก็ตามเมื่ออ้าปากพูดขึ้นมาเราก็จะทราบว่าท่านนั้นพูด มีวาระซ่อนเร้นหรือพูดเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติประชาชน พออ้าปากพูดสื่อก็แทบจะจับได้ว่าพูดเพื่อให้เกิดปัญหา ความแตกแยกหรือพูดเพื่อให้เกิดความปรองดอง สังคมเกิดความสงบสุขก็จะจับคำพูดได้ทันที เมื่อถามว่า มองว่า แม้จะมีกระแสต่อต้านขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ล่าช้า แต่ด้วยเสียงในสภาฯ รัฐบาลจะผลักดันให้แก้รัฐธรรมนูญไปได้ตลอดรอดฝั่ง นายยงยุทธ กล่าวว่า จะเป็นไปได้หรือไม่อยู่ที่สิ่งที่เราทำเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติประชาชนและ ต้องไว้วางใจตัวแทนของราษฎรที่เขาได้เลือกตั้งมา ถ้าเราไว้ใจระบอบประชาธิปไตยก็ต้องไว้ใจประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ด้วย ถ้าเราฟังเสียงประชาชนเหมือนประเทศที่เขาเจริญแล้วทุกอย่างก็จะจบ แต่ที่ทุกอย่างไม่จบเพราะไม่ฟังเสียงประชาชน แต่ไปฟังเสียงผู้มีอำนาจบางคนบางกลุ่ม และจะทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ ปัญหาถึงได้ขึ้นจนทุกวันนี้ แต่ถ้าเรามีจิตใจเชื่อมั่นและเคารพการตัดสินใจของประชาชน เคารพผลของการเลือกตั้ง และเคารพมติของผู้แทนประชาชนเรื่องทุกเรื่องก็จะจบ เหมือนในประเทศใหญ่ๆ ประเทศอื่น ความเห็นที่แตกต่างกันก็มีเยอะแต่จะมาจบลงที่เสียงของประชาชน และเสียงตัวแทนประชาชน
เมื่อถามว่า เสียงของรัฐบาลในสภาฯคงไม่มีปัญหา แต่ก็มีเสียงกลุ่มต่อต้านที่เคลื่อนไหวต่อต้านทุกสัปดาห์ นายยงยุทธ กล่าวว่า เสียงในสภาฯมาจากไหน แต่งตั้งโดยคนหนึ่งคนใดหรือไม่ หรือแต่งตั้งโดยคนทีเปลี่ยนแปลงโดยใช้กำลังหรือเปล่า หรือเสียงในสภาฯเป็นเสียงที่ประชาชนเขชาเลือกตั้งมาโดยยุติธรรมและเสรี สื่อทุกคนเป็นพยานได้ว่าการเลือกตั้งครั้งหลังสุดที่พรรคเพื่อไทยชนะเลือก ตั้งมาอย่างถล่มทลายไม่มีการใช้เงิน ซื้อเสียง เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วก็ต้องเคารพเสียงของประชาชนในสภาฯ